Continuous Glucose Monitoring:What Guideline Said?
ข้อมูลพื้นฐาน
ผู้ป่วยเบาหวานควรได้รับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ได้ใกล้เคียงกับค่าปกติให้มากที่สุด เพื่อจะช่วยลดอุบัติการณ์ของการเกิดภาวะแทรกซ้อนของหลอดเลือดขนาดเล็กและขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่พบมากในผู้ป่วยที่ควบคุมระดับน้ำตาลอย่างเข้มงวดเพื่อให้ได้ระดับน้ำตาลในเลือดตามเป้าหมายการรักษา คือ ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำจนบางครั้งผู้ป่วยอาจหมดสติ หรือเสียชีวิตได้ ดังนั้น การติดตามระดับน้ำตาลในเลือดอย่างต่อเนื่องจะช่วยป้องกันปัญหาดังกล่าวได้
Continuous glucose monitoring (CGM) เป็นเครื่องมือที่ใช้วัดระดับน้ำตาลในเลือดโดยการใช้ sensor ที่ติดไว้ที่ชั้นใต้ผิวหนัง (subcutaneous) ซึ่งจะทำการวัดระดับน้ำตาลและส่งค่าที่อ่านได้ไปยังเครื่องรับ โดยการส่งค่าที่อ่านได้อาจส่งผ่านสายเล็ก ๆ หรือแบบไม่ใช้สาย (wireless) เครื่องรับจะทำการเฉลี่ยค่าระดับน้ำตาลที่วัดได้และบันทึกเป็นค่าระดับน้ำตาลในเลือดให้ การวัดแบบนี้จะสามารถทำได้มากกว่าการใช้การเจาะระดับน้ำตาลปลายนิ้ว กล่าวคือ ทำให้ทราบถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของค่าระดับน้ำตาลในเลือดตลอดเวลาที่ใช้ ส่วนการรายงานผลนั้นทำได้หลายวิธี ได้แก่ การนำเครื่องมาโอนถ่ายข้อมูลลงในคอมพิวเตอร์ หรือแสดงให้ผู้ป่วยเห็นที่จอของเครื่อง ซึ่งเรียกว่า real time continuous glucose monitoring system (RT-CGM) ทั้งนี้ต้องคำนึงอยู่เสมอว่าระดับน้ำตาลที่วัดได้นั้นเป็น interstitial glucose (ไม่ใช้ blood glucose) โดยปกติแล้ว blood glucose จะใช้เวลาซึมผ่านเข้าไปยัง interstitium เกิดเป็น interstitial glucose โดยอาจใช้เวลานานถึง 20 นาทีที่จะทำให้ค่าทั้งสองเท่ากัน อนึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับการวัดแบบ point of care ของการวัดระดับน้ำตาลในเลือดด้วยเครื่องวัดระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตนเอง (self-monitoring blood glucose,SMBG) การวัดระดับน้ำตาลในเลือดด้วยวิธี CGM นั้นสามารถตรวจพบภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำได้ในระหว่างช่วงของการวัดแบบ SMBG จึงทำให้ผู้ป่วยปลอดภัยมากขึ้น
ข้อเสนอแนะในแนวปฏิบัติทางคลินิกฉบับปัจจุบัน
จากแนวทางการรักษาของ The Endocrine Society ได้แนะนำไว้ดังนี้
RT-CGM ในผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล : ไม่ควรใช้เดี่ยว ๆ ในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยที่อยู่ในหอผู้ป่วยวิกฤตหรือไม่ ควรใช้ในห้องผ่าตัด จนกว่าจะมีหลักฐานเชิงประจักษ์สนับสนุนว่ามีประโยชน์และมีความปลอดภัยในผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าว
RT-CGM ในผู้ป่วยเด็กและผู้ป่วยผู้ใหญ่ : แนะนำให้ใช้ RT-CGM (เครื่องที่ได้รับการขึ้นทะเบียน) ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ (HbA1C < 7%) จุดประสงค์ของการใช้ RT-CGM คือ เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อการเกิดระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ (ระดับน้ำตาลในเลือดน้อยกว่า 70 mg/dL) อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลที่สนับสนุนการใช้ RT-CGM ในผู้ป่วยที่อายุน้อยกว่า 8 ปี
RT-CGM ในผู้ป่วยนอก : สามารถใช้ RT-CGM ในผู้ป่วยผู้ใหญ่ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 1 ที่มีความสามารถที่จะใช้เครื่องมือนี้ได้
ประโยชน์และการนำไปใช้ในประเทศไทย
หลักฐานทางวิชาการสนับสนุนการใช้ CGM ในผู้ป่วยที่แพทย์มีความกังวลต่อภาวะ nocturnal hypoglycemia, dawn phenomenon, postprandial hyperglycemia, hypoglycemic unawareness อย่างไรก็ตาม การใช้ CGM นั้นยังไม่เป็นที่แพร่หลายนักในประเทศไทย ซึ่งอาจเกิดจากหลายปัจจัยทั้งในเรื่องของราคา และความสะดวกของผู้ป่วย
Continuous glucose monitoring (CGM) .... ดีมากสมกับคำ ว่า...Continuous จริงๆๆ ค่ะ.... แต่
ราคาแพงไหม?
ราคาเท่าไหร?...
ชาวบ้าน...ที่หา...กินค่ำ....ชื่อได้ไหม?....
ในยุค...บริการฟรีทุกอย่าง...โรคDM...เต็มบ้านเมืองไปหมดนะคะ