จากเดิมก็ต้องเผชิญกับปัญหามีระดับน้ำทะเลขึ้นและต้องระแวดระวังภัยธรรมชาติจากการขยับตัวของเปลือกโลกใต้ทะเลที่ทำให้เกิด สึนามิกลื่นเกาะได้ทุกวินาที่อยู่แล้วซึ่งต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาก็ยังมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดจากจลาจนขับไล่ ประธานาธิบดี ขึ้นที่กลางกรุงมาเล สาธารณรัฐมัลดีฟส์ และหากปล่อยให้อยู่ในสภาวะ เช่นนี้ โดยไม่แก้ไข มัลดิฟส์ คงเป็นประเทศไม่น่าจะไปเยือนอีกเลย มัลดีฟส์ เป็นสาธารณรัฐเล็กๆ ที่อยู่กลางเกาะมหาสมุทรอินเดีย ประกอบด้วยเกาะปะการังราว 1,190 เกาะแต่ละที่มีคนอาศัยอยู่จริงๆ ไม่เกิน 203 เกาะ คงเป็นดินแดนในอารักขาของอังกฤษ จนกระทั้งปี พ.ศ.2508 จึงได้รับเอกราชเป็นหมู่เกาะที่มีทัศนียภาพสวยงามจนได้ชื่อว่า เป็นสวรรค์กลางทะเล
1.ตลาดตกปลา อยู่ใกล้ๆกับท่าเรือ เพรสซิเดนท์ ( President s jetly ) พอบ่ายคล้อยไปแล้วตลาดนี้จะคึกคักมีชีวิตชีวา เมื่อเรือหาปลาที่ออกไปตั้งแต่ตอนกลางคืนทยอยกันกลับเข้าฝั่งในเรือแบบพื้นเมืองหลากสีที่เรียงรายอยู่ริมท่าสร้างความสดใสให้กับท่าเรือมีปลาทูครีบเหลือ ทูน่าสคิปแจ็ค รวมไปถึงปลามาร์ลิน
2.ไปชมมัสยิด แกรนด์ ฟรายเดย์ (Grand Friday Mosque ) สร้างเมื่อ พ.ศ. 2527 ครั้งหนึ่งหอสูงของมัสยิดแห่งนี้ เคยได้ชื่อว่าเป็น หอสูงสุดบนเกาะมาเล ห้องโถงใหญ่ของมัสยิดจุคนได้ราว 5,000 คนตอนกลางคืนมัสยิดแกรนด์ฟรายเดย์จะเหลืออร่ามเหมือนอาบด้วยทองจากแสงไฟที่ประดับไว้อย่างสวยงาม
3.เที่ยวทะเล ในเนื่องจากไม่มีหาดธรรมชาติในมาเลชาวพื้นเมืองจึงช่วยกันสร้างแอ่งน้ำพิเศษขึ้นมาทางด้านใต้ของเกาะ แอ่งน้ำพิเศษนี้้ ห้ามเรือเข้ามาวิ่งตั้งแต่บ่าย 4 โมงเป็นตนไปจึงเหมาะสำหรับผู้ที่อยากไม่รู้จักพบปะกับชาวเกาะซึ่งมีอัธยาศัยไมตรีดีมาก
4.ดูชีวิยามคำคืนในทะเล พอพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าแล้วอากาศเริ่มเย็นลงริมทางสองฝั่งถนนในมาเลจะมีชีวิตชีวาขึ้นมาทั้นที่ ทีออกมาพักผ่อนเดินเล่นมาหาซื้อของมากินข้าวนอกบ้านพบปะสังสรรค์เพื่อนๆ ตาม ถนนมาจิดีมาตู ทีถูกตัดผ่านกลางเกาะชมร้านค้านานาชนิดก็เพลินแล้วใครที่อยากซื้อของที่ระลึกก็ใช้โอกาสไปชมเมือง
5.ซื้อผักผลไม้จากชาวสวน อยู่ติดกับตลาดปลาไปทางตะวันตกจะเป็น ตลาดผักและผลไม้ ที่ชาวสวนมาวางขายในราคาถูกมากเป็นผลไม้ตามฤดูกาล เช่น มะพร้าว มะม่วง และเงินที่ใช้คือเงิน รูฟียา Rufiya
6.ไปดูการเล่นกระดาษโต้คลื่น เป็นกีฬาผจญภัยที่ชาวเกาะชอบเล่นกันมากตอนบ่ายแก่ๆ จะมีคนจองที่นั้งริมเขื่อนดูนักกระดาษโต้คลื่นพริ้วไปตามยอดคลื่นอย่างหน้าหวาดเสียวและอันตราย
7.หาดเนรมิต อย่างที่บอกไว้แล้วว่ามาเลนั้นไม่มีหาดธรรมชาติทางรัฐบาลมัลดีฟส์จึงเนรมิตหาดขึ้นมาใหม่อยู่ที่บริเวณปลายสุดด้านตะวันออกของเกาะเป็นหาดทรายครึ่งวงกลม
8.กินอาหารข้างถนน ตามสายกลางรอบเกาะจะมีร้านแบบแผงรอยและรถเข็ญอยู่เป็นระยะๆ มีของขายทุกชนิดตั้งแต่ น้ำมะพร้าวอ่อนไปถึงพวกอาหารว่างแบบพื้นเมืองชึ่งอร่อยและน่าลิมลองมาก
9.ชมมัสยิดเก่าที่สุดของประเทศ มัสยิสฮูกูรู ( Hukuru Miskiik ) เป็นมัสยิดเก่าแก่ที่สุดของมัลดิฟส์สร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2199 ภายในมีภาพแกะสลักสวยงามบอกถึงเรื่องราวความเป็นมาของศาสนาอิสลามที่แผ่เข้ามาสู่หมู่เกาะมัลดีฟส์ตั้งแต่ศตวรรษที่ 13
10.สุสาร อาบู อัล มาราคาร ตรงข้ามกับมัสยิดฮูกูรู คือที่ตั้งสุสานของอาบูอัล บาราคาร ( Abu Al Barakaath ) ซึ่งมีหลักฐานยืนยันว่าเป็นบุคคลสำคัญที่สุดคนหนึ่งในประว้ติศาสตร์ สาธารณรัฐมัลดิฟส์ เพราะท่านเป็นผู้นำคำสอนของศาสนา อิสลามขึ้นสู้ชายฝั่งหมู่เกาะมัลดิฟส์เมื่อ 853 ปี
ผู้เขียน หรือผู้แต่ง อาจารย์พาจร
จากหนังสือ คู่สร้างคู่สม
ไม่มีความเห็น