536. พบพระ(ธรรมโกศาจารย์)และประธานาธิบดีศรีลังกา


ธรรมะจัดสรร

 

พบพระ(ธรรมโกศาจารย์)และประธานาธิบดี

 

วันที่ 8 พค. 2555 วันที่ผมอยู่ในศรีลังกาเป็นวันที่ 79 วันพอดี เป็นอีกวันหนี่งที่มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้น คือตั้งแต่เช้า ผมได้ไปร่วมพิธีการประชุมของ  World Buddhist Sangha Congregation   for World Peace ซึ่งจัดขึ้นที่โรงละครแห่งชาติ หรือที่เรียกเป้นทางการว่า The Nelum Pokuna (Lotus Pond) Mahinda Rajapaksa Theatre  ซึ่งจีนสนับสนุนค่าก่อสร้างสมทบเป็นเงินกว่า 2 พันล้านรูปี เปิดใช้ไปเมื่อปลายปี 2554 นี้เอง  เป็นโรงละครที่สวยงามมีเอกลักษณ์ ใหญ่โตและสมบูรณ์แบบแห่งหนึ่ง  การจัดงานทางพุทธศาสนานี้จัดได้เป็นระเบียบเรียบร้อยดี ที่นั่งแต่ละที่บอกชื่อแขกรับเชิญชัดเจน พระสงฆ์นั่งบริเวณแถวหน้าทั้งหมด ส่วนคณะทูตได้นั่งแถวเดียวกับประธานาธิบดีและรัฐมนตรี บนเวทีมีการสร้างฉากได้อย่างงดงาม

พิธีการเป็นไปตามลำดับ มีการแสดงที่ยิ่งใหญ่และงดงามตระการตา

ในงานวันนี้ พระธรรมโกศาจารย์จากประเทศไทยได้ขึ้นกล่าวด้วย ท่านพูดได้ดีมากและเป็นผู้เดียวที่ผมเห็นว่าพูดได้ไพเราะ ตรงและมีสาระที่สุด โดยเฉพาะเรื่องหน้าที่ของชาวพุทธและัสินติภาพ ที่ต้องเกิดขึ้นในใจก่อนเท่านั้น...นอกนั้นเป็นการสวดมนต์ตามสไตล์ของพระสงฆ์แต่ละนิกายที่มาจากทั่วโลกได้แก่เถรวาท มหายานและวชิรญาณ

วันนี้เป็นวันที่ผมได้พบทั้งพระ คือพระธรรมโกศาจารย์และประธานาธิบดีศรีลังกาโดยได้เข้าไปพบประธานาธิบดีพร้อมกับคณะของพระธรรมโกศาจารย์ ท่านประธานาธิบดีมหินดาเป็นผู้ที่รู้จักนำหลักการพุทธมาใช้กับสังคมได้อย่างน่าชื่นชม เช่นท่านบอกว่าได้ออกกฏห้ามการดื่มเหล้าในที่สาธารณะ มีส่วนช่วยลดการดื่มเหล้าของประชาชนได้ดี ในส่วนของประเทศไทย ท่านประธานาธิบดีขอบคุณและชื่นชมประเทศไทยที่เข้าใจศรีลังกาและที่ผ่านมาได้สนับสนุนศรีลังกาในเรื่องสิทธิมนุษยชนในเวทีระหว่างประเทศ

ต้องบอกว่าความสัมพันธ์ระหว่างพุทธศาสนาระหว่างไทยกับศรีลังกานั้นแนบแน่น โดยเฉพาะพระสงฆ์ไทย เช่นพระธรรมโกศาจารย์ได้รับการเคารพและนับถือจากคนศรีลังกาทุกระดับ ทำให้ผมรู้สึกว่าโชคดีที่จะทำหน้าที่ทูตได้อย่างสะดวกมากขึ้น (กราบขอบพระคุณครับ)

ผมได้มีโอกาสนิมนต์พระธรรมโกศาจารย์และคณะรวมทั้งพระศรีลังการะดับผู้นำมาที่ทำเนียบเอกอัครราชทูตที่โคลัมโบ ได้สนทนาและหารือกับท่านหลายเรื่อง ทั้งเรื่องที่ประธานาธิบดีศรีลังกาจะเดินทางไปประเทศไทยระหว่างวันที่ 29 พค. ถึง 2 มิย. 2555 เพื่อเยือนไทยและร่วมการประชุมพุทธนานาชาติที่ มจร.ในโอกาสวันวิสาขบูชาและเรื่องการฉลองวาระสำคัญ 260 ปีสยามวงศ์ในปีหน้า

ผมได้เรียนท่านเจ้าคุณพระธรรมโกศาจารย์ว่าตั้งแต่มาอยู่ที่ศรีลังกา 80 กว่าวัน ได้ไปเยี่ยมวัดพุทธหลายสิบวัด ทั้งนิกายสยามวงศ์และอมรปุระนิกาย ได้พบเห็นพระและพุทธศาสนิกชนศรีลังกามาระยะหนึ่ง พบในเบื้องต้นว่าเรื่องความศรัทธานั้นเต็มร้อย แต่การปฏิบัติยังอยู่ในระดับที่เรียกว่าสมถะภาวนาคือนิยมการการทำบุญทำทานและสวดมนต์เป็นหลัก คนศรีลังกาสวดมนต์เก่งโดยเฉพาะพระปริตรและพาหุง มีบ้างที่นั่งสมาธิแต่ยังไม่ถึงการปฏิบัติวิปัสสนาซึ่งพระสงฆ์ศรีลังกาส่วนใหญ่ยอมรับกับผมเองว่าเป็นความจริง ด้วยเหตุที่ทุกสัปดาห์ วัดจะกลายเป็นโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์และทุกวันพระใหญ่จะมีพุทธศาสนิกชนมาวัดกันล้นหลามทำให้พระไม่มีเวลาที่จะสอนการปฏิบัติขั้นสูงหรือลึกซึ้งเช่นวิปัสสนาเพราะต้องดูแลพุทธศาสนิกชนที่มาวัด แม้พระสงฆ์ศรีลังกาเองก็นิยมพิธีการสั้นๆ สวดมนต์สั้นๆ นิยมผู้ข้อมือด้วยสายสิณ ให้บูชาต้นโพธิ์ บูชาพระบรมสารีริกธาตุแล้วปล่อยให้คนไปนั่งปฏิบัติเองเงียบๆ ผมจึงได้เรียนท่านเจ้าคุณฯ ว่าอยากให้พระสงฆ์ไทยไปศรีลังกาให้มากขึ้นเพราะที่ผ่านมามีน้อยมากอย่างไม่น่าเชื่อ ความสัมพันธ์ระหว่างพระทั้งสองประเทศจางและขาดหายไปนาน เหตุผลนั้นอาจจะมาจากทั้งจากสถานการณ์ที่เคยไม่สงบในศรีลังกาและเหตุที่เมื่อพระไทยไปศรีลังกาแล้วไม่มีวัดอยู่ การศึกษาที่ศรีลังกาก็ค่อนข้างจำกัดและยาก พระสงฆ์ไทยส่วนใหญ่จึงนิยมไปเรียนต่อที่อินเดียมากกว่า สถานการณ์แบบนี้ทำให้พระศรีลังกาไม่ค่อยได้ปฏิสัมพันธ์กับพระสงฆ์ไทยและทำให้วิถีพุทธแตกต่างกัน ความเคร่งครัดต่างกัน ก็เป็นสิ่งที่น่าคิด

ผมได้เรียนท่านเจ้าคุณด้วยว่าในวระ 260 ปี สยามวงศ์ที่จะถึงในปีหน้านี้ น่าจะเป็นโอกาสดีที่จะมีการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศในทุกด้าน โดยเฉพาะด้านพุทธศาสนาซึ่งผมก็ดีใจที่ท่านเจ้าคุณพระธรรมโกศาจารย์ตอบว่ายินดีจะสนับสนุนอย่างเต็มที่

ก็เป็นอีกวันที่ผมได้ทำหน้าที่ได้อย่างมีความสุขและเป็นกุศล ยังมีงานอีกหลายอย่างต้องดำเนินการต่อไป เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชนของทั้งสอง ซึ่งผมมักจะบอกกับบุคคลสำคัญต่างๆ ของศรีลังกาที่ผมได้มีโอกาสพบว่าไทยกับศรีลังกาเป็นคนครอบครัวเดียวกันคือครอบครัวพุทธ มีอะไรเราก็ต้องช่วยกัน หากคิดได้เช่นนี้ ก็จะมีแต่สิ่งดีๆ เกิดขึ้น จากนี้ไปจนถึงปีหน้า ผมคงจะต้องเดินก้าวไปอย่างไม่หยุดยั้งเพื่องานที่ยิ่งใหญ่นี้ ก็ขอให้ติดตามกันต่อไปและเป็นกำลังใจกันด้วยนะครับ

ด้วยความปรารถนาดี

 

 

หมายเลขบันทึก: 487880เขียนเมื่อ 12 พฤษภาคม 2012 23:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 มิถุนายน 2012 00:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

อนุโมทนาท่านทูต...

หวังว่าคงจะได้มีโอกาศร่วมงานกันท่านในวาระอื่นๆ อีก โดยเฉพาะวิสาขบูชาโลก

ชื่นชมความอลังการดูแล้วเย็นตาเย็นใจ

 

นมัสการครับ

ยินดีครับ ผมไปร่วมพิธีเปิดการประชุมนานาชาติแน่นอนครับ

กราบนมัสการท่านพระครูปลัดสุวัฒนวชิรคุณด้วยครับ  ขอความกรุณาจัดที่นั่งให้ผมในพิธีเปิดด้วยครับ เพื่อจะได้ต้อนรับประธานาธิบดีได้อย่างใกล้ชิด ฝ่ายพิธีการจากกระทรวงฯ คงให้คำแนะนำได้ครับ

นอกจากนั้น หากจะมีพิธีให้ประธานาธิบดีได้ทำเป็นที่ระลึกเช่น ปลูกต้นไม้(ต้นโพธิ์)ก็น่าจะเหมาะสมครับเพราะต้นไม้เป็นสิ่งที่เชื่อมใจได้นาน เป็นสัญญลักษณ์ของการยึดมั่นในพุทธศาสนาครับ อีกสิ่งหนึ่งระหว่าง มจร.กับศรีลังกาก็คือการให้ทุนพระศรีลังกามาศึกษาในประเทศไทย ก็น่าจะพิจารณาครับ

นมัสการขอบพระคุณครับ

Ico24 ป., และ Ico24 ยายธี.

ขอบคุณครับ

ศรีลังกาศรัทธาในพุทธศาสนามาก โดยเฉพาะในระดับผู้บริหารบ้านเมือง สิ่งหนึ่งที่ผมเห็นและเชื่อว่าเป็นเหตุให้เป็นเช่นนี้คือวิถีพุทธที่หล่อหลอมคนศรีลังกามาตั้งแต่เด็ก เช่นการไปวัดเพื่อถวายอาหารและทำบุญ การเรียนพุทธศาสนาในวันอาทิตย์ ทำให้คนคุ้นเคยกับวัดมาตลอดชีวิต ต่อมาเป็นผู้ปกครองประเทศ ก็เลยได้ช่วยส่งเสริมพุทธศาสนาเป็นอันดับแรก

เช่นกำหนดให้ทุกวันพระใหญ่เป็นวันหยุดราชการ ในวันนั้นห้ามจำหน่ายหรือดื่มเหล้า มีการห้ามดื่มเหล้าในที่สาธารณะด้วย สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ผู้มีอำนาจควรทำเพื่อประชาชน

เจริญสุขครับ

อาทิตย์อรุณสวัสดิ์ค่ะท่านเอกฯ

ได้เห็นภาพบรรยากาศ ก็พลอยยิ้มอิ่มเอม มีความสุข สงบ ไปด้วยเลยเจ้าค่ะ

ถือเป็นนิมิตหมายอันดีในการดำรงและคงมั่นของพุทธศาสนาเรา ส่งกำลังใจค่ะ

วิสาขบูชาโลกปีนี้ คงยิ่งใหญ่ตระการตาเช่นเคย จะรอติดตามแน่นอนเจ้า

ปล. เรื่องเยือนพุทธภูมิอินเดีย ยังไม่คืบหน้าค่ะ เอ หรือจะเปลี่ยนแผนไปศรีลังกา จะมั่นใจกว่าไหมหนอเจ้าคะ :)

 

ยินดีครับ ประเทศไทย โดย มจร.จัดงานวิสาขบูชาโลกได้ยอดเยี่ยมทุกปีครับและเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ อย่างไรก็ดี ผมทราบมาว่าศรีลังกาก็อยากเป็นเจ้าภาพจัดเหมือนกัน ก็ให้กำลังใจศรีลังกานะครับเพราะเขาเป้นประเทศที่ช่วยรณรงค์เรื่องพุทธศาสนาอย่างเข้มแข็งมาตั้งแต่ต้นและเป้นประเทศเดียวที่ยังเข้มแข็งอยู่ 

หากไปศรีลังกา แนะนำไปช่วงสิงหาคมเพราะจะมีงานเปราเฮราใหญ่ีที่แคนดี้ครับ 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท