ชมรมคนรักบ้านกอกหวาน
ชมรมคนรักบ้านกอกหวาน
ชมรมคนรักบ้านกอกหวาน เกิดขึ้นจากความสำนึกรักบ้านเกิด รักโรงเรียนเก่าของคนบ้านกอกหวาน ศิษย์เก่าโรงเรียนบ้านกอกหวาน ที่มีคุณครูบุญ บุญยะโพธิ์ ครูใหญ่ คุณครูทอง พลรักษ์ คุณครูสมหมาย วติวุฒิพงศ์ คุณครูวัฒนา วันแก้ว และคุณครูที่เคยสอนโรงเรียนบ้านกอกหวานในอดีต เป็นแรงบันดาลใจ
อีกทั้งแรงผลักดันที่เกิดจากความเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างทางการปกครอง การศึกษาเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมในระดับท้องถิ่น รวมทั้งมีองค์กร/โครงการสนับสนุนความเป็นอยู่ของประชาชนที่มากมายและหลากหลายขึ้น ที่สำคัญคือ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ส.อบต. กองทุนเงินล้าน กองทุนหมู่บ้าน ดรงเรียนชาวนา กลุ่มเกษตรกรและอื่นๆอีกมากมาย โดยมีหลักคิดและเป้าหมาย คือความอยู่ดี กินดี ไม่มีความยากจนในหมู่คนชนบทเป็นสำคัญ( ความเข้าใจของผู้เขียนนะ)
กองทุน ชมรม หรือกลุ่มคน กลุ่มพลังทางเศรษฐกิจหลายๆกลุ่ม/ส่วนในหมู่บ้านและชุมชน เดินได้อย่างไม่มั่นคง ล้มลุกคลุกคลาน และก็เลิกล้มไปในที่สุด คน สังคมในหมู่บ้าน/ชุมชนบาดหมาง แตกแยก ขาดความรักความสามัคคีทั้งๆที่ล้วนเป็นญาติเดินทางมาจากสายรกสายเลือดบรรพชนคนเดียวกัน
กระบวนการทางประชาธิปไตยสวยหรูที่รัฐจัดให้ ที่เน้นคุณธรรม คารวะธรรม ปัญญาธรรม และสามัคคีธรรมเกิดเพียงแต่ตัวหนังสือเท่านั้น การเลือกตั้งผู้นำหมู่บ้าน/ชุมชน เช่นผู้ใหญ่บ้าน กำนัน สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลและการเลือกตั้งอื่นๆ ใช้เงินหรืออามิสสินจ้างเป็นตัวตั้ง คำว่า ผู้หลัก ผู้ใหญ่ตามความหมายอันดีงามแต่ดั้งเดิมที่สืบทอดกันมาแปรเปลี่ยนไป เหลือเพียงผู้นำ ที่ขาดหลัก ขาดความเชื่อถือ และเป็นที่พึ่งที่ปรึกษาที่อ่อนด้อยลง
ครอบครัวเปลี่ยนแปลงไป วัยรุ่นวัยหนุ่มสาวผลิตลูก คนแก่ผู้เฒ่าหัวหงอกเป็นคนเลี้ยง หัวเกลี้ยงคือพระสงฆ์ไม่ได้อบรมรม เพราะคนไม่เข้าวัด ติดเลี้ยงลูกเลี้ยงหลาน วัดหลายวัดร้างเพราะไม่มีคนบวช สามเณรที่เคยมีก็กลับหายาก เพราะเด็กต้องเรียนจนจบการศึกษาภาคบังคับ ม. ๓ เรียนจบแล้วก็เรียนต่อเลยหรือไม่ก็ไปทำงาน หรือมีครอบครัว จึงไม่มีโอกาสบวช
คนแก่คนสูงวัยมีมากยิ่งขึ้น แต่กลับถูกทิ้งให้อยู่บ้านเลี้ยงลูกเลี้ยงหลาน ส่วนพ่อแม่ผู้มีกำลังก็ไปทำงานต่างถิ่นหรือไม่ก็เมืองหลวง บางหมู่บ้านจึงมีแต่คนสูงวัยกับเด็ก การบริหารหรือปกครองหมู่บ้านจึงเป็นไปอย่างไม่มีประสิทธิภาพ เพราะผู้นำหรือทีมบริหารขาดคุณภาพ ด้อยคุณวุฒิ ไม่มีวิสัยทัศน์นั่นเอง
พระสงฆ์องค์เณรตามวัดวากลับมีจำนวนน้อยลง ศูนย์เด็กเล็กก่อนเกณฑ์ที่เรียนและเคยอยู่ในความดูแลของวัดโดยตรงกลับมีเจ้าภาพใหม่คือองค์การบริหารส่วนตำบล เจ้าอาวาสมิอาจเข้าไปวุ่นวายได้ ๑๐๐ เปอร์เซนต์เหมือนเดิม เด็กน้อยเลยชวดการอบรมบ่มเพาะทางศีลทางธรรมจากพระสงฆ์อย่างน่าเสียดายยิ่ง( ขอเน้นว่า ...เสียดายอย่างยิ่ง) จำได้ว่าครั้งยังเป็นเด็กน้อย ลานวัดนั้นเป็นพื้นทรายขนาดเขื่อง จึงเป็นสนามเด็กเล่นเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สุดยอด เป็นสนามแข่งม้าศึก เล่นตี่จับ และสนามประลองเชิงมวยของเด็กผู้ชาย เป็นเวทีแข่งประติมากรรม(ก่อเจดีย์ทราย)ของหนุ่มสาว เด็กน้อย และผู้ใหญ่ในยามมีงานตามประเพณี .... สนุกจนลืมไม่ลงเลยละ..... ปัจจุบันบ้านกอกหวานก็ยังคงสืบสานอยู่นะ
ด้วยแรงผลักและแรงบันดาลใจดังกล่าวข้างต้นนั้น ลูก หลานคนบ้านกอกหวาน ศิษย์เก่าโรงเรียนบ้านกอกหวาน จึงรวมตัวกันตั้งชมรมขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๔๐ เป็นต้นมา มีระเบียบของชมรม มีข้อตกลง มีการระดุมทุนจากสมาชิก ครอบครัวละ ๕๐๐ บาท มีวัตถุประสงค์เพื่อ ช่วยเหลือเอื้ออาทรต่อกัน พัฒนาหมู่บ้าน วัด โรงเรียน สืบสานประเพณีที่ดีงาม โดยให้สอดคล้องกับคำขวัญของหมู่บ้านที่ว่า " เขมรบ้านกอกหวาน การศึกษาดี มีผ้าไหมสวย แกงกล้วยรสอร่อย...ไงละ ชมรมฯของเรามีกิจกรรมบริการฟรีแก่พี่น้องสมาชิก อย่างน้อย ๒ กิจกรรม
หนึ่ง บริการให้สมาชิกยืมเงินไปจัดงานศพที่สมาชิกในครอบครัวเสียชีวิต ครั้งละไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งหมื่นบาท) เมื่อจดการงานศพเสร็จให้ส่งคืน
สอง-บริการยืมเงินรักษาสุขภาพยามเจ็บป่วย ครั้งละไม่เกิน๒,๐๐๐ บาท( สองพันบาท) หายป่วยแล้วต้องส่งคืนภายใน ๑๕ วัน
ทั้ง ๒ บริการไม่คิดดอกเบี้ย ....สงเคราะห์ได้เยอะแล้วนะ... เงินทุนใน ๒ บริการนี้ ได้รับการสนับสนุนและรวบทุนจาก คุณประจวบ พงษ์สุระ และคณะ ซึ่งเป็นศิษย์เก่า ลูกหลานบ้านกอกหวานที่ทำงานอยู่ที่ กทม. ...ช่วยกันอนุโมทนา นะครับ.... ทั้ง ๒ กิจกรรมนี้ดำเนินการมาตั้งแต่เริ่มต้น คือปี ๒๕๔๐ จนถึงปัจจุบัน สงเคราะห์ช่วยเหลือซึ่งกันและกันอย่างอบอุ่นยิ่ง
หามีใครจะรักเราเท่าเรารัก
คนอื่นสักหมื่นแสนแทนไม่หมด
ทุนรักของเรามีแต่เพิ่มมิมีลด
จึงปรากฏไออุ่นกรุ่นชุมชน
มีงานบุญงานมงคลคนร่วมช่วย
มิเว้นรวยสวยหล่อหรือขัดสน
เป้าหมายใหญ่คือไทยกอกหวานชน
เราสุขล้นได้ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
ชมรมฯของเรามีคำขวัญว่า " พัฒนาคน พัฒนาบ้าน สืบสานวัฒนธรรม สร้างผู้นำให้ชุมชน"
ต่อมาเมื่อชมรมเริ่มแข็งแรงขึ้น ก็จัดให้มีกิจกรรมเพิ่มขึ้นอีกทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับคำขวัญ พัฒนาคน พัฒนาบ้าน สืบสานวัฒนธรรม สร้างผู้นำให้ชุมชน หนึ่ง- กิจกรรมให้สมาชิกกู้เงินไปประกอบอาชีพ ครอบครัวละ ๒,๐๐๐ บาท/ปี คิดดอกเบี้ย ๒๐๐ บาท ปีนี้ ๒๕๕๕ มีสมาชิกยื่นกู้เกือบ ๒๐๐ ราย อนุมัติทุกราย ดอกเบี้ยที่ได้จัดบริการอย่างน้อย ๕ ประการ เช่น มอบทุนการศึกษา เป็นทุนสมทบกองทุนชมรมฯ มอบรางวัลคนดีศรีกอกหวานในโอกาสจัดงานประเพณีสงกรานต์ มีผู้ได้รับรางวัลผ่านมาแล้ว ๖ ราย ปีนี้ ๒๕๕๕ มี ๓ ราย คือ นายเลียน ไชยศรีษะ นางทองคำ ไชยสาร และนายสำราญ แสงเพ็ง มอบเป็นรางวัลการประกวดก่อเจดีย์ทราย มอบให้หมู่บ้าน/ชุมชนเพื่อสาะรระประโยชน์ เช่น ปรับปรุงระบบไฟฟ้าหมู่บ้าน และถวายวัด เป็นต้น
กิจกรรมที่ร่วมกับวัดและชุมชนที่เด่นๆ เช่น แห่ทรายเข้าวัดประกวดก่อเจดีย์ทราย ประกวดคนดีศรีกอกหวาน แห่พระพุทธรูปองค์ใหญ่(องค์เก่าแก่ที่เคยถูกฝังมาเกือบร้ยปีใต้พระประธานในโบสถ์) รอบหมู่บ้าน/ชุมชนเพื่อพี่น้องชาวบ้านได้สรงน้ำขอพร ....ขบวนแห่สนุกสนานไม่แพ้ที่อื่นๆนะ.. รดน้ำ ขอพรพระสงฆ์ ผู้สูงวัย ปู่ย่าตายายหลักบ้านหลักชุมชน จัดเลี้ยงอาหารการกินแก่สมาชิกชมรม รวมทั้งผู้สูงวัย ปู่ย่าตายาย ไอศกรีมได้รับคะแนนนิยมมากที่สุด.....เอ้า ลูกหลาน ถ้าหากจะบริจาคสนับสนุน แจ้งไปด่วน...ที่ พระครูสุจินประภากร เจ้าอาวาส ........ ยัง ... ยัง...มีกิจกรรมดีๆที่ยังไม่เปิดเผยอีกแยะ...... ทั้งนี้มีหลักการว่า ต้องเกิดจากความสำนึกของคนบ้านกอกหวาน ที่ประกอบการงานเป็นเกษตรกร ครู ตำรวจ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข นักวิชาการ การศึกษานอกโรงเรียน นายก อบต. สมาชิก อบต. ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก อสม. ฯลฯ ร่วมกัน ... เน้นว่า ร่วมกัน..
อ้อลืมบอกไปว่า ปัจุบันมีสมาชิกใกล้จะ ๒๐๐ รายแล้ว ระบบการบริหารจัดการเข้มแข็ง โปร่งใส ตรวจสอบได้ มีวิสัยทัศน์ เมื่อวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๕๕ ที่ผ่านมามีการเลือกตั้งคณะกรรมชุดใหม่ ได้ครูไพจิตร สุขสุวรรณ เป็นประธานชมรม รองประธาน ๒ คน นายประยงค์ มั่งคั่ง นายเกบือน เจรจา และมีนายเสนีย์ แสงเพ็ง เป้นเลขานุการ
ชมรมฯ มีกรรมการทั้งสิ้น ๑๘ คน เลือกตั้ง ๑๕ คน แต่งตั้ง ๓ คน(กรรมการโดยตำแหน่ง คือผู้ใหญ่บ้าน ๓ คน)
เพิ่มเติมอีกนิด ที่ผ่านมา มีทำเนียบประธานชมรมคนรักบ้านกอกหวาน อยากบอก ดังนี้
คนที่ ๑ นายสมบัติ กอกหวาน พ.ศ. ๒๕๔๐- ๒๕๔๘ มีนายสุภาพ ยามใสย เป็นเลขานุการ
คนที่ ๒ นายเรขา เวชกามา พ.ศ. ๒๕๔๙-๒๕๕๒ มีนายสุภาพ ยามใสย เป็นเลขานการ
คนที่ ๓ นายโย รัตโน พ.ศ. ๒๕๕๓ - ๒๕๕๔
มีนายประยงค์ มั่งคั่ง เป็นเลขานุการ
คนที่ ๔ คนปัจจุบัน นายไพจิตร สุขสุวรรณ พ.ศ. ๒๕๕๕- มีนายเสนีย์ แสงเพ็ง เป้นเลขานุการ
ปีนี้ ๒๕๕๕ ชมรมคนรักบ้านกอกหวาน มีอายุ ๑๕ ปีแล้ว ถ้าเปรียบกับคนสมัยก่อนปี ๒๕๕๔ นั้น คนอายุ ๑๕ ปี ต้องไปแจ้งและทำบัตรประชาชนที่อำเภอ นะ ......
บทสุดท้าย อยากเชิญชวนลูก หลาน เหลน ....คนบ้านกอกหวาน .....กลับบ้าน คืนถิ่น ร่วมพัมนาคน พัฒนาบ้าน สืบสานวัฒนธรรมประเพณี และร่วมสร้างผู้นำที่ดีให้กับชุมชน เพื่อให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลง ความเจริญ ของสังคม แม้เพียงวันสงกรานต์ หรือวันแซนโฎนตา..แคเบ็น... หรือวันไหนๆที่มีโอกาสได้กลับมาเยี่ยมบ้าน ๑ วัน หรือ ๒ ,๓ วัน ก็ตาม .....โปรดอย่าลืมบ้าน ......ขอเน้นย้ำ .....โปรดอย่าลืมและทอดทิ้งบ้าน นะครับ
เพลง รักบ้านกอกหวาน
เนื้อร้อง ลุง ส. ทำนอง เพลงสาวอีสานรอรัก
บองโนวซรกก็อกหวาน สลันรัวซีรัวบาน ซรกก็อกหวานโพธิ์ศรี
บองกำเลาะเจิดละออ บองเทอการมึนกรอ ซมเนียงละออกำเตือนเจ
กระมมเนียงงา เนียงนาปรานี กระมมเนียงงา เนียงนาปรานี
เมียนเจิดสกขี คลวนบองนินึงจำ....
กำเลาะซรกกราวรูปละออ เมียนกะแซโครุมกอ ซมเนียงละออกวนเมอ
เกทาบองโกนขแมร์ โกนขแมร์ก้อกหวาน เจิดบองอ็อดบานสลันเต
สลันบองพอง สลันบองเนียงเดอ(ซ้ำ)
ชมรมคนรักบ้านกอกหวาน ในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ นำทีม โดย คุณไพจิตร สุขสุวรรณ ครู โรงเรียนบ้านกุดปราสาท ตำบลสมอ อำเภอปรางค์กู่ ประธานชมรม รองประธาน ๒ คน หนึ่ง คือ คุณประยงค์ มั่งคั่ง (คุณต่อง ลูกชาย พ่อทอง แม่สุรีย์ มั่งคั่ง หลานตาสาย รัตโน หลานปู่ทวคครุฆ กอกหวาน และหลานปู่ทวดทวดหลวงรัตนะ ต้นตระกูล กอกหวาน) สอง คุณกะเบือน เจรจา ผู้ใหญ่บ้านกอกหวาน หมู่ ๑๒ ) มีเลขานุการคนเก่งและจริงจัง คือ คุณ เสนีย์ แสงเพ็ง (อดีตผู้ใหญ่บ้านกอกหวาน ) ชมรมของเราเดินหน้ามาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีสมาชิก จำนวน .............. ราย คิดเป็นร้อยละ ............... ของครอบครัวบ้านกอกหวานทั้ง ๓ หมู่
ชมรมคนรักบ้านกอกหวาน วาระปี ๒๕๕๕ - ๒๕๕๖ มีกรรมการ ๑๘ คน (หมู่บ้านละ ๕ คน )ประกอบด้วย
คุณไพจิตร สุขสุวรรณ ประธานชมรม ตัวแทนจากสมาชิก หมู่ ๑
คุณประยงค์ มั่งคั่ง รองประธาน ตัวแทนจากสมาชิก หมู่ ๑๔
คุณกะเบือน เจรจา รองประธาน ตัวแทนจากสมาชิก หมู่ ๑๒
คุณเสนีย์ แสงเพ็ง กรรมการและเลขานุการ ตัวแทนจากสมาชิก หมู่ ๑๔
กรรมการประกอบด้วย (ตัวแทนสมาชิกจาก ๓ หมู่บ้านๆละ ๕ คน)
หมู๋ ๑๔ คุณ คุณรัตดี ไชยศรีษะ อดีตผู้ใหญ่บ้านกอกหวาน หมู่ ๑๔
คุณ รำเพย คีตสังวรณ์ ส.อบต. สังกัด หมู่ ๑๔
คุณไหม ไชยสาร ผู้ใหญ่บ้านกอกหวาน หมู่ ๑๔
หมู๋ ๑๒ คุณ....................................................
คุณ ...................................................
หมู่ ๑ คุณบุญฤทธิ์ ไชยชาญ ผู้ใหญ่บ้านกอกหวาน หมู่ ๑
คุณ .......................................................................
คณะกรรมการที่ปรึกษา ประกอบด้วย
๑. พระครูเจ้าอาวาสวัดกอกหวาน
๒. พ.อ.(พิเศษ) จำเนียร กอกหวาน ข้าราชการทหารบำนาญ
๓. นายโย รัตโน อดีตผู้ใหญ่บ้านกอกหวาน หมู๋ ๑๒
๔. น่ายราชัย์ ไชยชาญ รองผู้อำนวยการ สพป.ศรีสะเกษ เขต ๓
๕. นายวัชรินทร์ กอกหวาน ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลปรางค์กู่
๖. นายเรขา เวชกามา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองเพดาน
๗. นายสุภาพ ยามไสย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านไฮ
๘. นายสมบัติ กอกหวาน ข้าราชการบำนาญ
๙.........
๑๐. .................
งานและกิจกรรมที่ชมรมดำเนินการ
๑. งานสงเคราะห์สมาชิก ๒ ประการ
ประการที่ ๑ บริการให้สมาชิกยืมเงินไปจัดงานศพที่สมาชิกในครอบครัวเสียชีวิต ครั้งละไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งหมื่นบาท)
ประการที่สอง บริการยืมเงินรักษาสุขภาพยามเจ็บป่วย ครั้งละไม่เกิน๒,๐๐๐ บาท( สองพันบาท) หายป่วยแล้วต้องส่งคืนภายใน ๑๕ วัน
๒. งานให้กู้เพื่อการประกอบอาชีพ โดยมีหลักเกณฑ์
เกณฑ์ที่ ๑ ผู้ได้รับสิทธิกู้เงิน คือสมาชิก เท่านั้น
เกณฑ์ที่ ๒ วงเงินกู้ รายละ ๒,๐๐๐ บาท
เกณฑ์ที่ ๓ ระยะเวลาส่งดอกเบี้ยและเงินต้น ภายใน ๑ ปี ดอกเบี้ย ๒๐๐ บาท/ ปี
เกณฑ์ที่ ๔ กรณีชำระเงินกู้และดอกเบี้ยไม่เป็นไปตามกำหนด จะถูกปรับตามหลักเกณฑ์และข้อพิจารณาของคณะกรรมการ
๓. กิจกรรมมอบทุนเพื่อการศึกษา ชมรมฯ นำเงินดอกผลประจำปีมาจัดสรรตามหลักเกณฑ์และมอบเพื่อสาธารกุศลและรวมทั้งทุนการศึกษาด้วย
เกณฑ์ที่ ๑ บุตรของสมาชิก เท่านั้น
เกณฑ์ที่ ๒ ๑๕ ทุน ๆ ละ ๓๐๐-๕๐๐ บาท
เกณฑ์ที่ ๓ มอบในโอกาสจัดงานวันสงกราต์ประจำปี ๑๓ เมษายน
๔. กิจกรรมสร้างขวัญบำรุงกำลังใจ
๔.๑ ทายาทของสมาชิกทีี่เสียชีวิต
๔.๒ มอบรางวัล/เกียรติบัตร คนสร้างดีมีคุณต่อบ้านกอกหวานในปัจจุบัน "รางวัลคนดีศรีบ้านกอกหวาน"
๔.๓ รดน้ำดำหัวขอพรผู้ใหญ่เนื่องในวันสงกรานต์ประจำปี
๕. กิจกรรมอื่นๆตามสถานการณ์
เขมรบ้านกอกหวานสานสายใย
จะร่วมใจร่วมพลังสร้า้งสรรค์
จะร่วมสุขคลายทุกข์ของกันและกัน
จะมุ่งมั่นทอดวัฒนธรรมค้ำชุมชน
ลูกกอกหวานวานด้วยช่วยทุกมือ
ช่วยกันรื้อช่วยกันปรับไม่สับสน
ช่วยกันก่อช่วยกันสานบันดาลดล
จึงทุกคนได้เสพสุขตราบนิรันดร์
ชมมคนรักบ้านกอกหวาน ยังคงเดินและดำรงคงอยู่คู่คนบ้านกอกหวานตลอดไป ซึ่งในช่วงที่คุณไพจิตร สุขสุวรรณทำหน้าที่เป็นประธานกรรมการมีกิจกรรมดีที่ส่งเสริมและแสงความดีใจกับคนบ้านกอกหวาน ปี ๒๕๕๕ ได้จัดกิจกรรมมุทิตาจิตเนื่องในวาระที่พันเอก(พิเศษ) จำเนียร กอกหวาน เกษียณอายุราชการ ทางชมรมร่วมกับโรงเรียนบ้านกอกหวานได้จัดกิจกรรมขึ้นที่หอประชุมโรงเรียน มีเพื่อนร่วมรุ่นร่วมเรียนตอนชั้นประถมศึกาาตอนปลายที่โรงเรียนบ้านพิมาย ตำบลพิมาย อำเภอปรางค์กู่ มาร่วมอย่างน้อย ๒ ราย คือ คุณกุสุมภ์ กันทะวัง(สกุลเดิม สืบทรัพย์) อดีตครูโรงเรียนบ้านเหล็ก และคุณสมบัติ กอกหวาน อดีตผู้อำนวยการกลุ่มนิเทศติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา หรือ หัวหน้าศึกษานิเทศก์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกาาศรีสะเกษ เขต ๓ เพื่อแสดงความดีใจและพลอยยินดีที่ถึงฝั่งการเกษียณอายุราชการ ส่วนเพื่อนร่วมรุ่นร่วมเรียนในระดับต่างๆ และเพื่อนร่วมงาน ก็คงพลอยยินดีดุจเดียวกัน
นอกจากนั้น ในปี ๒๕๕๖ ยังมีคนบ้านกอกหวาน(เขยบ้านกอกหวาน) ที่มาอยู่บ้านกอกหวานมากกว่าบ้านเกิดของตนเอง ก็มาเกษียณอายุราชการในปี ๒๕๕๖ นี้ คือ นายเรขา เวชกามา อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองเพดาน อดีตประธานชมรม อดีตกรรมการชมรม คุณไพจิตร สุขสุวรรณ ประธานชมรมคนปัจจุบัน ได้ขอมติที่ประชุมอนุมัติเงินส่วนหนึ่งจัดซื้อของขวัญของที่ระลึกไปมอบให้ที่โรงเรียนบ้านหนองเพดาน ตำบลสมอ เพื่อแสดงความยินดีที่ถึงเส้นชัยปลายทางชีวิตราชการได้อย่างสง่างาม
และในปี ๒๕๕๖ นี้เช่นเดียวกัน กรรมการชมรม สมาชิกของชมรมยังได้รับเลือกเป็นรองนายกองคืการบริหารส่วนตำบลโพธิ์ศรีเป็นสมัยแรก คือ คุณรำเพย คีตะพันธ์สังวรณ์ ชมรมฯก็พลอยยินดีด้วย
กิจกรรมเด่นอีก ๑ อย่างที่สรา้งคุณภาพชีวิตและคุณค่าให้กับสมาชิกชมรมและคนบ้านกอกหวาน คือ กิจกรรมการสรรหา คัดเลือกคนดีศรีกอกหวาน ขึ้น ซึ่งก็มีผู้ได้รับรางวัลอันมีค่านี้ เป็นลำดับ เช่น คุณสุวิทย์ สุระ คุณเลือก ยามไสย์ คุณอิด ดวงอินทร์ คุณลำดวน อินทร์ดา คุณไหม ไชยสาร คุณสำราญ แสงเพ็ง คุณอุ่น ดอนเหลือม คุณ........... และคุณ .....เป็นต้น ส่วนคนเหล่านี้จะยังคงรักษาความดีความเป็นคนดีศรีกอกหวานอย่างไรหรือไม่ กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์
ความเห็น (1)
เห็นเนื้อร้องน่่าสนใจมาก อยากฟังเสียงจังเลยค่ะ