พระพุทธเจ้าท่านรักเราเมตตาเรา ท่านได้ให้เราทำคุณงามความดี สร้างบารมี เพราะภพภูมิของมนุษย์เป็นภพภูมิที่เหมาะสมที่สุดในสร้างคุณงามความดี สร้างบารมี
โครงสร้างร่ายกายของมนุษย์เรามันเป็นโครงสร้างที่อ่อนแอ พ่อแม่จึงต้องคอยดูแล ตั้งแต่เล็กจนโต เป็นสิบปีกว่าเราจะพึ่งพาตนเองได้ เพราะเหตุนี้ความอ่อนแอจึงฝังอยู่ในใจทุกคน เพราะตั้งแต่เกิดมาเราเป็นผู้รับตลอด เป็นผู้ที่เอาจากพ่อจากแม่
หลายคนเคยชินกับความอ่อนแอที่ตลอดมาตัวเองเป็นผู้รับจากพ่อจากแม่ พอโตขึ้นมาก็ยังคิดไม่เป็น เป็นผู้ใหญ่แล้วก็ยังคอยรับมรดกจากพ่อจากแม่ เปรียบเหมือนนกตัวน้อย ๆ ที่ต้องคอยให้แม่ไปคาบเอาเหยื่อมาป้อน
ความอ่อนแอมันจึงฝังอยู่ในใจของพวกเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กที่พ่อแม่ยากจน พ่อแม่หย่าร้าง พ่อแม่มีปัญหาครอบครัวต่าง ๆ มันทำให้ชีวิตยิ่งลำบาก
แต่ถ้าเด็กคนนั้นคิดเป็น เขาจะคิดว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้ฝึกอยู่ด้วยตัวของเราเอง เขาจะคิดได้ว่า เราได้เกิดมาเป็นมนุษย์ก็ประเสริฐที่สุดแล้ว ไม่ต้องคิดที่จะเอาอะไรจากพ่อจากแม่จากแม่อีก ความยากความลำบากนั้นจะทำให้เราแกร่งขึ้น แต่ถ้าคิดเป็นผู้เอาตลอด เราก็จะอ่อนแอตลอด มีแต่ความเครียด คนคิดอย่างนี้จะไม่คิดขวนขวายที่จะพัฒนาตนเอง
พระพุทธเจ้าเมตตาให้เราแสวงหาอริยทรัพย์ด้วยกำลังแข้งของตัวเอง จะได้เป็นผู้ให้เป็นผู้เสียสละ พัฒนาอาชีพของเรา พัฒนาหน้าที่การงานของเรา
การพัฒนานี้เริ่มตั้งแต่ภาคทฤษฎี ทฤษฎีเราก็ต้องเข้าใจให้ชัดเจน แจ่มแจ้ง พอมาถึงภาคปฏิบัติก็ทำให้ถูกต้องและชัดเจนขึ้นมา
เรามีลมหายใจอยู่ถือว่าประเสริฐแล้ว อย่าท้อถอย เราจะมาคอยสมบัติจากพ่อจากแม่ไม่ได้ ถ้าคิดอย่างนี้จะทำให้เราจมปรักอยู่กับที่
ความเห็นแก่ตัวของเราทำให้เราคิดไม่เป็น ปล่อยให้ชีวิตไร้สาระไปเป็นวัน ๆ อยู่กับโทรทัศน์ โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เนท ฯลฯ
พระพุทธเจ้าไม่ให้เราอยู่กับความสุขกับการกิน การเล่น การเที่ยว การได้วัตถุใหม่ ๆ
ให้เป็นคนขยันขันแข็ง เสียสละ เป็นผู้ให้
คนเราจะดีได้ต้องครบองค์ประกอบชีวิต คือ คิดดี พูดดี และทำดี
บางคนคิดเก่งคิดดี แต่คิดอย่างเดียวแล้วไม่ทำ มันก็เหมือนการสร้างวิมานในอากาศ อย่างนี้เขาเรียกว่า “กำลังปลูกสวนปรุงไว้ในสมองตัวเอง ในอนาคตเดี๋ยวก็ต้องไปสวนปรุงจริง ๆ...”
เด็ก ๆ ทุกคนต้องเอาใจใส่ตัวเองให้มาก ๆ ชีวิตเราเริ่มจากศูนย์ ต้องอยู่ให้ได้ด้วยความอดทน อยู่ให้ได้ด้วยการกระทำของตัวเอง
พฤติกรรมทางกาย วาจา ใจของเราต้องปรับปรุงใหม่ แก้ไขใหม่ ถ้าคิดอย่างเก่า ทำอย่างเก่า พูดอย่างเก่า มันมีสาระน้อย มีประโยชน์น้อย
สิ่งที่ไม่ดีเราต้องคิดให้มันดี
คนอื่นไม่ดีก็ช่างเขา เราไม่เอาตัวอย่าง เราไม่ทำตาม หรือถ้ามีอะไรมายั่วยวนให้เราผิดศีล ก็ให้คิดว่าเป็นตัวทดสอบ เป็นสิ่งที่เปิดโอกาสให้เราเข้มแข็ง
ให้คิดดี คิดให้กำลังใจตัวเอง ถ้าคิดแล้วเสียกำลังใจอย่าไปคิด เพราะไม่คิดเราก็ไม่ตาย
สติสัมปชัญญะทำให้ใจเรามีกำลัง อย่าติดอยู่กับอดีต
สิ่งที่ไม่มีประโยชน์สามารถคิดให้เป็นประโยชน์ได้
ทฤษฎีคือแผนที่ แผนที่ก็ต้องชัดเจน เมื่อมีแผนที่ถูกต้องก็ต้องมีการปฏิบัติด้วย มันถึงไปได้
อบายมุข คือนรกทั้งเป็น จิตใจของเราจึงต้องเข้มแข็ง ต้องแกร่ง เพื่อจะได้ไม่ตกนรกทั้งเป็น
อย่าไปคิดว่าการติดอบายมุขต่าง ๆ เป็นความโก้ เป็นความเก๋ คนที่ติดอบายมุขคือคนที่ตกนรกทั้งเป็น...!
เวลาคนที่เขากู้หนี้ เวลาไปกู้มันยิ้ม มันดีใจว่าได้สตางค์เขา แต่ดอกเบี้ยมันขึ้นทุกวัน มันก็ตกนรกทุกวัน ทำไมต้องไปกู้เขา ก็เพราะใจมันอ่อน มันไม่ขยันหมั่นเพียร มันแพ้ แพ้อารมณ์ตัวเองที่อยากได้สิ่งโน้นสิ่งนี้
ปัจจัยสี่ ให้ใช้เท่าที่จำเป็น อย่าหลงใหลในวัตถุ ปัจจัยสี่ให้ใช้พอประทังชีวิต พอไปได้
คนเราเห็นแก่ตัว ความเก่ง ความฉลาดมันนำทั้งบุญและบาปมาให้
ทุกคนมีความทุกข์มาก ทุกข์หลาย มันจึงต้องช่วยเหลือกัน เราเกิดมาต้องช่วยเหลือกัน
หลายคนไม่มีใครอยากค้ายาบ้า ไม่มีใครอยากทำผิด แต่ความทุกข์ที่มันบีบคั้นมันบังคับให้เขาไปทำ “เมื่อความทุกข์มันบีบคั้น มันก็คิดอะไรไม่เป็น”
ทุกคนอยากจะหนีปัญหาแต่หนีด้วยความเห็นแก่ตัว อยากไปนิพพานแต่ศีลก็ไม่อยากรักษา อยากรวยแต่ไม่ขยัน
อย่าเอาอาชีพไว้บนหลังคนอื่น เราต้องพัฒนาตัวเราเองให้พึ่งพาตัวเองให้ได้มากที่สุด เรามองรอบข้างก็เห็นแต่คนที่เกิดมาเพื่อจะเอา ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องฝึกขยัน หมั่นเพียร ไม่ท้อถอย
ให้ทุกคนตั้งอกตั้งใจฝึกฝนพัฒนาตนเอง ถ้าเราปล่อยตัวแบบนี้มันก็แก่ลงไปทุกวัน ปล่อยวันเวลาดี ๆ ให้หลุดลอยไป
พระพุทธเจ้าจึงเมตตาให้เราสร้างคุณงามความดี สร้างอริยทรัพย์ ให้เอาศีลเอาธรรมเป็นหลัก เป็นทางเดิน
ให้เราขยันขันแข็งตั้งใจประพฤติปฏิบัติตามที่พระพุทธเจ้านำพาประพฤติปฏิบัติเราจะได้พึ่งพาตนเองและช่วยเหลือผู้อื่นได้
ถ้าเราตั้งใจประพฤติปฏิบัติตามพระพุทธเจ้า ไม่อยากรวยมันก็รวย ไม่อยากมีคุณธรรมมันก็มี เพราะเราคิดถูกคิดดี พูดถูกพูดดี ทำถูกทำดี
การกระทำคุณงามความดีเป็นธรรมโอสถอย่างยอดที่ดูแลกายวาจาใจของเรา
เรามาอยู่วัดก็เพื่อฝึกประพฤติปฏิบัติทำคุณงามความดี เรากลับบ้านไปแล้วก็ต้องนำธรรมะไปใช้ ไปประพฤติปฏิบัติ
ธรรมะวินัยของพระพุทธเจ้าเป็นแบบแผนที่ดีที่ถูกต้อง อย่าคิดวิตกวิจารณ์มาก ให้เราทำตาม ประพฤติปฏิบัติตาม
ให้เรารู้จักเติมเสต็มเซลล์ดี ๆ ให้กับชีวิตจิตใจ เพื่อให้เราเป็นมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ สายพันธุ์ผู้ให้ เป็นสายพันธุ์ที่ไม่เห็นแก่ตัว
สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนเป็นสิ่งที่ทำได้ เพราะสิ่งไหนที่ทำไม่ได้พระพุทธเจ้าไม่สอน
ให้เราเริ่มต้นปฏิบัติเดี๋ยวนี้ เหมือนกับเราปลูกต้นไม้ วันนี้ต้นเล็ก ๆ อีกหน่อยมันก็ต้องโต แต่ถ้าเราไม่ปฏิบัติ เราก็จะเป็นคนรู้จักเหม่อมองแต่ดวงดาว...
พระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ที่องค์พ่อแม่ครูอาจารย์เมตตาให้นำมาบรรยาย
วันอังคารที่ ๒๐ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๕
ไม่มีความเห็น