Mind is more valuable than matter.

     ปัญหาของคนเราในปัจจุบันเริ่มพบว่า "ชีวิต" ทั้งหน้าที่การงานและชีวิตครอบครัวที่เคยอยู่ดีมีสุขเริ่มจะผกผันมากขึ้นเรื่อยๆ การแข่งขันและความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในโลกธุรกิจกระตุ้นให้เราเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้จำเป็นต้องเหินห่างชีวิตครอบครัวทีละน้อยๆ

     ชีวิตที่เคยสมดุลกำลังผันแปรไปโดยไม่รู้ตัว ผลประโยชน์ส่วนตัวกลายเป็นเรื่องที่ใหญ่กว่าผลประโยชน์ส่วนรวม ในปัจจุบันจึงไม่เป็นเรื่องแปลกที่เห็นผู้คนแก่งแย่งกันเป็นใหญ่ ใส่หน้ากากเข้าหากัน และใช้ทุกกลยุทธ์ที่ได้ร่ำเรียนมาเพื่อชิงความได้เปรียบ โดยหลงลืมคำว่า..."ศีลธรรม จรรยายรรณ และความถูกต้อง"...สุดท้ายแล้วเราต้องมานั่งคิดทบทวนกันอย่างจริงจังว่า...แท้จริงแล้วชีวิตของเรานั้นต้องการอะไรกันแน่...?

     แม้ว่าเป้าหมายของแต่ละคนจะแตกต่างกัน...แต่ถึงจุดหนึ่งที่ทุกคนจะต้องเจอปัญหาเดียวกันว่า...อะไรเป็นจุดหมายที่แท้จริงของชีวิตกันแน่...ระหว่างชื่อเสียง เงินทองที่เป็นผลประโยชน์ส่วนตัว...กับการทำในสิ่งที่เราชอบ และทำเพื่อสังคมส่วนรวม...? Mind is more valuable than matter...จิตใจมีค่ากว่าวัตถุครับ!!!