สื่อและกระบวนการเรียนรู้สร้างสุขภาวะ ที่ศึกษาและพัฒนาขึ้นจากบริบทของชุมชนอย่างค่อยเป็นค่อยไป


งานงิ้วของอำเภอหนองบัวปี ๒๕๕๕ นี้ มีพัฒนาการความคืบหน้าที่สืบเนื่องกับเวทีคนหนองบัว และการทำกิจกรรม ให้เป็นโอกาสระดมพลังความริเริ่มสร้างสรรค์ ผสมผสานไปกับสิ่งต่างๆที่มีอยู่เป็นทุนเดิม ให้บังเกิดสิ่งที่จะเป็นผลดีและเป็นปัจจัยเกื้อหนุนการก่อเกิดสุขภาวะของชุมชนและคนหนองบัว หลายประการด้วยกัน หนึ่งในจำนวนนั้นก็คือ การมีสื่อและเรื่องราว ความเป็นมาของหนองบัว หนองกลับ และชุมชนต่างๆในหนองบัว เพื่อการเรียนรู้อย่างบูรณาการเกี่ยวกับสังคมและถิ่นฐานของคนหนองบัว เผยแพร่แจกจ่ายอย่างกว้างขวาง

เรื่องราวดังกล่าว เป็นการช่วยกันสะสมรวบรวมเรื่องเล่า ตำนาน ความเชื่อ ประวัติศาสตร์ชุมชนจากคำบอกเล่า และคติชนท้องถิ่น เกี่ยวกับแง่มุมต่างๆของหนองบัว จากที่เคยว่างเปล่า ให้ค่อยๆถักทอเป็นข้อมูลและเรื่องราวที่มีความเชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบมากขึ้นเป็นลำดับ กระทั่งต่อมาเมื่องานงิ้วปี ๒๕๕๔ ที่ผ่านมา ในเวทีคนหนองบัว ก็จัดเสวนาโดยใช้รูปวาด ภาพถ่าย ชื่อสถานที่ ประวัติคนเก่าแก่ และเพลงพวงมาลัย เปิดประเด็นให้ชาวบ้านนั่งพูดคุยสนทนากัน จากนั้นก็บันทึกเสียง บันทึกวิดีทัศน์ วาดรูป และบางส่วนก็นำไปบันทึกในเว็บบล๊อกใน GotoKnow และอีกหลายแห่ง

ผู้เขียนในฐานะคนหนองบัวและได้มุ่งติดตามพัฒนาการทางด้านต่างๆ โดยเฉพาะทางด้านกระบวนการเรียนรู้ ข้อมูลชุมชน ตลอดจนองค์ความรู้ต่างๆที่เพิ่มพูนขึ้น เพื่อช่วยวิเคราะห์และสร้างปฏิสัมพันธ์ให้เกิดพลังการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงสิ่งดีๆในรูปแบบต่างๆ เช่น วิเคราะห์และเขียนบันทึกรายงานเผยแพร่เป็นเรื่องย่อยๆตามข้อมูลที่งอกงามเติบโตไปกับการเกิดตัวคนปฏิบัติของท้องถิ่นหนองบัว ตั้งประเด็นและหัวข้อให้สามารถช่วยกันรวบรวมข้อมูลหรือตรวจทานให้เกิดความเป็นที่เชื่อถือได้มากยิ่งๆขึ้นอยู่ตลอดเวลา นำมาเล่าและถ่ายทอดด้วยศิลปะของสื่อในรูปแบบที่เอื้อต่อการเข้าถึงได้อย่างกว้างขวางหลากหลาย นำมาวิเคราะห์และนำเสนอประเด็นที่สามารถพัฒนาโจทย์การวิจัยและแนวนโยบายสาธารณะระดับต่างๆ นำมาวิเคราะห์วิจัยและตีพิมพ์รายงานเพื่อสร้างความรู้ใหม่ๆเชื่อมโยงกับความรู้สากลที่เอื้อต่อการเกิดพัฒนาการของสังคมโดยอิงอยู่กับถิ่นฐานและระบบนิเวศของสุขภาวะการอยู่อาศัย รวมทั้งนำเอาไปเป็นตัวอย่างความเป็นจริงสำหรับสอน บรรยาย สร้างนักวิจัย ผู้นำชุมชน และผู้นำการพัฒนาในสาขาต่างๆ เหล่านี้เป็นต้น

สิ่งที่ได้ทำไปด้วยเหล่านี้ เมื่อมีข้อมูลและเรื่องราวที่สามารถสื่อสารเผยแพร่ให้เป็นโอกาสได้เรียนรู้ตนเองของชุมชน ผู้เขียนก็จะนำมาทำเป็นสื่อและจัดกระบวนการสื่อสาร นำเสนอ และเผยแพร่ ให้มีความเหมาะสมในรูปแบบหลากหลาย ซึ่งในการเสวนาของเวทีงานงิ้วเมื่อปี ๒๕๕๔ ดังที่กล่าวมา เมื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์และช่วยเรียบเรียงเสียใหม่ ก็ทำให้ได้เรื่องราว ตำนานหนองบัวและหนองกลับ อันเป็นเรื่องราวของนางเกสร ฤาษีตาไฟ นายพราน อันเป็นที่มาของชื่อหนองบัว เกาะลอย หนองกลับ การเล่นโล้ชิงช้าและร้องเพลงพวงมาลัยของคนหนองบัวในโอกาสต่างๆ จากนั้น ผู้เขียนก็นำมาเล่าใหม่ด้วยการวาดรูปโดยอิงไปกับข้อมูลชุมชน เรื่องเล่า และคติความเชื่อต่างๆที่สะท้อนอยู่ในตำนานชาวบ้าน เผยแพร่เป็นครั้งแรกใน GotoKnow

ต่อมาก็ทำเป็นสื่ออีกหลายชุด โดยท่านพระอาจารย์มหาแล อาสโย (ขำสุข) คนพื้นเพบ้านหนองกลับ ได้ทำเป็นแผ่นพับแบบทำขึ้นด้วยมือขนาด A4 พับครึ่งจำนวนหลายร้อยแผ่น ส่วนผู้เขียนก็ทำเป็นสื่อ  ๒ ชุด ประกอบด้วย แผ่นนิทรรศการ ๓ แผ่นขนาดใหญ่สำหรับติดตั้งให้คนยืนอ่านในเต๊นท์นิทรรศการ กับแผ่นพับขนาดกระดาษ A2 พับครึ่งซึ่งได้ขอให้ภรรยาผมจัดอาร์ตเวิร์คและทำงานศิลปกราฟิคเพื่อผลทางศิลปะของสื่ออย่างสวยงาม จากนั้นก็นำไปถ่ายเอกสารและทำเป็นแผ่นพับขนาด A4 จำนวน ๓๐๐ แผ่น

ปีนี้จึงเป็นครั้งแรกที่ชาวหนองบัวมีสื่อเรื่องราวและตำนานของหนองบัว เผยแพร่แจกจ่ายกันอย่างกว้างขวางในงานงิ้ว ซึ่งความสำคัญของการศึกษาเรื่องเล่าและการนำมาทำเป็นสื่อในลักษณะดังกล่าวนี้ จะไม่ใช่ด้านที่มุ่งสรุปว่าเรื่องเล่าจากปากต่อปากของชาวบ้านนั้นเป็นความจริงและเชื่อถือได้เท่ากับวิธีสร้างความรู้ของนักวิชาการและวิธีการแบบของต่างประเทศหรือไม่ แต่อยู่ที่การเป็นเครื่องมือทางสังคมวัฒนธรรมที่จะส่งเสริมให้ชาวบ้านและผู้คนในถิ่นอาศัยเดียวกัน ได้มีวาระพูดคุย สร้างความคุ้นเคย และเกิดกระบวนการสร้างความรู้สึกนึกคิดร่วมกัน มีวิถีชีวิตและความผูกพันทุกข์สุขร่วมกันต่อไป

นอกจากนี้ เรื่องราวที่กำลังได้รับการสั่มสมรวบรวมจากการช่วยกันของคนหนองบัว ก็ทำให้เราได้ศึกษาเพื่อค้นพบและเข้าถึงภูมิปัญญาและวิธีอันชาญฉลาดที่สังคมได้สร้างและสืบทอดสิ่งต่างๆผสมผสานกับวิถีชีวิตไว้อย่างแยบคายลึกซึ้ง ทั้งมิติภูมิศาสตร์ท้องถิ่น ภูมิศาสตร์สังคมวัฒนธรรมของชุมชน ชื่อหมู่บ้าน ชื่อสถานที่ ชื่อต้นไม้ ความเชื่อความศรัทธากับการจัดระบบและโครงสร้างความสัมพันธ์ของปัจเจก ชุมชน และสิ่งที่อยู่เหนืออำนาจของมนุษย์ เป็นอาทิ

สิ่งเหล่านี้ นับว่าเป็นบันทึกสังคมที่สื่อสะท้อนมิติจิตวิญญาณกับมิติชีวิตของตัวปัญญาและความรู้ความเข้าใจต่อสิ่งต่างๆ ที่ทำให้ความแตกต่างหลากหลายของคนหนองบัวอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขมาถึงปัจจุบัน หล่อหลอมกล่อมเกลาลูกหลานและคนรุ่นใหม่ ให้เดินออกไปเป็นพลเมืองและสมาชิกของสังคมที่ดีทั้งต่อท้องถิ่นและโลกกว้าง

สื่อที่ทำขึ้น ใช้แจกจ่ายในหลายโอกาส ทั้งวางเป็นเอกสารแจกฟรีในเต๊นท์นิทรรศการ การช่วยกันเดินถือและแจกจ่ายแก่ประชาชนที่มาเที่ยวงานงิ้ว การฝากติดมือผู้ปกครองและผู้ใหญ่ให้นำไปฝากเด็กๆและชาวบ้านเพื่อมีสื่อพัฒนาการอ่านที่เป็นของชุมชนหนองบัว

ในวันสุดท้ายก่อนเก็บนิทรรศการของปี ๒๕๕๕ นี้ ก็มีศิลปินเพลงแหล่กับเพื่อนแวะมาชมนิทรรศการพร้อมกับอาสาว่าจะนำไปร้องเป็นเพลงแหล่ในโอกาสต่างๆและขอนำเอาแผ่นพับที่เหลือทั้งหมดไปเผยแพร่แจกจ่าย เพื่อช่วยกันสื่อสารและสร้างพลังการเรียนรู้สิ่งดีๆของคนหนองบัว ให้แพร่หลายยิ่งๆขึ้นต่อไป.

หมายเลขบันทึก: 484007เขียนเมื่อ 2 เมษายน 2012 12:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 กันยายน 2013 23:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

คืนวันที่๒๕ มีนาคม๒๕๕๕ นำเอกสารไปแจกด้วยหลายร้อยชุด
หลังจากเลิกจากการพูดคุยในเวที ประมาณเที่ยงคืน
แล้วอาจารย์ไปส่งอาตมากับท่านอธิการโชคชัยที่บ้านโยมพ่อ 

กะว่ารุ่งขึ้นจะยังไม่กลับพิษณุโลก เลยไม่ได้ฝากเอกสารที่เหลือไว้กับอาจารย์ช่วยแจกคืนสุดท้าย รุ่งเช้าได้นำเอกสารที่เหลือไปฝากผู้ใหญ่บ้านหลายสิบชุด เจ้าอาวาสวัดเทพสุทธาวาส ๕๐ กว่าชุด ครูโรงเรียนบ้า่นคลองลาน ๕๐ กว่าชุด

ที่เหลือประมาณสักร้อยชุดได้ฝากคุณครูต้นเทียนให้นำไปบริจาคให้ห้องสมุดโรงเรียนหนองบัว รวมแล้วทั้งของอาจารย์และของอาตมาน่าจะเกือบๆพันชุดได้

เห็นเด็กๆชาวบ้านรับเอกสารความรู้ตำนานพื้นบ้านชุดนี้ไปอ่านแล้ว
ต่างสังเกตมองภาพวาดด้วยความสนใจ และบางท่านก็บอกให้ทราบว่า
เออยังไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลยก็มี เมื่อได้ทราบประวัติเรื่องราวแล้ว
ทุกท่านก็ชื่นชนผู้ทำว่าทำได้ดีมาก

เรามีส่วนบ้างเล็กน้อย เมื่อเห็นการเรียนรู้ของชาวบ้านด้วยการอ่าน(แต่เดิมจำจากคำบอกเล่า) ก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลย 

มีศิลปินเพลงแหล่งแวะมาที่เต๊นท์ และเขากับเพื่อนแนะนำตนเองว่าเป็นลูกศิษย์หรือผู้ที่เคารพศรัทธา ของพระคุณเจ้านี่แหละครับ เขาบอกว่าเสียดายที่ไม่ได้เจอ และเสียดายที่วันสุดท้ายไม่มีกิจกรรมเวทีคนหนองบัวเสียแล้ว เขาตั้งใจมาช่วยแหล่เพลงในเวที เสียดายอย่างยิ่งครับ พวกคุณครูและหลายคนในหนองบัวบอกว่าเขารู้จักศิลปินเพลงแหล่นี้กันเป็นอย่างดี ชาวบ้านชอบและเป็นนักร้องเพลงแหล่ที่มีชื่อเสียง

กราบนมัสการขอบพระคุณท่านพระอาจารย์มหาแลที่คลิ๊กแทนดอกไม้ให้กำลังใจ
และขอขอบพระคุณทุกท่านที่แวะมาเยือนเป็นกำลังใจกันครับ
ท่านอาจารย์หมอ JJ อ.นุ และอาจารย์ ดร.ขจิต

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท