เส้นทางการท่องเที่ยวอันแสนประทับใจในแดนอาทิตย์อุทัย (1-6 เมย.) : สวนอูเอโนะ โตเกียวดิสนีย์แลนด์ วัดเมจิ ชิบูยา ฮาราจูกุ โอไดบะ วัดนาริตะ สนามบินนาริตะ และบินสู่สุวรรณภูมิบ้านเรา


ขึ้นรถไฟฟ้าจากชิบูยาไปย่านฮาราจูกุ ซึ่งเป็นแหล่งชอปปิ้งของวัยรุ่นญี่ปุ่น เลยทำตัวเป็นวัยรุ่นเดินปะปนไปกับเด็กๆ ดูเด็กๆที่นี่น่ารักมาก เขาเดินเลือกซื้อสินค้ากันไปเป็นกลุ่มๆ ไม่มีเอะอะโวยวาย แต่งตัวตามสไตล์วัยรุ่น ที่ทันสมัยแต่ก็ดูเรียบร้อยดี

          เช้าวันต่อมาก็ถึงเวลาได้ชมดอกซากุระบานอย่างเต็มอิ่มที่สวนอูเอโนะ ที่มีชื่อเสียงที่สุดในกรุงโตเกียว  โชคดีที่ซากุระกำลังเบ่งบานอย่างเต็มที่ดูสวยงามอลังการที่สุด ได้เห็นผู้คนเมืองญี่ปุ่นมาจับจองที่ใต้ต้นซากุระทุกต้นนั่งชมดอกซากุระบานในสวนแห่งนี้ ได้เห็นคนญี่ปุ่นนั่งร้องรำดื่มสาเก เห็นชาวญี่ปุ่นออกมาสนุกสนานกันท่ามกลางความสวยงามของต้นซากุระที่ออกดอกบานสะพรั่ง ที่จะบานให้เห็นเพียง 1 อาทิตย์เท่านั้น และหาชมได้เพียงปีละครั้ง
       

        จากนั้นเราได้ไปส่งคณะเราอีกชุดหนึ่งไปเที่ยวสวนสนุกโตเกียวดิสนีย์แลนด์ ซึ่งเป็น สวนสนุกที่สร้างโดยการถมทะเล ใช้ทุนในการก่อสร้าง 600 ล้านเยน
                      

        ส่วนผมกับคณะอีกชุดหนึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้อาวุโส เลยเลือกจะไปเที่ยวในตัวเมืองโตเกียวหลายๆแห่ง  จุดแรกที่ไปคือวัดเมจิ  เป็นวัดที่ร่มรื่น สร้างในสมัยเมจิที่มีความเจริญรุ่งเรืองของญี่ปุ่น  ได้พบพิธีแต่งงานแบบโบราณของชาวญี่ปุ่น ตามลัทธิชินโตถึงสองคู่ที่นี่

                                     
     ออกจากวัดเรา ขึ้นรถประจำทางสายฮาจิโกะ(เป็นชื่อของสุนัข มีอนุสาวรีย์ด้วย) ไปที่  ย่านชิบูยา เป็นแหล่งชอปปิ้งที่มีผู้คนหนาแน่นที่สุดเท่าที่ผมเห็นในกรุงโตเกียว มีห้างสรรพสินค้าดังๆหลายแห่ง ที่โดดเด่นคือ 109 shop ทั้งของชายและหญิง แยกคนละฝั่ง  มีร้านอาหารให้เลือกรับประทานในย่านนี้มากมายทีเดียว ขนาดเมืองไทยเรายังเอาชื่อมาตั้งเป็น ชิบูยา 19 แถวประตูน้ำเลย
     

       ออกจากชิบูยา เราเปลี่ยนบรรยากาศโดยขึ้นรถไฟฟ้าจากชิบูยาไปย่านฮาราจูกุ ซึ่งเป็นแหล่งชอปปิ้งของวัยรุ่นญี่ปุ่น เลยทำตัวเป็นวัยรุ่นเดินปะปนไปกับเด็กๆ  ดูเด็กๆที่นี่น่ารักมาก  เขาเดินเลือกซื้อสินค้ากันไปเป็นกลุ่มๆ ไม่มีเอะอะโวยวาย  แต่งตัวตามสไตล์วัยรุ่น ที่ทันสมัยแต่ก็ดูเรียบร้อยดี

            
      เสร็จจากที่นี่ก็ไปเมืองโอไดบะ  ซึ่งเกิดจากการถมทะเล  ชมสะพานแขวน เรนโบว์ บริดจ์ มีห้างสรรพสินค้า กว้างขวางใหญ่โต มีเทพีสันติภาพ ( ตัวต้นแบบ ) ที่คนนิยมมาถ่ายรูปกัน แล้วเราก็เดินทางสู่ เมืองนาริตสู่ที่พัก โรงแรมนาริตะ การ์เด้น ซึ่งดูเป็นชนบทดี
    
 เช้าวันรุ่งขึ้นเดินทางสู่ วัดนาริตะ เป็นวัดที่มีชื่อเสียงและผู้คนให้ความเคารพนับถือ มาสักการะกันมากมาย จุดเด่นของวัดนี้ คือ เทวรูปฟุโดเมียวโอ ซึ่งเป็นเทพระดับสูงของลัทธิชินกอน แกะสลักถวายโดย โคโบไดชิ ตามคำสั่งของจักรพรรดิซากะ บริเวณถนนข้างวัดจะมีร้านขายของที่ระลึก และอาหารจากปลาไหล และผักดองหลายชนิดให้เลือกซื้อ
      จากนั้นเราไปย่านช้อปปิ้ง ของเมืองนาริตะที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังห้างอิออน แหล่งใหญ่รวบรวมสินค้าหลากหลายชนิดในพื้นที่ที่ยาวเหยียด  อาทิ เสื้อผ้าแฟชั่นนำสมัย กระเป๋า รองเท้า เครื่องสำอาง ของที่ระลึก เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ และที่นี่ยังมีร้าน 100 เยน สินค้าดีราคาถูกอีกด้วย 
         
ได้เที่ยวจนหนำใจแล้ว ได้เวลากลับบ้านเสียที ช่วงบ่ายเราก็ไปสนามบินนาริตะ เพื่อเดินทางโดยสายการบินไทย ถึงสุวรรณภูมิบ้านเรา เมื่อประมาณ 21.30 น. ของวันที่ 6 เมษายน  
           ยังประทับใจแดนอาทิตย์อุทัยมิรู้หาย  มีโอกาสเมื่อไรก็จะไปอีก...

หมายเลขบันทึก: 485189เขียนเมื่อ 15 เมษายน 2012 12:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 15:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท