เมื่อเร็วๆนี้ ทางสำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร ได้รับการประสานจากจังหวัด ในการดำเนินงานการจัดการองค์ความรู้ จำนวน ๑ เรื่อง ซึ่งเริ่มแรกได้พิจารณากำหนด ประเด็นองค์ความรู้เรื่อง การลดต้นทุนการผลิตข้าวนาปี ซึ่งสอดคล้องกับวิสันทัศน์จังหวัด และประเด็นยุทธศาสตร์จังหวัดฯ ในเวทีประชุมคณะทำงานการจัดการความรู้ของจังหวัด โดยประกอบกันหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากนั้นก็ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มอบหมายให้คุณกิจของแต่ละหน่วย มาออกแบบเพื่อความเข้าใจในการทำงานร่วมกัน ในปีนี้ว่าจะเริ่มต้นกันอย่างไร ผมจึงเรียกเวทีนี้ว่าเวทีคุณกิจ เพราะว่าจะได้คุยกันอย่างมีบรรยากาศแห่งการแลกเปลี่ยนและแบ่งปันจริงๆ หากจะพูดกันให้เข้าใจง่ายก็คือคุยกันแบบกันเอง เพื่อการพัฒนาสู่การทำงานเป็นทีมแบบไม่มีการสั่งให้ทำนั่นเอง แต่จะต้องเกิดการทำลักษณะของทีมหรือที่เรียกกันว่า Team Learning นั่นเองครับ แต่ต้องคิดอยู่เสมอว่าทำงานอย่างมีความสุข
บรรยากาศของเวทีคุณกิจนั้นมีบรรยากาศการแลกเปลี่ยนที่ดีมาก แต่ผมก็ได้คุณสิงห์ป่าสัก( คุณวีรยุทธ์ สมป่าสัก ) นี่แหละเพื่อนคู่ใจที่ทำงานร่วมกันในเรื่อนี้มานานหลายปี ได้เพิ่มเติมความรู้หรือเรียกว่าแบ่งปันประสบการณ์ให้แก่คุณกิจน้องใหม่ที่มาจากหน่วยงานอื่น ที่ยังไม่มีประสบการณ์ตรงในเรื่องนี้มาก่อน ได้เข้าใจเชิง Concepe นั่นเอง ต่อจากการจัดเวทีคุณกิจ เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันแล้ว เราก็จะจัดทำ KM Action Plan กัน เพื่อจัดส่งให้ทาง CKO และ CEO ระดับจังหวัด ต่อไป
ต่อจากนั้น ในฐานะที่สำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร ทำหน้าที่เลขานุการของคณะทำงาน KM ระดับจังหวัด มาถึงตรงนี้แล้ว คุณกิจของสำนักงานเกษตรจังหวัดนี่แหละ จะต้องเข้าใจในกระบวนการของการจัดการความรู้ทุกขั้นตอน รวมทั้งมีแนวคิดในเชิงบวกที่พัฒนางานที่จะทำให้เชื่อมกับระบบของทำงานประจำของหน่วยงานได้อย่างไร สำคัญที่สุดต้องอาศัยการปรึกษาหารือ และแลกเปลี่ยนกับ TEAM ที่เคยมีทั้งความรู้และประสบการณ์มาก่อน เช่นอ.สิงห์ป่าสัก( คุณวีรยุทธ์ สมป่าสัก ) และคุณนันทมาส ทองปลี (เป็นนวส.น้องใหม่ของทีม)ที่มีความเข้าใจในการเรียนรู้เชิงประสบการณ์ ได้เร็วคนหนึ่ง เรามาร่วมกันออกแบบกระบวนงานที่เชื่อมโยง หรือคิดงานเชิงระบบนั่นเอง โดยมอง KM เป็นเครื่องมือในการทำงานนั่นเอง (มิใช่แบบทำเพื่อส่งเอาคะแนนนนะ) เพื่อที่จะขับเคลื่อนองค์กรไปสู่LO แต่ไม่คาดหวังแห่งความสำเร็จสูง แต่ข้อเท็จจริงก็คือ ทำKM แล้วต้องลงมือทำจริงนี่คือความตั้งใจ ได้ทั้งงานและบรรยากาศ หรือที่เราอยากให้เห็นในระบบก็คือทำงานให้มีความสุขนั่นเองครับ
นอกจากนี้ทางคณะทำงานของเหล่าคุณกิจ ยังมองไปถึงการยกระดับขององค์ความรู้ และการพัฒนาการแบบมีส่วนร่วม ก็คือ เราจะลองนำการวิจัยแบบ PAR เข้ามาเชื่อมโยงกับการทำงานครั้งนี้ด้วย (ทีมงานยังต้องการอาจารย์ของมหาวิทยาลัยฯที่สนใจมาเป็นที่ปรึกษาด้วยครับ)
ลองมาดูถึงการออกกระบวนงาน ซึ่งอ.สิงห์ป่าสัก ได้ทำหน้าที่คุณลิขิต
มาให้ดูกัน ซึ่งจะใช้เป็นตัวเดินเรื่องต่อไปนะครับ
เขียวมรกต
๖ เมย.๕๕
"โดยมอง KM เป็นเครื่องมือในการทำงานนั่นเอง (มิใช่แบบทำเพื่อส่งเอาคะแนนนนะ) เพื่อที่จะขับเคลื่อนองค์กรไปสู่LO แต่ไม่คาดหวังแห่งความสำเร็จสูง แต่ข้อเท็จจริงก็คือ ทำKM แล้วต้องลงมือทำจริงนี่คือความตั้งใจ ได้ทั้งงานและบรรยากาศ หรือที่เราอยากให้เห็นในระบบก็คือทำงานให้มีความสุขนั่นเองครับ"
มาให้กำลังใจ
และแวะมาขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมในบันทึกค่ะ