" ระะบบการศึกษาที่แก้ความทุกข์ยากของคนทั้งแผ่นดิน 2 " ซึ่งบันทึกค้างไว้ คราวนี้จะเป็นตอนสุดท้าย ........สรุปไว้ ดังนี้
........พลังชีวิตนั้นมหาศาล ไม่ได้มีแต่พลังกายหรือพลังความรู้อะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น หากแต่พลังจิตสำนึกนั้นมีพลังมหาศาล ศักดิ์ศรีและคุณค่าความเป็นคนของทุกคนนันเป็นพลังสร้างสรรค์อนมโหฬาร ชีวิตนั้นสะสมความรู้ความชำนาญไว้อย่างมหาศาล
ระบบการศึกษาที่เอาชีวิตเป็นตัวตั้ง ต้องเคารพศักดิ์ศรีแลคุณค่าความเป็นคนของคนทุกคน เคารพความรู้ในตัวตน และก่อให้เกิดดการระเบดพลังจิตสำนึก ที่เรียกว่า " ระเบิดพลังออกมาจากข้างใน"
อย่าเป็นห่วงว่า ว่าการศึกษาเอาชีวิตเป็นตัวตั้งแล้ววิชการการจะอ่อนแอ ตรงกันข้าม ถ้าเราพลังการเรียนรู้ออกมาจากภายในแล้ว มนุษย์สามารเรียนรู้ให้บรรลุอะไร ก็ได้ทั้งสิ้น
ระบบการศึกษาที่แก้ความทุกข์ยากของคนทั้งแผ่นดิน ดูเหมือนยาก แต่ก็มีวิธีการง่าย ๆและทำแล้วมีความสุข คือ ใครรู้ว่าอะไรดีก็เกาะกลุ่มกันทำ ไม่ต้องรอขออนุมัติ เพราะการทำความดีไม่ต้องขออนุมัติ การมีกลุ่มทำเรื่องอะไร ดี ๆอย่างหลากหลาย แล้วพากันชื่นชม เห็นคุณค่าในเรื่องดี ๆ เหล่านั้น แลกเปลี่ยนเรียนรู้จากกันเชื่อมโยงกันเป็นเครือข่าย ไม่ว่ากลุ่มไหนทำอะไรก็ตาม เช่น เรื่องแก้ปัญหาความยากจน เรื่องสุขภาพ สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม ธุรกิจเพื่อสังคม การสื่อสาร ฯลฯ ต้องถือว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการศึกษาทั้งสิ้น เพราะการศึกษาอยู่ในทุกเรื่อง และทุกเรื่องต้องอยู่ในการศึกษา
แบบนี้ ทุกคนก็มีความหมาย ทุกคนทำได้ การมีกลุ่มเครือข่ายทำให้เกิดพลังสร้างสรรค์และความสุข ก้าวข้าม ( Trancend) ข้อจำกัดทั้งปวง ดำเนินไปบนวิถีดุลยภาพ ยิ่งเคลื่อนไป ๆ ก็จะเกิดดุลยภาพในชีวิต ดุลยภาพในสังคม และดุลยภาพในสิ่งแวดล้อม เป็นการอยู่ร่วมกันด้วยสันติ ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ มนุษย์กับธรรมชาติแวดล้อม และสามารถพัฒนาจิตให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปด้วย จิตตปัญญาศึกษา เป็นสุข สงบชั่วกาลนาน เพราะกระบวนการเรียนรู้ที่ดี
......หลังจากอ่านสรุป " ระบบการศึกษาที่แก้ความทุกข์ยากของคนทั้งแผนดิน" ในฐานะที่เป็นผู้รับผิดชอบการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ประจักษ์ว่า สอดคล้องและเป็นไปตาม 5 เสาหลักการจัดกระบวนการส่งเสริมการเรียนรู้ ของ กศน. คือ เรียนเพื่อรู้/ เรียนเพื่อปฏิบัติ/ เรียนรู้เพื่อชีวิต/เรียนเพื่อจะอยู่ร่วมกัน และเรียนรู้เพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่ดี