เด็กชายจิตติพัฒน์ อายุ 7 วัน เลขประจำตัวประชาชน 0-6388-00xxx-xx-x บุตรของเด็กหญิงมะซาว ชาวพม่าอายุ 14 ปี ไม่ปรากฏบิดา เกิดที่โรงพยาบาลอุ้มผาง เนื่องจากมีคนไทยที่พบมะซาวขณะรับจ้างเลี้ยงวัวและดูแลสวนยางพาราอยู่หมู่บ้านเจ่โด่ง เลยชายแดนเปิ่งเคลิ่งเข้าไปเขตประเทศพม่า รับตัวมะซาวมาดูแลด้วยความสงสาร
หลังจากคลอดบุตรแล้ว นายสุริยา อินเสาร์ และนางบัวติ๊บ สองสามีภรรยา ซึ่งเป็นญาติกับผู้ดูแลมะซาว มีความประสงค์จะรับจิตติพัฒน์ไปเลี้ยงดูเป็นบุตรบุญธรรม เพราะทั้งคู่แต่งงานกันปีเศษแต่ยังไม่มีบุตรเป็นของตนเอง โดยนายสุริยาและนางบัวติ๊บเป็นผู้คอยเฝ้าและดูแลจิตติพัฒน์ตั้งแต่แรกคลอด
นายสุริยา เลขประจำตัวประชาชน 3-6306-00xxx-xx-x สมรสกับนางบัวติ๊บ เลขประจำตัวประชาชน 6-6308-50xxx-xx-x โดยจดทะเบียนสมรสในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2554 ทั้งสองคนมีอาชีพทำไร่ทำสวน ฐานะปานกลาง มีความขยันหมั่นเพียร และมีความตั้งใจจะดูแลจิตติพัฒน์เสมือนลูกของตน
โครงการก่อตั้งคลีนิกกฎหมายอุ้มผางเพื่อผู้มีปัญหาสถานะและสิทธิ ภายใต้ความร่วมมือของสถาบันวิจัยและเฝ้าระวังสภาวะไร้รัฐ และโรงพยาบาลอุ้มผางได้ประสานงานกับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดตาก เพื่อหารือเรื่องการจดทะเบียนรับเป็นบุตรบุญธรรมให้ถูกต้องตามกฎหมาย เบื้องต้น พมจ.ตาก ได้ส่งแบบฟอร์มการรับบุตรบุญธรรม และแจ้งว่าในกรณีที่ทั้งเด็กและผู้ประสงค์จะรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมเป็นบุคคลสัญชาติไทยทั้งคู่ สามารถส่งเรื่องไปที่ พมจ.เพื่อเข้าประชุมระดับจังหวัดให้อนุมัติการรับบุตรบุญธรรม ทั้งนี้ต้องมีการทดลองนำเด็กไปเลี้ยงเป็นเวลา 6 เดือนแล้วประเมินผล ส่วนในกรณีที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ใช่บุคคลสัญชาติไทย เรื่องดังกล่าวต้องส่งไปขออนุมัติที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทั้งนี้ทางคลีนิกฯกำลังดำเนินการตามขั้นตอน
แม้จิตติพัฒน์ จะถือกำเนิดท่ามกลางความมืดมนของชีวิต แต่การพบเจอกับนายสุริยานับเป็นแสงเรืองรองที่จะช่วยนำพาชีวิตของเด็กน้อยให้เติบโตขึ้นตามอัตภาพ
ยกร่างจดหมายให้ หมอตุ่ยหารือข้อกฎหมายมาที่ศูนย์นิติศาสตร์ มธ. ซิคะ
ให้ข้อเท็จจริงส่วนบุคคลให้ชัดเจนหน่อยซิ