คืนวัน…ที่เปลี่ยวเหงา… ระหว่างกัน


 

ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล… แม้นว่าอากาศจะสดใสมาตลอดกว่าครึ่งวัน

 

ช่วงบ่ายแก่ ๆ ภายในบ้านกลางสวน…

นั่งมองลูกสาววัยหกขวบเต็มนอนขีดเขียนอะไรบางสิ่งบางอย่างอยู่กลางห้อง  ตามลำพัง

ในขณะที่ตัวเอง กำลังนั่งสนด้ายร้อยเข็มปักเสื้อนักเรียนตัวใหม่ให้กับเค้า  เพื่อใช้ใส่ในวันเปิดภาคเรียน ที่จะ

มาถึงอีกในไม่กี่วันข้างหน้านี้

 

….

บรรยากาศบ้านสวนวันทำงานอยู่บ้านช่วงเวลานี้…. มองเงียบเหงาไปถนัดตา

ไม่มีเสียงเรียก หรือเสียงโทรศัพท์หาแม่ของลูกชายคนโต  ให้แม่ซื้อก๋วยเตี๋ยวเจ้าอร่อยปากซอยเข้าบ้าน มาให้กินเหมือนเช่นก่อน  ไม่มีเสียงเกมส์จากเครื่องคอมพิวเตอร์ ไม่มีเสียงร้องเพลง หรือแม้กระทั่งเสียงจากทรัมเป็ทตัวเก่ง ที่ลูกชายชอบเป่า… ครั้งคราใดก็ตามที่ลูกอารมณ์ดี…

….

บ้านขาดวิถีการดำเนินชีวิตของลูกชายคนโตไป

ปีนี้…จึงรู้สึกถึงความเหงาของลูกสาว มากกว่าสิ่งอื่นใดทั้งหมด

 

 

เปิดดู …สิ่งที่ลูกสาวเขียนไว้ในสมุดหลังจากที่ลูกห่อเก็บไว้ในซองอย่างดี

ข้อความที่ลูกเขียน ปรากฏดังนี้

 

 

 

สิ่งที่ลูกเขียน… บอกบางสิ่ง บางอย่างในใจของลูกได้อย่างชัดเจนเหลือเกิน

แม้นว่า.. คำที่ลูกประสมและเขียนไว้ จะไม่เป็นคำที่อ่านได้ถูกต้องและชัดเจนนัก

แต่คำพูดที่ลูกอ่านให้ฟัง… มันแทงใจพ่อนัก

 

ลูกพูดว่า…พ่อแม่อย่าทะเลาะกัน

พี่…นอนรอ  น้อง…นอน

ยาย…ดูตา และ….

 

สิ่งที่ลูกเขียนเป็นปรากฎการณ์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของลูก

วันหนึ่งที่ได้พูดคุยปรับทัศนะและความเข้าใจระหว่างกันของ..พ่อกับแม่

โดยหลงลืมไปว่า … “เรามีผ้าขาวบางอยู่ข้างตัว”  ผ้าบางเกินไปที่จะซึมซับเรื่องบางอย่างได้

และด้วยเหตุนี้ จึงต้องพูดกับลูกว่า…พ่อกับแม่จะไม่พูดไม่ทำไม่ทะเลาะอย่างที่ลูกเขียนนะ …

 

มองดูหน้าลูก …รับรู้ได้ว่า ลูกดีใจนักจากสีหน้าและแววตาของลูกเอง ในขณะที่ลูกนั่งอยู่บนตักของแม่

 

 

 

และเมื่อมองลายมือที่ลูกเขียนถึงพี่ และตัวของลูกเอง…..  ภาษามันสื่อความนัยว่าอย่างไรนะ?

คิดทบทวน สิ่งที่ผ่านมา ก็ได้คำตอบเดี๋ยวนั้น

 

 

….

บ่อยครั้งเหลือเกิน ที่เป็นความเคยชินระหว่างพี่กับน้อง….  คืนไหนก็ตามที่พี่ขึ้นไปนอนรอน้องในห้องนอนใหญ่ของบ้าน   คืนนั้นจะได้ยินเสียงร้องไห้ของน้องทุกครั้งไป  เพราะจากความเป็นพี่ขี้แกล้งน้องสาว… ด้วยความรักในแบบฉบับของพี่ชาย  

 

นั่งหลับตา…มองเห็นรอยยิ้มที่เปลื้อนด้วยคราบน้ำตาของลูกสาว ที่นอนถีบพี่ชาย เล่นหัวระหว่างกันและนอนหลับไปในที่สุด เสมือนเป็นการสร้างความรัก ความทรงจำ  ความอบอุ่นระหว่างกันบนเตียงนอนอันแสนสุขของครอบครัว….

 

 

และนี่คือ!!..ความทรงจำที่น้องโหยหาพี่ชายของน้อง…  ที่พ่อรับรู้ได้ ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นตัวหนังสืออันแสนบริสุทธิ์ของน้อง  ณ  ห้วงคิดคำนึงของความเหงา…. ที่อยากให้ใครได้รับรู้ความรู้สึกของตัวเอง

 

 

..……..

 

ณ วันนี้ สามชีวิตยังคงอยู่ที่บ้านสวน และอีกหนึ่งชีวิตที่กำลังโลดแล่นค้นหาคำตอบของชีวิต ด้วยปีกแห่งฝันของตัวเอง

 

เคยพูดกับลูกชายไว้ก่อนที่จะห่างไกลกันว่า…

พ่อคงไม่ค่อยได้พูดคุยกับลูกมากเหมือนวันคืนที่ผ่านมา

พ่อคงไม่ได้พูดพร่ำบ่น สอนสั่งลูก  เหมือนที่เคยเป็น

แต่พ่ออยากให้ลูกระลึกถึงคำสอน ที่พ่อเพียรสอนลูก ตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา มันอาจเป็นเรื่องซ้ำ ๆ เดิม ๆ ที่พ่อสอนลูกทั้งจากคำพูดและการกระทำ … เพราะนั้นคือสิ่งที่พ่อพานพบมาตลอดชีวิตของพ่อ

….

เมื่อลูกกางปีกแล้ว ลูกต้องบินไห้ได้  …บินไปให้ถึงปลายฝันที่ลูกตั้งใจไว้

 

หากวันใดลูกคิดถึงครอบครัว คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่ และคิดถึงน้อง… วันใดที่ลูกรู้สึกว่า..เราห่างไกลกัน   พ่ออยากบอกลูกไว้ว่า  พ่อแม่และน้องอยู่ที่นี่ GotoKnow  ลูกเข้ามา ลูกจะได้พบพ่อแม่และน้องเสมอ

 

..…..

 

 

บทเรียนชีวิตที่ต้องจดจำไว้

ต้องไม่ทำลายความเหงาของลูก ด้วยบทเรียนราคาแพงที่ลูกเขียนมอบไว้ไห้

ครอบครัว ยังคงเป็นบ่อเกิดแห่งความเชื่อมั่นและศรัทธาได้เสมอทุกครั้งไป

แม้นในยามที่เปลี่ยวเหงาระหว่างกัน…  ความอบอุ่นทางใจ การสร้างความหวัง และกำลังใจ จะชนะทุกสิ่งได้

พ่อเชื่อของพ่อเช่นนั้น

 

 

     

 

 

หมายเลขบันทึก: 487127เขียนเมื่อ 5 พฤษภาคม 2012 11:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 พฤษภาคม 2014 00:29 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (21)

น้องเพชร ไปเรียนต่อที่ไหนครับ...

สวัสดีวันหยุดค่ะ

สิ่งที่บันทึกไว้นี้จะกลายเป็น "สมบัติล้ำค่า" ของน้องเพชรและน้องดวงใจไปตลอดชีวิตค่ะ...

ฝากบอกหลานชายหลานสาวทั้งสองด้วยว่า...รู้ไหมหลานช่างโชคดีที่ได้เกิดในครอบครัวนี้...

ชอบบันทึกนี้จัง ขอบคุณเรื่องราวดี ๆ นะคะ

"...เมื่อลูกกางปีกแล้ว ลูกต้องบินไห้ได้  …บินไปให้ถึงปลายฝันที่ลูกตั้งใจไว้"


  • "รักลูก" คำนี้ สำหรับคนที่เป็นพ่อแม่แล้ว บอกไม่ถูกเลยเหมือนกันนะครับว่ามันมากมายเพียงใด? 
  • เพลงประกอบสร้างอารมณ์ร่วมกับเนื้อหาในบันทึกนี้ได้อย่างกลมกลืนจริงๆครับ 
  • ขอบคุณที่ได้อ่านบันทึกดีๆนี้ครับ คุณแสง..

พี่ชายกับน้องสาวตัวล็กน่ารักจังค่ะคุณแสง,

ขอบคุณสำหรับบันทึกแห่งความรัก ความเข้าใจ การเรียนรู้และการปรับตัว

ขอเป็นกำลังใจให้ครอบครัวน่ารักครอบครัวนี้ค่ะ

โชคดีของครอบครัวที่รักและใส่ใจกันเช่นนี้ค่ะ..

  • ไม่ว่าจะนานแค่ไหน เวลาผ่านไปเท่าใด..ความงดงามของลูก ติดตรึงตราใจของพ่อแม่เสมอนะคะคุณแสง
  • ขอบคุณบันทึกนี้มากๆค่ะ

แม้ห่างไกล แต่รับรู้กันได้ ถึงสายใยความผูกพัน

ส่งกำลังใจน้องดวงใจ

บันทึกนี้ อ่านประกอบเสียงดนตรีโปรด "สักวันหนึ่ง" แล้วละมุนละไม ถ้าวันหนึ่งน้องเพชรได้กลับมาอ่าน จะรู้สึกดีเพียงใดหนอ ... ทำให้นึกถึง พี่ชายตัวเอง ห่างกัน 6 ปี ตอนอยู่ด้วยกัน ตีกันประจำ เพราะพี่ชอบแกล้ง และเราก็เอาแต่ใจ แต่อย่างไรพี่ชาย คือเพื่อนแก้เหงาคนสำคัญ โตขึ้นมา ก็ค่อยๆ ห่างไปตามสภาวะ และวิถีชีวิตที่แตกต่าง

เชื่อเช่นกันค่ะว่า ครอบครัว ยังคงเป็นบ่อเกิดแห่งความเชื่อมั่นและศรัทธาได้เสมอทุกครั้งไป

เข้าใจมาก ๆ เลยค่ะ น้องแสง

เป็นกำลังใจให้นะคะ

 

ใช้ช่องทางการติดต่ออื่น ๆ 

บางทียามตัวอยู่ห่างกัน ใจกลับใกล้กัน

 

น้องดวงใจลายมือสวยมากค่ะ

งดงามมากครับ...เป็นกำลังใจให้น้อง...กางปีกบินไปสู่...ปลายฟ้า...ปลายฝันครับ

สวัสดีค่ะคุณแสงฯ

  • ครอบครัวคือกระจกเงาจริงๆค่ะ พฤติกรรมของพ่อและแม่จะเป็นความทรงจำที่ดีของลูก คำๆหนึ่งที่พี่ได้รับการบอกเล่าจากเพื่อนหญิงที่เป็นเพื่อนสนิทของลูกบอกว่า" คนที่จะเป็นแฟนนุ้กเกอร์จะต้องเหมือนแม่เท่านั้น " พอเพื่อนถามว่าทำไม เค๊าก็บอกว่า " ตั้งแต่จำความได้ นุ้กเกอร์ไม่เคยเห็นแม่ทะเลาะกับพ่อเลย เวลาที่พ่อบ่นหรืออารมณ์เสีย แม่ก็จะเงียบตลอด " ทุกวันนี้ก็ยังหาผู้หญิงที่เหมือนแม่ไม่ได้ ก็เลยยังไม่มีแฟนค่ะ

ขอบคุณดอกไม้กำลังใจที่ส่งมอบมาให้ครับ

สวัสดีครับอาจารย์ขจิตครับ

ปีนี้..ขาดสมาชิกของครอบครัวไปหนึ่งคน บางครั้ง ต้องเลือกให้เค้าเดินตามฝันของเค้าครับ วันที่ลูกไม่อยู่ มึความรู้สึกนะครับว่า...ครอบครัวเหงาไปถนัดใจ .. แต่ก็รู้สึกดีนะครับอาจารย์ ที่อย่างน้อย เราไม่ได้ฝืนใจให้ลูกเป็นอย่างที่เราคิด ลูกไม่ใช่เรา... ดังนั้นจึงอยากให้ลูกเลือกในสิ่งที่ลูกอยากเป็นครับ

น้องเพชรไปอยู่กับยายที่จังหวัดทางภาคตะวันออกครับอาจารย์

ขอบคุณอาจารย์มากนะครับ

ขอบคุณ คุณคนไม่มีรากมากนะครับ

บันทึกคือสมบัติอันล้ำค่า ...ที่อาศัยวันเวลา ให้คนอ่าน ได้ค่อย ๆ ซึมซับ ความหวัง กำลังใจ หรือความปรารถนาดีของใครสักคน

บางครั้งการบอกบางสิ่งบางอย่างผ่านบันทึก แทนคำตอบ แทนความระลึกถึงกัน แทนความรู้สึกดี ดี ที่มีต่อกัน

ที่หลายต่อหลายครั้ง การพูดคุยระหว่างกัน อาจรู้สึก และสื่อถึงกันได้ยาก

การได้อ่าน ข้อเขียนระหว่างกัน จึงเป็นคำตอบที่ทดแทนคำพูดที่ส่งถึงกันได้เป็นอย่างดีทางหนึ่ง

วิธืนี้...จึงเป็นสื่อผ่านความคาดหวีง และเป็นกำลังใจให้กับครอบครัวของผมทางหนึ่งครับ

ขอบคุณมากนะครับ

สวัสดีค่ะคุณแสง

  • ครอบครัวของครูอิงก็เช่นกันค่ะ  น้องต้นน้ำลูกชายคนโต ต้องเดินทางไปศึกษาต่อ 
  • แม่และน้องชายก็รู้สึกเหงา  ถึงแม้ว่าเวลาอยู่ด้วยกัน พี่น้องอาจจะขัดใจกัน ทะเลาะกันบ้างในบางครั้ง
  • แต่เมื่อต้องจากกัน  ก็จะแสดงออกให้รู้ว่าต่างคนก็ต่างคิดถึงและห่วงใยกัน
  • ขอบคุณบันทึกงดงาม  อ่านแล้่วรู้สึกถึงความอบอุ่นของครอบครัว จริง ๆ ค่ะ

ไม่มีหนแห่งใดที่จะบันดาลความสุขให้เราได้มากกว่า "ครอบครัว" อีกแล้วนะครับ

ขอบคุณมากๆ เลยครับ สำหรับบันทึกดีๆ เรื่องนี้

ขอบคุณบันทึกดีดีครับ เป็นกำลังใจให้ครอบครัวคุณแสงครับ อ่านแล้วทำให้นึกึงบทกวีของท่านรพินทรนา ฐากร "จันทร์เสี้ยว"

  • "รักลูก" คำนี้ สำหรับคนที่เป็นพ่อแม่แล้ว บอกไม่ถูกเลยเหมือนกันนะครับว่ามันมากมายเพียงใด? 

ขอบคุณครูธนิตย์  

Ico48

มากนะครับ

ขอบคุณคุณปริมมากนะครับ

Ico48

 

 

สิ่งมีค่า..สำหรับคนเรานั้น  ผมมองว่า....การมีครอบครัวนี่แหละครับ

เป็นสิ่งมีค่าที่สุดในชีวิต... คนเรา

..

หน้าที่การงาน....พักผ่อน หายเหนื่อย แต่บางครั้งก็ไม่สุขใจ

ครอบครัว...แม้จะเปลี่ยวเหงาบ้าง หรือท้อแท้บ้าง แต่ไม่เคยเลยที่ทำให้เรารู้สึกว่า เราขาดสิ่งใดในชีวิตที่มีค่าไป

 

 

ขอบคุณครับ

ชอบบันทึกนี้มากคะ "...เมื่อลูกกางปีกแล้ว ลูกต้องบินไห้ได้  …บินไปให้ถึงปลายฝันที่ลูกตั้งใจไว้" ครอบครัวเป็นบ่อเกิดแห่งความรัก ความผูกพัน ความห่วงหาอาทร เป็นกำลังใจให้กับทุกครอบครัวคะ


เมื่อลูกกางปีกแล้ว ลูกต้องบินให้ได้  …บินไปให้ถึงปลายฝันที่ลูกตั้งใจไว้  งดงามเหลือเกิน สำหรับครอบครัวนี้คะ ครอบครัวเป็นบ่อเกิดแห่งความรัก  ความผูกพัน ความห่วงหาอาทร ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกครอบครัวคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท