โรงเรียนเทศบาล 4 (เพาะชำ)
โรงเรียนเทศบาล 4 (เพาะชำ) เทศบาลนครนคราชสีมา

การอดอาหารเช้า...พฤติกรรมสร้างโรค (ครูสุภาภรณ์)


การรับประทานอาหารเช้านั้นควรรับประทานช่วงเวลา 7.00 – 9.00 น. เป็นช่วงเวลา 2 ชั่วโมง อันมีค่าในการย่อยอาหารของร่างกาย เพราะเป็นเวลาของลมปราณกระเพาะอาหารตามนาฬิกาชีวิต

       

        

 

      คุณรู้หรือไม่...ว่า...การอดอาหารเช้า เป็นพฤติกรรมสร้างโรคของผู้คนในยุคปัจจุบัน  สังคมที่เร่งรีบมักจะทำให้หลาย ๆ คน ละเลยไม่ให้ความสำคัญกับอาหารเช้า  ปัจจุบันหลายบ้าน หลายออฟฟิศ  มักจะรับประทานกาแฟและขนมปังตามกระแสวัฒนธรรมตะวันตก

                                                    

 

    
        อยากให้ทุกท่านลองระลึกความหลังคิดถึงเมื่อเรายังเป็นเด็กนักเรียน  ต้องทานข้าวเช้าทุกวัน  แต่โดนสับเปลี่ยนเป็นกาแฟ ขนมปัง  โดยที่เราแทบจะไม่รู้ตัว  ทั้ง ๆ ที่ราคาสูงกว่าและประโยชน์ที่ได้ต่างจากข้าวแกง  พะแนงไข่ดาว  ข้าวกระเพราไก่ไข่เจียว  ผัดผักรวมมิตร  แกงมะระยัดไส้หมู  อาหารเช้าเหล่านี้ จะถูกน้ำย่อยในกระเพาะอาหารที่เป็นกรดย่อย จนขนาดเล็กลง  และดูดซึมสารอาหารเข้าสู่กระแสเลือด  สร้างพลังงานให้เราทั้งวัน  ขอย้ำอีกครั้งนะคะว่าทั้งวัน  การันตีโดยพระสายปฏิบัติทั่วประเทศท่านฉันมื้อเดียวก็อยู่ได้ทั้งวันแถมยังต้องใช้แรงเดินทางไกลบิณฑบาต  ไม่ได้นั่งขยับแค่นิ้วมือเหมือนคนเมืองเสียด้วย

                                     

         การรับประทานอาหารเช้านั้นควรรับประทานช่วงเวลา 7.00 – 9.00 น. เป็นช่วงเวลา 2 ชั่วโมง อันมีค่าในการย่อยอาหารของร่างกาย   เพราะเป็นเวลาของลมปราณกระเพาะอาหารตามนาฬิกาชีวิต  ใครที่ไม่ค่อยรับประทานอาหารเช้า  หรือ ชอบรับประทานอาหารแบบรวบยอดทีเดียวตอนเที่ยง  สังเกตได้ว่าริมฝีปากจะไม่ค่อยมีสีเพราะเม็ดเลือดน้อย  ลิ้นไม่มีเลือดฝาด  ริมฝีปากบนแห้ง  ง่วงนอนง่าย  ออกกำลังกายแล้วมึนศีรษะ  และมีอาการอยากทานกาแฟหรือของหวานเพราะขาดพลังงาน  ต้องใช้ตัวช่วย  บางท่านก็ติดกาแฟไปเลยดื่มกันแก้วต่อแก้ว   เราสามารถสังเกตสัญญาณเตือนว่าช่วงนี้ไม่ค่อยทานอาหารเช้าได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง  จากทางเดินเส้นลมปราณกระเพาะอาหาร  คือ  ตึงเส้นสันหน้าแข้งด้านนอกจนถึงข้อเท้าด้านหน้า   ทำให้มีอาการปวดเมื่อยขาบ่อย ๆ  โดยเฉพาะเมื่อยข้อเท้าเวลาขับรถ  ซึ่งต้องเหยียบคันเร่งและเบรคสลับกันไป  สำหรับผู้สูงอายุก็จะมีอาการยอดฮิตคือปวดตึงเข่า(เจ็บเข่า)  ทำให้ก้าวขาขึ้นบันไดลำบาก  เพราะกว่าจะก้าวได้แต่ละขั้นบันไดช่างยากเย็น  นี่ไงคะเราถึงบอกว่า การอดอาหารเช้าเป็นพฤติกรรมสร้างโรค และยังกำหนดชะตา...ขา ของเราได้อีกด้วย

 

เส้นลมปราณกระเพาะอาหาร

 

 

 

 

          เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว  อย่าอดอาหารเช้าอีกเลยนะคะ  ตื่นแต่เช้ารับประทานอาหารให้อิ่มเต็มที่  เพื่อสร้างพลังงานทำงานได้ทั้งวันและห่างไกลโรคค่ะ

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.the-arokaya.com/web5/index.php?option=com_content&view=article&id=464:2012-01-29-11-26-10&catid=42:2010-03-31-09-27-16&Itemid=187

 

P

 ครูสุภาภรณ์
ครูสุภาภรณ์ พลเจริญชัย
โรงเรียนเทศบาล4(เพาะชำ)
หมายเลขบันทึก: 484361เขียนเมื่อ 5 เมษายน 2012 21:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:53 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ขอบคุณมากค่ะที่นำสาระดีๆมาบอก

เรื่องนี้ต้องขยายแล้วค่ะ

ขออนุญาตนะค่ะ

มีบ้างค่ะบางวันไม่ได้ทานเนื่อจากต้องออกพื้นที่

แต่ก็ไม่เกินเวลา ๙.๐๐ ค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณIco24 Bonnie  ขอบคุณค่ะที่เข้ามาเยี่ยมชมและทักทาย  รับประทานอาหารเช้าทุกวันนะคะ

สวัสดีค่ะ คุณIco24 โสภณ เปียสนิท  ขอบคุณค่ะที่เข้ามาทักทาย  คิดถึงเสมอนะคะ

สวัสดีค่ะ คุณ Ico24 kwancha ขอบคุณค่ะที่มาเป็นกำลังใจให้ดอกไม้  อย่าอดอาหารเช้านะคะ

                                        

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท