ความสำคัญอยู่ที่การปฏิบัติ...(ให้โอวาทพระใหม่)





เราจะบวชเก่าบวชใหม่ไม่สำคัญ จะเป็นพระเป็นโยมไม่สำคัญ ความสำคัญอยู่ที่พวกเราและท่าน ได้นำพระธรรมคำสั่งสอนมาประพฤติปฏิบัติ

Large_152

 


ทุกท่านทุกคนถือว่ามีเวลาน้อย พระพุทธเจ้าท่านสอนเราให้เรามีสติ ให้อยู่กับกายให้อยู่กับใจ ไม่ว่าเราจะเดินจะนั่งจะนอน จะยืน ให้ใจของเราอยู่กับกาย เราอย่าไปส่งใจของเราออกไปข้างนอก ถ้าเราส่งออกไปข้างนอกมากใจของเราก็จะวุ่นวาย ไม่สงบ


มาฝึกให้กายกับใจของเราอยู่ด้วยกัน ไม่ว่าเราจะทำอะไรอยู่ต้องให้กายกับใจอยู่ด้วยกัน เราจะเดินบิณฑบาตก็ให้ใจของเราอยู่กับที่เราเดินบิณฑบาต ให้ใจของเราอยู่กับขาขวาขาซ้าย อยู่กับการ เปิดบาตรปิดบาตร ไม่ต้องส่งใจออกข้างนอกมองโน่นมองนี่

 

Large_sche025


เวลาเรากลับจากบิณฑบาตให้ใจของเราอยู่กับการเดิน เราเป็นพระหนุ่ม เป็นสามเณร เป็นตาผ้าขาว หรือเป็นลูกศิษย์พระ เมื่อหมดหมู่บ้านแล้วก็รับเอาบาตรจากครูบาอาจารย์หรือพระที่มีพรรษามาก เดินไปก็ไม่ต้องพูดกัน ไม่ต้องคุยกัน ไม่ต้องพูด ให้สำรวมกาย วาจา ใจ


เรามาถึงศาลา วางบาตรแล้วก็เก็บผ้าจีวร พับผ้าสังฆาฏิให้เรียบร้อย แกะบาตร ทำความสะอาดบาตรตั้งไว้ให้เรียบร้อย ถ้ามันยังไม่ถึงเวลาที่จะฉันอาหาร เราก็กราบพระไปเดินจงกรมคอยเวลา หรือว่าเรา จะนั่งสมาธิบนอาสนะสงฆ์ที่เราปูผ้าปูนั่งไว้

 

 


เราสำรวมกายวาจาใจให้ดี ๆ ไม่ต้องพูดไม่ต้องมองใคร ให้ฝึกจิตใจให้มันอยู่กับเนื้อกับตัว มันไม่อยู่ กับเนื้อกับตัวก็ท่องพุทโธ ๆ ไว้ในใจ ถ้าเราไม่ท่องพุทโธ ๆ ไว้ในใจเราก็ฝึกอานาปานสติ ฝึกหายใจเข้ายาวก็รู้ หายใจออกยาวก็รู้ หายใจเข้าสั้นก็รู้ หายใจออกสั้นก็รู้ ลมหายใจละเอียดก็รู้ ลมหายใจหยาบก็รู้


ฝึกอยู่กับลมหายใจ ไม่ต้องคิดอะไร ให้มันอยู่กับลมหายใจเข้าลมหายใจออก มันจะสงบหรือไม่สงบ ก็ช่างหัวมัน เรามีหน้าที่หายใจเข้าให้มันสบาย หายใจออกให้มันสบาย รู้ลมเข้าก็ให้มันสบาย รู้ลมออก ก็ให้มันสบาย


เรามาบวชมาปฏิบัติ เรามีโอกาสน้อย มีเวลาน้อย ต้องตั้งอกตั้งใจฝึกให้มันมาก ๆ นะ

 

Large_sche032


ถึงเวลาฟังเทศน์ฟังธรรมก่อนฉัน เราก็นั่งฟังธรรม ตั้งใจฟังธรรมะที่พระเอามาเทศน์ ครูบาอาจารย์เอามาแสดง ทั้งหมดมันเป็นพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งนั้น พระมาเทศน์มาสอน วันไหนก็จะมาบอกมาสอนให้ตั้งใจประพฤติปฏิบัติ ส่วนใหญ่ก็พูดแต่เรื่องเก่า ๆ พูดแล้วพูดอีกจนเราเป็นผู้ฟังรู้ก่อนอีก เราก็ตั้งใจฟังไป จะชอบใจหรือไม่ชอบใจก็ช่างหัวมัน ฟังไป


เวลาให้พรก็ตั้งใจสวดดี ๆ เสียงดัง ๆ สวดให้มันเพราะ ๆ


เวลากราบพระจะไปตักอาหารก็กราบให้ดี ๆ ให้ได้เป็นเบญจางคประดิษฐ์ อย่าไปมักง่าย เหมือนตะครุบกบ มันมักง่ายเกิน กราบแต่ละครั้งจิตใจของเราต้องถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ ไม่ใช่สักแต่ว่ากราบ เรากราบแต่ละครั้งต้องให้มันเป็นบุญเป็นกุศล อย่าไปทำพอไปทีสักแต่ว่ากราบ


เวลาเราหมุนตัวก่อนที่จะลุกขึ้นให้ระวังแก้วน้ำ ระวังกระโถน ระวังบาตร ระวังมันจะร่วง ถ้าเราไม่ระวังมันอาจจะเสียงดัง เสียงกระโถน เสียงบาตร เสียงแก้วดังสนั่นหวั่นไหวได้…


เวลาจับบาตรอุ้มบาตรประคองให้ดี ๆ ประคองบาตรด้วยความนอบน้อม สองมือ อย่าไปเอามือ หิ้วขอบบาตรข้างเดียว เดินแกว่งแขน อย่างนั้นไม่ถูกวิธี ต้องประคองดี ๆ

Large_tt879

 


บาตรของพระ คือสมบัติที่พระพุทธเจ้าได้ประทานให้กับผู้ที่เข้ามาบรรพชาอุปสมบท ในพระพุทธศาสนา ให้รักเคารพนับถือเหมือนกับเป็นเศียรของพระพุทธเจ้า หรือเปรียบเสมือนลูกกะตา ของเรานี้ ไม่ให้กระทบกับสิ่งใด ๆ

 

 

“พระพุทธเจ้าท่านให้เราปฏิบัติต่อบาตรด้วยความเคารพอย่างนี้”


เวลาเราล้างบาตรเราต้องล้างให้สะอาดไม่ให้มีกลิ่น ไม่ให้มีอามิสติดอยู่ในบาตร


เวลาเราล้างบาตรเสร็จ ต้องเอาผึ่งแดดสักสองสามนาที ไม่เกินห้านาที เพื่อให้บาตรมันแห้ง บาตรมันไม่อับไม่ชื้น ไม่ให้เอาบาตรไปตากจนลืมเก็บ

 

 


เวลาเราไปตักอาหารก็ให้เราเดินสำรวมเป็นแถว อย่าไปโผล่ออกทางซ้าย อย่าไปโผล่ออกทางขวา อย่าไปแซงหน้าแซงหลัง หรืออย่าไปช้าเกิน ต้องให้พอเหมาะพอดี เวลาเราตักอาหารเราต้องกะประมาณ ให้พอดี “ถ้าอาหารน้อยเราก็ตักน้อย ถ้าอาหารมากเราก็ตักพอดี”


Large_dsc00080


ถ้าเราตักมากมันก็จะเหลือ ถ้าเราตักมากผู้ที่อยู่ข้างหลังก็จะไม่ได้เพราะของมันน้อย เดี๋ยวผู้ที่อยู่ ข้างหลังเขาจะคิดในใจว่าเราเป็นผู้ที่มีกิเลสมาก เดี๋ยวเขาจะคิดในใจว่าเมื่อไหร่หนอเราจะบวช ได้หลายพรรษา เราจะได้อยู่ข้างหน้า


เราเป็นพระเราเป็นเณรเราต้องฉลาด อย่าไปเห็นแก่ตัว ต้องเห็นแก่คนอื่นด้วย
เราอย่าเป็นคนถ้าชอบอันไหนเอาอันนั้นจนคนอยู่ข้างหลังส่ายหัว “ไม่ได้ น่าเกลียด”


เห็นอาหารมาก ๆ เราอย่าไปงง อันนี้ก็อร่อย อันนั้นก็อร่อย งงไปหมด ให้เราตัดสินใจเร็ว ๆ คนเรานี้เวลาเอกลาภมันเกิดขึ้นเราชอบงง ต้องฝึกอย่าเป็นคนงง


อาหารที่เราตักไปทั้งหมดนี้ เราไม่ต้องเอาไปเผื่อใคร บางทีเราก็ลืมไป เอาไปเผื่อคนโน้นคนนี้ เราก็ลืมไปว่าพระที่เดินข้างหลังเณรที่เดินข้างหลังเขายังไม่ได้ตักอยู่ ให้เรารู้จักเห็นอกเห็นใจ รู้จักที่จะเกรงใจ พระที่อยู่ข้างหลัง เราอย่าไปเป็นผู้ที่เมตตามาก เอายาคูลท์ไปเป็นหอบ ๆ เอานมไปเป็นหอบ ๆ เอาขนม ไปเป็นหอบ ๆ แต่พระที่เดินตามไม่เมตตา โยมที่ประพฤติปฏิบัติไม่เมตตา “เราเป็นพระที่พรรษามาก บวชก่อน เราอย่าไปถืออภิสิทธิ์อย่างนั้น”


เวลาไปตักอาหารห้ามคุยกัน เวลาตักอาหารไม่ใช่เวลาคุย ไม่ว่าเราเป็นพระเป็นเณรเป็นโยม ให้เราพากันปฏิบัติเหมือนกัน “ให้ศีล ให้ธรรม ให้ศีลธรรมติดกับทุก ๆ คน...”


อาหารที่เราตักมาต้องพยายามฉันให้หมด ต้องลงโทษตัวเอง มันอยากตักมามากวันหลังมันจะได้เข็ด อย่าตักมาแล้วก็เอาไปทิ้งครึ่งหนึ่ง เอาไปทิ้งส่วนหนึ่ง ทำอย่างนั้นมันไม่ถูกต้อง อร่อยไม่อร่อยก็บังคับตัวเองฉันให้หมด ฉันให้เต็มที่ อย่าให้มันหิวตอนเย็น


เวลากลับมาที่นั่งฉัน พระพุทธเจ้าให้เราสงบสติอารมณ์ทำใจให้สงบ ท่านให้เราพิจารณาเสียก่อนจึงฉัน

 

Large_jungle084


เราฉันไม่ใช่เพื่อความสุข ไม่ใช่เพื่อความสนุกสนาน ไม่ใช่เพื่อความเอร็ดอร่อย ไม่ใช่เพื่อความอ้วนพลี เราฉันเพื่อเอาแรงกายไปนั่งสมาธิ เดินจงกรม ทำกิจวัตร เพื่อที่จะได้รักษาศีลรักษาธรรม ถ้าเราไม่พิจารณาอย่างนี้พระพุทธเจ้าตรัสว่ามันบาป มันบริโภคด้วยความอยาก บริโภคด้วยประโยชน์อย่างอื่น ไม่ใช่บริโภคเพื่อการประพฤติปฏิบัติ


ฉันบิณฑบาตเสร็จไปล้างบาตรให้ตั้งใจล้าง อย่าให้บาตรกระทบปูน กระทบไม้ กระทบของแข็ง กระแทบช้อน


เวลาฉันเราต้องฝึกให้มันฉันเร็วไว้ก่อน ทั้งเร็วทั้งเป็นระเบียบเรียบร้อย อย่าให้พระด้วยกันรังเกียจ ในความสกปรกมูมมาม ไม่เป็นระเบียบ


พระพุทธเจ้าท่านให้เรามีสมบัติผู้ดีในการฉัน เวลาการเช็ดบาตรในการใส่ถลกลบาตรใส่ถุงบาตร ไม่ต้องคุยกันให้มีสติอยู่กับที่เรากำลังทำ ให้ใจอยู่กับการกระทำ เวลาเราใส่ถุงบาตรเสร็จ ทุกท่านทุกคน ต้องช่วยกันมากวาดอาสนะสงฆ์ มากวาดศาลา เก็บสิ่งของต่าง ๆ ที่เราเอามาใช้ให้เก็บเรียบร้อยก่อน ถึงได้กราบพระกลับไปกุฏิ


เราเดินกลับไปกุฏิก็ให้ใจของเราอยู่กับเดินอย่าไปลืมปฏิบัติ...


เวลาเรากลับถึงกุฏิให้เรากราบพระที่กุฏิเราก่อน จะมีพระพุทธรูปหรือไม่มี เราก็ต้องกราบก่อน เพื่อมันจะได้เป็นนิสัย มันจะได้ติดเป็นนิสัย พระพุทธรูปไม่มีเราก็สมมุติในใจเราว่า เรากราบที่หนึ่ง ถึงพระพุทธเจ้า กราบที่สองถึงพระธรรม กราบที่สามถึงพระอริยสงฆ์ เราทำอย่างนี้ทุกครั้งอย่าให้ขาดตกบกพร่อง
เราเก็บบาตรเก็บจีวรให้เป็นระเบียบเรียบร้อย “ขั้นตอนต่อไปไม่ใช่เรานอนนะ...!”


เราต้องเดินจงกรมที่กุฏิเรา หรือที่ข้างกุฏิเรา แล้วแต่เราจะไปเดิน เห็นว่าที่ไหนมันเหมาะมันควร เดินก็ให้มันได้นาน ๆ เป็นชั่วโมงสองชั่วโมง เราเดินกลับไปกลับมาไม่ต้องคิดอะไร ให้ใจของเราอยู่กับการเดิน อยู่กับขาขวาอยู่กับขาซ้าย ไม่ต้องคิดอะไร เพราะมันคิดมามากแล้ว

Large_out063


บางคนก็สงสัยว่า ถ้าไม่คิดปัญญามันจะเกิดเหรอ…?


ปัญญาเรามันมีมากอยู่แล้วจนประสาทมันจะกินเราอยู่แล้ว มันคิดมากจนเขาต้องมีโรคพยาบาลจิตเวช เพราะมันคิดมาก


ถ้าเราไม่คิดเราจะได้อะไรล่ะ...?


“มันก็ได้สติ มันก็ได้สมาธิ มันก็ได้ปัญญา ศีลสมาธิปัญญามันจะได้รวมกันเป็นหนึ่ง”


บางทีเราใจสงบ ใจมันมีความสุข มันก็ชอบวิตกวิจารณ์จนใจเราฟุ้งซ่าน เราต้องควบคุมตัวเองไว้ เดี๋ยวมันจะเป็นธรรมเมา มันจะเล่นเราจนเวียนหัวโดยไม่รู้ตัว


เราอย่าไปเดินเหยาะ ๆ แหยะ ๆ ไม่กี่นาทีเดี๋ยวก็หยุด มันอยากหยุดเราก็ไม่หยุด ตั้งเวลาไว้เป็นชั่วโมงสองชั่วโมง ก็แล้วแต่เราตั้งไว้


เราปฏิบัติไปทำไปเราไม่ต้องสงสัยอะไรหรอก กิเลสของเรามันมาก เดี๋ยวมันจะพาเราสงสัยโน่นสงสัยนี่ “คนเรามันคิดมาก ยังไม่ได้ทำอะไรมันก็อยากได้พระนิพพานแล้ว”


เมื่อเราเดินจงกรมแล้วเราก็ไปนั่งสมาธิต่อ อย่าเพิ่งนอน นั่งสมาธิ เป็นชั่วโมง ๆ ก่อนถึงค่อยพัก

 

Large_out073


การพักผ่อนอย่าไปพักนาน พักซักครึ่งชั่วโมงหรือหนึ่งชั่วโมง การพักผ่อนกลางวันถ้าพักผ่อนมาก มันจะฟุ้งซ่าน กลางคืนมันจะนอนไม่ค่อยหลับอีก ต้องบังคับตัวเองให้ได้ อย่าไปนอนมากเกิน


ถ้าเราเป็นคนฝึกตัวเองไม่ได้ บังคับตัวเองไม่ได้ อีกหลายเดือนหลายปีข้างหน้าเราจะเป็น คนโรคประสาท “ต้องบังคับตัวเองให้ได้ ต้องบังคับตัวเองให้ดี”


การนั่งสมาธิ เราก็นั่งให้มันสบาย ให้จิตใจของเรามันเบิก ให้จิตใจของเรามันบาน หายใจเข้าสบาย หายใจออกสบาย ให้ใจของเรามันอยู่กับเนื้อกับตัว


การทำสมาธิคือการทำงานอย่างหนึ่งของจิตใจ ให้ใจของเรามันทำงาน ให้มันอยู่กับลมหายใจเข้า ให้มันอยู่กับลมหายใจออก หายใจเข้ายาวก็รู้หายใจออกยาวก็รู้ ให้มีความสุขอยู่กับลมหายใจเข้า ให้มีความสุขอยู่กับลมหายใจออก

เราทำไปอย่างนี้แหละ เราไม่ต้องไปคิดอะไรนะ “ความสงบมันสงบเอง เราไม่ต้องไปอยาก เราไม่ต้องตั้งเป้าไว้ว่าต้องสงบอย่างโน้นอย่างนี้ เราต้องไม่ปวดแข้งปวดขา”


พระพุทธเจ้าท่านให้เราตั้งใจใจว่าเราจะปล่อยวางทุกอย่างในโลกนี้ เพื่อให้จิตใจของเรา ว่างจากตัวจากตน ว่างจากความอยากได้อยากมีอยากเป็น จากดีจากชั่ว จากช้าจากเร็ว


มันจะสงบหรือไม่สงบเราไม่ต้องสนใจ มันจะปวดแข้งปวดขาเราอย่าไปสนใจ
ทุกข์ทางกายมันก็มากอยู่แล้ว ถ้าเราต้องการอย่างโน้นอย่างนี้ มันเป็นการทำให้ทุกข์ทางใจ เพิ่มขึ้นมาอีก ถ้าเราไม่อยากอะไรไม่คิดอะไร เรานั่งทั้งวันทั้งคืนมันก็ไม่มีปัญหา เพราะจิตใจของเรา มันไม่ปรุงแต่ง มันจะมีปัญหาอะไร
ความคิดความปรุงแต่งนี้มันเจ้าปัญหาเยอะ...

 

Large_out058


เรื่องไม่มีเรื่องก็ทำให้มีเรื่องจนได้ เรื่องเล็กก็ทำให้เป็นเรื่องใหญ่ เรื่องใหญ่ก็ยิ่งทำให้เสียหาย คิดมากก็ทุกข์มาก คิดน้อยก็ทุกข์น้อย คิดกลัวผีก็กลัวผี คิดโกรธก็โกรธ คิดชอบก็ชอบ “พระพุทธเจ้า ท่านถึงตรัสว่า ความทุกข์มันมีได้เพราะเราไปยึด ไปถือ ไปปรุง ไปแต่ง”


ที่เราเวียนว่ายตายเกิดก็เพราะความคิด...


ความคิดความปรุงแต่งเป็นทุกข์อย่างยิ่ง ความสงบความรำงับเป็นสุขอย่างยิ่ง เมื่อใจคนไม่สงบ มันมีปัญหาเยอะ มันมีความลังเลสงสัย มันมีความฟุ้งซ่านรำคาญใจ


ให้เราทำจิตทำใจของเราไปเรื่อย ๆ …


การฝึกสมาธิต้องพยายามเข้าสมาธิให้มันได้นาน ๆ อย่าไปสงสัย มันเข้าฌานหรือยัง? เข้าปฐมฌาน เข้าทุติยฌาน ถ้าเราไปคิดอย่างนั้นสมาธิของเรามันก็เคลื่อนไหว มันเลยเข้าสมาธิกับเขาไม่ได้ซักที “ปฏิบัติกี่ปีบวชกี่ปี เราก็ไม่รู้จักอารมณ์ ไม่รู้จักปล่อยจักวาง”


เรานั่งสมาธิไปนาน ๆ มันสงบเดี๋ยวมันก็จะง่วงนอน ตรงนี้มันเป็นด่านใหญ่...
คนเราเกิดมามันติดสุขติดสบายติดขี้เกียจขี้คร้าน ทีนี้มาถึงด่านง่วง

พระพุทธเจ้าท่านให้เราข้ามด่านนี้ ความง่วงมันมืดมาดำมาเหมือนกับเมฆก้อนใหญ่ มันมืดหมด ปีบหมด มิดหมด มันเป็นวันพระจันทร์ข้างแรม “ง่วงมาเมื่อไหร่มันหลับแน่ นั่งนอบน้อม โยกไปโยกมา นิ่มนวล อ่อนช้อย”


เราต้องทำจิตทำใจให้มันเบิกมันบาน ให้เราจะกลั้นลมหายใจก่อนก็ได้ เมื่อใจจะขาด มันก็หายง่วงเองหรือเราระลึกถึงแสงสว่าง แสงนีออน แสงพระอาทิตย์ แสงพระจันทร์ ให้ใจมันสว่าง

Large_out112

 


พระพุทธเจ้าท่านสอนเราให้เอาสติมาไว้ที่หัวใจ หัวใจมันเต้นตุ๊บ ๆ เอามาไว้ที่นี่ก็ได้ หรือไม่เอาไว้ ที่จมูกที่ศีรษะเพราะเดี๋ยวมันจะหลับใน เราก็เอาไว้ที่ใต้ลิ้นปี่เหนือสะดือ ให้ใจของเราสงบ ให้ใจของเราใส ให้ใจของเราเป็นหนึ่งให้ใจของเราเป็นเอกคัตตา


ให้เราฝึกเอาให้เราทำเอา ใหม่ ๆ มันก็ผิดบ้างถูกบ้าง เราฝึกเข้าสมาธิให้ได้ ให้เราผ่านง่วงไปให้ได้ เพราะความง่วงเป็นทุกข์หลาย มันติดหล่มเลยนะ ถ้าเป็นรถยนต์มันยางแตกทุกล้อเลย มันไปไม่ได้


ผู้ที่ฝึกสมาธิทำสมาธิ ต้องพยายามผ่านด่านที่อัตตาตัวตนนี้ไปให้ได้ อัตตาตัวตนมันมาก สักกยทิฐิ มันมาก มันติดอยู่อย่างนี้แหละ มันมืดไป มันไม่เห็นทางที่จะไป


เราไม่ต้องไปสนใจเรื่องฌานโน่นฌานนี่ เพราะใจของเราไม่ได้มีป้ายบอก เพราะใจของเรามันสงสัย อยู่นั่น “ถ้ามันสงบมันดับทุกข์ก็ถือว่าใช้ได้”


เรื่องปฏิบัติสมาธิ ฝึกสมาธิเป็นเรื่องสำคัญ...


พระพุทธเจ้าท่านสอนว่าฉันภัตตาหารเสร็จให้นั่งสมาธิ ขาขวาทับขาซ้าย นั่งตัวให้ตรง หายใจเข้าให้รู้ หายใจออกให้รู้ พระพุทธเจ้าท่านเน้นมาก นี่เป็นงานของเรา เป็นหน้าที่ของเรา เป็นหน้าที่ของคนที่ประพฤติปฏิบัติ อย่าได้พากันขี้เกียจขี้คร้าน ต้องทำกันทุกๆ คน

Large_sche101

 


อย่าพากันไปแต่เป็นนักปรัชญา มีแต่รู้แต่ฉลาดแล้วขาดการประพฤติปฏิบัติ
เราต้องทำฐานชีวิตของเรา เริ่มจากศีล สัมมาสมาธิ เพื่อให้ฐานของเรามันดีเพื่อให้ฐานของเรามันแน่น


ถึงเวลาบ่ายสามโมงให้เราทุกคนทุกท่านพากันกวาดตาด ตีตาด ปัดกวาดเช็ดถูกุฏิวิหารลานเจดีย์ ห้องน้ำห้องสุขา ทำความสะอาดรอบ ๆ กุฏิของเรา รดน้ำต้นไม้รอบ ๆ กุฏิ หน้าแล้งต้องรดน้ำต้นไม้ ไปปัดกวาดเช็ดถูศาลา ถนนหนทาง กุฏิสำหรับพระเณร กุฏิสำหรับพระอาจารย์


พระพุทธเจ้าท่านให้ทำอย่างนี้ทุก ๆ วัน เวลาทำก็ให้ใจอยู่กับการทำการทำงาน เราอย่าไปคิด กวาดไปครั้งหนึ่งก็อยากให้มันเสร็จ ถูไปครั้งหนึ่งก็อยากให้มันเสร็จ คิดอย่างนี้มันเป็นบาป เผาตัวเอง ต้องอยู่กับเนื้อกับตัว


บางคนก็สงสัยว่าทำอย่างนี้เป็นการประพฤติปฏิบัติธรรมเหรอ เพราะอยู่บ้านเราก็ทำอย่างนี้เหมือนกัน…?


พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ว่าการทำอย่างนี้แหละคือการปฏิบัติธรรม


ถ้าใจของเรามันอยู่กับเนื้อกับตัว ใจมันเสียสละ ใจมันไม่มีตัวไม่มีตน มันทำงานเพื่องาน ทำงานเพื่อเสียสละ อาการกิริยาทางจิตใจของเรานี้มันขี้เกียจขี้คร้าน มีอัตตาตัวตน รักสุขเกลียดทุกข์ หลงในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ลาภ ยศ สรรเสริญ มันเป็นสักกยทิฐิ ทิฐิอัตตาตัวตนทั้งนั้น ถ้าเราไม่มีกิจวัตรไม่มีข้อวัตรเราก็ไม่ได้ลงรายละเอียดเพื่อจะแก้ไขจิตแก้ไขใจของตัวเอง การปฏิบัติอย่างนี้มันได้ทั้งจิตได้ทั้งใจได้ทั้งประโยชน์ส่วนรวม

Large_tt7426

 


พระพุทธเจ้าท่านถึงให้เราไปทำทุก ๆ วัน ถ้าพระเณรองค์ไหนไม่ทำ พระองค์นั้นต้องอาบัติ เป็นบาปเป็นกรรม นี่เป็นข้อวัตรข้อปฏิบัติที่พระพุทธเจ้าท่านได้มอบหมายไว้ให้กับเรา


พวกท่านทั้งหลายไม่ต้องสงสัยนี้แหละคือการปฏิบัติธรรม


เวลาทำให้ตั้งใจทำดี ๆ ให้ละเอียด ให้ประณีต ถ้าเรามักง่าย เดี๋ยวเราจะเป็นคนหัวใจสกปรก ครูบาอาจารย์ท่านบอกว่า ถ้าห้องน้ำสกปรก กุฏิวิหารลานเจดีย์สกปรก มันแสดงว่าพระเณรวัดนั้นมีจิตใจ ที่สกปรก ไม่เป็นที่เคารพของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย


หกโมงเย็น ถึงเวลาก็เข้าไปนั่งสมาธิ ก็ให้เรากราบพระที่กุฏิแล้วก็เดินไปที่ศาลา ทำอย่างเก่า ให้ใจอยู่กับเนื้อกับตัว กราบพระนั่งสมาธิเพื่อส่วนรวมเพื่อให้กำลังใจกัน เรามันอินทรีย์บารมีน้อย เราต้องอาศัยข้อวัตรปฏิบัติเป็นกลุ่มเป็นก้อนมีเวลาบังคับ เราอย่าไปคิดว่า “แหม!!! นี่มันบังคับกัน เหมือนเด็ก ๆ เลย เราอย่าไปคิดอย่างนั้น”


ให้ทุกท่านทุกคนรู้ว่าตัวเองมันยังเด็ก ๆ อยู่ มันไม่ใช่ผู้ใหญ่ มันใหญ่ก็แต่อายุ มันใหญ่ก็แต่บวชนาน พระพุทธเจ้าท่านไม่ใหญ่ ท่านไม่มีตัวไม่มีตน


คนที่คิดว่าตัวเองใหญ่ มันไม่ใช่คำของพระพุทธเจ้า มันทิฐิมานะ อัตตาตัวตนทั้งนั้นที่ว่ามันใหญ่


ใหญ่นี่มันไปพระนิพพานไม่ได้นะ...


พระนิพพานคนใหญ่คนโตมันไปไม่ได้ เพราะพระนิพพานไม่มีตัวไม่มีตน เราประพฤติปฏิบัติ เพื่อลดความใหญ่ความโต อัสมิมานะ อหังการ มมังการ


พระพุทธเจ้าท่านไม่มีตัวไม่มีตนท่านถึงได้เป็นพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าท่านติดดิน ท่านนอน ตามพื้นดิน ตามร่มไม้ เป็นผู้ไม่มีตัวไม่มีตน สบายที่สุด ถ้าเราอยากสบาย เราต้องไม่มีความรู้สึกว่าตัวเองใหญ่ตัวเองโต “ศาลาเรา ที่ดินเรา มันก็หนักพวกใหญ่ ๆ นี้แหละ...”


เมื่ออินทรีย์บารมีเรามันยังอ่อนเราต้องอาศัยการทำเป็นหมู่เป็นกลุ่มเป็นก้อน ให้กำลังใจกัน


เราให้คนโน้นนั่งสมาธิเราก็มีความสุข เห็นคนโน้นเดินจงกรมเราก็มีความสุข มันเป็นการรับกำลังใจจากผู้อื่น

Large_out064

 


เรามีหน้าที่นั่งสมาธิก็นั่งไป อย่าไปตั้งเป้าเรื่องความสงบไม่สงบ เจ็บปวด อวิชชามันชำนิชำนาญมากในเรื่องนี้ มันชอบมาสิงในจิตในใจ เวลาสวดมนต์ให้ตั้งใจสวด ตั้งใจว่า นั่งเป็นแถวตามบวชเก่าบวชใหม่ ผู้ชายก็ให้นั่งแถวเดียวกับผู้ชาย ผู้หญิงก็ให้นั่งแถวเดียวกับผู้หญิง ให้รู้ตัว รู้จักหน้าที่ รู้จักสามัญสำนึก


เรานั่งทุกวัน ๆ เราก็รู้อยู่ว่าตำแหน่งของเรามันอยู่ตรงนี้ ตำแหน่งของคนนี้มันอยู่ตรงนี้ ท่านนี้มันอยู่ตรงนี้ เราก็รู้กันอยู่แล้ว เวลาพระเทศน์พระแสดงธรรมก็ตั้งใจฟัง อย่าคุยกัน ต้องเคารพในธรรม อย่าออกไปฟังนอกศาลาหรือออกไปเดินจงกรมฟังข้างนอก อย่าพากันทำตามใจอย่างนี้ ไม่ได้ไม่ถูก ต้องมีความอดทน ชอบใจก็ต้องฟัง ไม่ชอบใจก็ต้องฟัง ถ้าไม่ฟังก็เข้าสมาธิ อย่านั่งหลับ ถ้านั่งหลับเราก็ไม่ได้ฝึกสมาธิ

 

 


ถึงเวลาเลิกก็กราบพระพร้อมกัน กลับที่พักก็ไม่ใช่หยุดปฏิบัตินะ ก็ต้องอยู่กับใจอยู่กับเนื้อกับตัว

 

Large_sche105


กลับที่พักถ้ามันไม่ดึกเราก็เดินจงกรมก่อน ก่อนเข้าก็ล้างเท้าเข้าที่พัก ให้กราบพระนั่งสมาธิอีก นั่งสมาธิเคลียร์จิตเคลียร์ใจก่อนถึงค่อยนอน แผ่บุญกุศลให้พ่อแม่ครูบาอาจารย์ญาติพี่น้อง ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว เจ้ากรรมนายเวร เทพเทวดาดาอารักษ์ แผ่บุญกุศลก่อนแล้วค่อยจำวัด

 

 


ตีสามต้องตื่นอีกนะ งานหนักนะตีสาม...


ต้องตื่นต้องบังคับให้ตัวเองตื่น เรามันโง่มามาก ต้องฉลาด เวลามันเหน็ดมันเหนื่อยนี่แหละเป็นเวลา ที่ต้องฝึกต้องฝืน “คนเราถึงเวลาปฏิบัติมันไม่ฝึกไม่ได้”


ให้เรากราบพระ จะเดินไปศาลาต้องกราบพระก่อนค่อยเดินไป

Large_sche009

 


ถ้าถึงเวลาทำวัตรสวดมนต์แล้วเราไม่เข้าไปที่ส่วนรวมแสดงว่าเราขาดความเคารพในพระพุทธเจ้า ในครูบาอาจารย์ ในคณะสงฆ์ ในเพื่อน ในฝูง ในหมู่คณะ เราจะไปทำอย่างนั้นไม่ได้ มันเป็นการทำลาย วัดวาอาราม ทำลายสิ่งที่ดีสิ่งที่งาม มันเป็นสิ่งที่ทุกท่านทุกคนต้องแสดงออกถึงความเสียสละ


ถ้าใจมันว่าไม่ทุกข์มันก็ไม่ทุกข์ ถ้าใจมันไม่ว่าลำบากมันก็ไม่ลำบาก แต่ใจเรามันยังเป็นเปรต เป็นผี เป็นยักษ์ เป็นมาร ใจเรายังไม่ได้ฝึก


ถึงเวลาแล้วที่เราจะเอาพระธรรมที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้อย่างดีอย่างประเสริฐมาประพฤติปฏิบัติ


เราไม่ต้องคิดมากเพียงแต่ทำตามท่าน บุญกุศลมรรคผลพระนิพพานก็จะเกิดกับเรา


พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า สมณะที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 อยู่ในอริยมรรคมีองค์แปด อยู่ที่การประพฤติปฏิบัติ ของเราเอง การมาบวชของเรา การมาอยู่วัดขอวงเราก็จะมีผลใหญ่มีอานิสงส์ใหญ่ เป็นสุปฏิปันโน อุชุปฏิปันโน ญายะปฏิปันโน สามีจิปฏิปันโน ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นพระเป็นโยมก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติตรง ปฏิบัติสมควรไปหมด “พระสมมุติพระแต่งตั้งทางกายก็จะได้เป็นพระทางจิตทางใจกันทุกท่านทุกคน…”

 Large_sche096

 

 

พระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ที่องค์พ่อแม่ครูอาจารย์เมตตาให้นำมาบรรยาย
วันอังคารที่ ๖ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔

 

หมายเลขบันทึก: 487675เขียนเมื่อ 10 พฤษภาคม 2012 21:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 00:04 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท