ข้อสอบวัดผลปลายภาค ท ๓๑๑๐๒ ปีการศึกษา ๒๕๕๔


สอบแก้ตัว ส่งวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๕

 

โรงเรียนสตรีทุ่งสง

ข้อสอบวิชาภาษาไทย ๒ ท ๓๑๑๐๒ ม. ๔

(สำหรับใบงานเรื่องอื่นให้ไปเปิดที่ สาระการเรียนรู้)

ข้อสอบนี้ เปิดที่ความคิดเห็น ข้างล่าง

คำสำคัญ (Tags): #สอบแก้ตัว ม ๔
หมายเลขบันทึก: 481458เขียนเมื่อ 9 มีนาคม 2012 14:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 17:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

โรงเรียนสตรีทุ่งสง

การสอบวัดผลปลาย ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๕๔

วิชาภาษาไทย ๒ ท ๓๑๑๐๒ เวลา ๖๐ นาที ๔๐ คะแนน

.............................................................................................................................................................

คำชี้แจง ข้อสอบมีทั้งหมด ๒ ตอน

ตอนที่ ๑ ให้นักเรียนเลือกตอบในข้อที่ถูกที่สุดแล้วฝนตัวเลือกที่ถูก ด้วยดินสอ สองบี

ลงในกระดาษคำตอบ, มีทั้งหมด ๖๐ข้อ

ตอนที่ ๒ให้นักเรียนเขียนตอบในกระดาษคำตอบ ~(ไม่ต้องทำ)

ตอนที่ ๑

สาระการเรียนรู้ที่คาดหวังข้อที่ ๓

๑.ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง

๑. ร่ายยาว จำนวนวรรคไม่แน่นอน วรรคหนึ่งจำนวนคำ ๓-๑๐ คำ

๒. ร่ายโบราณ จำนวนคำวรรคละ ๕ คำ จบด้วยคำสร้อย

๓. ร่ายสุภาพ วรรคละ ๕ คำ จบด้วย บาทที่สามและบาทที่ ๔ ของโคลงสี่

๔. ร่ายดั้น วรรคละ ๕ คำ จบด้วย บาทที่ ๓ และ ๔ ของโคลงสี่ดั้น

๒. ข้อใดเป็นลักษณะสัมผัสของร่ายที่ถูกต้องที่สุด

๑.ถ้าจะจอดเรือให้ดูท่า ตีด่าข้าให้ดูโทษ ขึ้นโตนดให้ดูไคล ขึ้นบันไดให้ดูขั้น

๒.อย่ารักลมกว่าน้ำ อย่ารักถ้ำกว่าเรือน รักตะวันกว่าเดือน อย่ารักเพื่อนกว่าตัว

๓. ยางจับยางชมฝูง ยูงจับยูงยั่วย้าว เปล้าจับเปล้าแปลกหมู่ กระสาสู่กระสัง

๔. กรรมใดดลออกไท้ ให้รักราชเอารส กำสรดสั่นสรรพางค์ ออกนางพ่างจะพินาศ

สาระการเรียนรู้ที่คาดหวังข้อที่ ๔

๓.ผู้ฟังมีพฤติกรรมอย่างไรจึงถือว่าการพูดครั้งนั้นสมบูรณ์

๑. ยายฟังพระเทศน์จนหลับไป ๒. ตั้งแต่ครูบอกบุหรี่อันตรายผมไม่สูบอีกเลย

๓. แม่ห้ามไปเที่ยวแต่ก้องทำหูทวนลม ๔. แมวที่บ้านพอเรียกชื่อมันวิ่งมาหาทุกที

๔. ข้อใดไม่เป็นคุณสมบัติของผู้พูดที่ดี

๑.สบสายตาผู้ฟัง ๒. พูดให้ช้าลง

๓. เสียงดัง ชัดเจน ๔. พูดมีคำสร้อยบ่อยๆ

๕. ข้อใดเป็นการพูดเชิญชวน

๑.เรามาปลูกต้นไม้คนละต้นเพื่อลดโลกร้อน ๒. อย่าขับรถย้อนศร

๓. โทร.ขณะขับรถปรับ ๒.๐๐๐ บาท ๔. คนเสพตาย คนขายติดคุก

๖. การพูดโทรศัพท์ตามข้อใดถูกต้อง

๑. สวัสดีค่ะ๐๗๕๔๑๑๓๔๘ คะ ๒. โหล..นี้อ้อมนะ

๓. คุณป้าช่วยตามณัฐาพร รับสายหน่อย ๔. แค่นี้นะฉันยุ่งๆอยู่

๗. พูดอย่างไรให้ผู้ฟังศรัทธาและชื่นชม

๑. ผมจบปริญญาโทจากจุฬาฯ ครับ ๒. คุณต้องเชื่อผม หยุด ฟังผมก่อน

๓. จุฑามาศเพื่อนดิฉันนะกู้ทุกอย่าง ๔. คุณเบญฌาภา คุณจะเสนอแนะเชิญครับ

๘. ข้อใดใช้คำในการพูดได้ถูกต้อง

๑. อย่าเอาเตารีดไปใช้ทับกระดาษ ๒. ที่นี่รับอัดพระ

๓. เขาท่องเที่ยวไปทั่วพิภพ ๔. เธอเป็นนางงามจักรวาล

๙. ประโยคใดที่พูดสื่อความหมายได้ชัดเจน

๑. เรามักเป็นหวัดช่วงฤดูฝน ๒. สุขภาพของคนไทยไม่ดีส่วนใหญ่

๓. การจราจรในกรุงเทพฯเกิดจลาจล ๔. เราย่อมสำเร็จทามกลางความขยัน

๑๐. ข้อใดเป็นการวิจารณ์อย่างสร้างสรรค์

๑. ต้องชี้ถูกชี้ผิด ๒. คัดค้านโดยมีข้อเสนอแนะ

๓. ใช้ความรู้สึกของตัวเองตัดสิน ๔. สรุปให้ได้ว่าต้องทำหรืออย่าทำ

๑๑. เรื่องใดที่ไม่ควรวิจารณ์

๑. ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ๒. การแสดงละคร ภาพยนตร์

๓. ข่าว สารคดี ๔. วรรณกรรม วรรณคดี

๑๒. “หากคนขายของยังคิดอะไรที่สร้างสรรค์ไม่ออก นอกจากนำผู้หญิงมาขาย มันคือเป้าหมายท้ายสุดจริงๆ คือขายเซ็ก”

ข้อความข้างต้นเป็นการกล่าวนำการวิจารณ์เรื่องใด

๑. อาชีพ ๒. ผู้ใช้กฎหมาย

๓. การโฆษณาสินค้า ๔. ผู้บริโภคสินค้า และบริการ

สาระการเรียนรู้ที่คาดหวังข้อที่ ๕

๑๓.ข้อใดเป็นข้อเท็จจริง

๑. มั่นใจเราทำได้ ๒. เธอสวยกว่าใครในห้องนี้

๓. อุษณี สีสม ได้คะแนนภาษาไทยสูงสุด ๔. ปลาทูแกงส้มกับหน่อไม้ดองอร่อย

๑๔. “หนึ่งคู่ครองของเขามีเจ้าของ อย่าได้ปองเป็นมิตรพิสมัย

หนึ่งสมบัตรพัสถานของผู้ใด อย่าอยากได้ไปเอาของเขามา”

คำประพันธ์นี้ตรงตามข้อใด

๑. ทรัพย์ท่านคืออิฐผา กระเบื้อง ๒. รักหญิงอย่าพึงคิด สินอ่อย เอานา

๓. มีเมียอยู่เคหา ไกลย่าน ๔. เขาบ่เรียกสักหน่อยขึ้น เคหา

๑๕. “ถึงบางพรหมพรหมมีอยู่สี่พักตร์ คนรู้จักแจ้งจิตทั่วทิศา

ทุกวันนี้มีมนุษย์อยุธยา เป็นร้อยหน้าพันหน้ายิ่งกว่าพรหม”

คำประพันธ์ข้างต้นกล่าวถึงเรื่องใด

๑. ควรเคารพในสิ่งศักดิ์ ๒. การคบค้าสมาคมกับผู้อื่น

๓. คนเราต้องรู้จักระวังตน ๔. เราไม่อาจรู้จักคนทุกคน

๑๖. “เดินตามผู้ใหญ่หมาไม่กัด ไปพูดขัดเขาทำไมตามใจเขา

ใครทำตึงแล้วก็ผ่อนหน่อยลงเบา นักเลงเก่าเขาไม่หาญราญนักเลง”

คนโบราณต้องการให้เราประพฤติตัวเช่นไร

๑. รู้จักวางตัวกับผู้ใหญ่ ๒. การคบนักเลงด้วยกัน

๓. ให้เป็นคนใจกว้าง ๔. ควรเป็นคนอ่อนโยน

๑๗. “อันบ่วงกรรมทำไว้แต่ปางหลัง เป็นพืชยังปางนี้ให้มีผล

หว่านพืชดีผลดีมีแก่ตน หว่านพืชชั่วกลั้วผลที่ข้นแค้น”

ขอใดที่มีความหมายตรงกัน

๑. หว่านพืชต้องหวังผล ๒. ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว

๓. สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ๔. ดินดีเพราะป่าปก

๑๘. “บุษบาบ่เลือกเคล้า หมู่ภมร แต่สตรีงามงอน ห่อนง่าย”

คำประพันธ์นี้กล่าวว่าเช่นไร

๑. ตัดอื่นตัดได้ยกเว้นความรัก ๒. ผู้หญิงไม่มีโอกาสเลือกผู้ชาย

๒. หญิงงามพร้อมหายาก ๔. อย่าเป็นคนใจง่าย

สาระการเรียนรู้ที่คาดหวังข้อที่ ๖

๑๙. การเขียนทรรศนะเชิญชวนมีจุดประสงค์ตามข้อใด

๑. เพื่อขายสินค้า ๒. การพูดหาเสียงผู้สมัครผู้แทน

๓. จูงใจให้กระทำในสิ่งที่สังคมต้องการ ๔. บังคับไม่ให้ทำผิดกฎหมาย

๒๐. ข้อความใดที่เขียนทรรศนะเชิญชวนได้ดีที่สุด

๑. อ่านวันละนิด จิตแจ่มใส ๒. หญิงก็ได้ชายก็ดี อย่ามีเกินสอง

๓. ดูแลลูกสักนิด ลูกจะไม่ติดยา ๔. ไร้สิ้นทุกข์ภัย เมืองไทยร่มเย็น

๒๑. “วันนี้เพิ่มดีกรีให้ชีวิต หาข้อคิดร่วมก๊งในวงเหล้า

ไม่อายใครถึงใครชี้ไอ้ขี้เมา แต่อายเขาถ้าใครชี้ไอ้ขี้โกง”

ข้อความข้างต้นอาจไม่สุภาพแต่เชิญชวนให้เราเป็นคนเช่นไร

๑. หยุดเหล้าหยุดจน ๒. หาความรู้ในวงเหล้า

๓. มีความสุขในทุกที่ ๔. เป็นคนซื่อสัตย์

๒๒. “ทุกโศกเพราะโรคร้าย มากล้ำกรายอย่าเสียขวัญ

ทำใจให้รูทัน ทุกข์ที่หนักจักเบาบาง”

ข้อความนี้ให้เราเป็นคนเช่นไร

๑. รู้จักป้องกันโรค ๒. ให้มีกำลังใจในการสู้ชีวิต

๓. รู้เท่าทันโลก ๔. ไข้ต้องรักษา

๒๓. “สมาชิกในครอบครัวควรทำความเข้าใจว่าวัยสูงอายุเป็นวัยที่มีความเสื่อมถอย ของร่างกายทุกระบบ และสังคมเปลี่ยนแปลงไปจากวัยอื่น จะส่งผลต่อสุขภาพจิตของ ผู้สูงอายุ ดังนั้นจึงควรให้ความสนใจและหันมาดูแลผู้สูงอายุกันบ้าง โดยการส่งเสริมให้ ผู้สูงอายุ ได้ออกกำลังกาย ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทุกคนในครอบครัวสามารถร่วมกันทำได้” บทความข้างต้นเป็นการเชิญชวนให้ทำสิ่งใด

๑. ให้คนในครอบครัวหันมาดูแลผู้สูงอายุ ๒. ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมาออกกำลังกาย

๓.ให้ ออกกำลังกายทำด้วยกันทั้งครอบครัว ๓.ให้รู้ว่าออกกำลังกายมีผลดีต่อสุขภาพ

๒๔. ทรรศนะเชิญชวนข้อใดที่ต้องการให้ขยันเรียน

๑. โชคอยู่ที่การศึกษา วาสนาอยู่ที่การเรียน ๒. เมื่อน้อยให้เรียนวิชา ให้หาสินเมื่อใหญ่

๓. รักเรียน อย่าเพียรรัก ๔. ความสุขอยู่ข้างหน้า หันมาเรียนหนังสือ

๒๕. ข้อใดมีความมุ่งหวังให้เราอดทน เข้มแข็ง

๑. ปลาเป็นย่อมว่ายทวนน้ำ ๒. ชีวิตคือการต่อสู้ ศัตรูคือยากำลัง

๓. มีศัตรูเป็นบัณฑิต ดีกว่ามิตรเป็นคนพาล ๔. เราคือผู้ลิขิต ชีวิตของเรา

๒๖. ถ้าต้องการให้ทุกคนรู้คุณค่าของความสามัคคีควรใช้ข้อความใด

๑. โลกนี้อยู่คนเดียวไม่ได้ ๒. มรดกชาติ คือเอกราชไทย

๓. ดอกไม้ดอกเดียว ไม่อาจร้อยเป็นมาลัย ๓. รู้เหมือนกัน ย่อมเป็นมิตรดีต่อกัน

๒๗. ข้อใดกล่าวเชิญชวนให้เห็นประโยชน์ของการฟัง

๑. ฟังหูไว้หู ๒. ผู้พูดเหมือนผู้หว่าน ผู้ฟังนั่งเก็บเกี่ยว

๓. ฟังความข้างเดียว ๔. รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม

๒๘. ข้อใดใช้ภาษาที่คำนึงถึงทัศนะเชิญชวน

๑. ถ้าคุณไม่ประหยัดพลังงาน รัฐบาลต้องใช้มาตรการเข้มงวดและเด็ดขาด

๒. ถ้าพวกเราไม่ประหยัดในที่สุดเราก็ไม่มีพลังงานใช้ กิจการต่างๆก็ต้องหยุดชะงัก

ความเดือดร้องก็จะเกิดขึ้น

๓. หากคุณพบเห็นคนสูบบุหรี่ในที่สาธารณะซึ่งเป็นเขตปลอดบุหรี่ โปรดแจ้งศูนย์รับแจ้ง

ข่าวสาร โทร.๐๒๕ ๙๐๓๐๓๒ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง

๔. ให้กำนันผู้ใหญ่บ้าน สำรวจและรายงานสถานที่ท่องเที่ยวในหมู่บ้านมาให้หมด

เพื่อรัฐบาลจะได้ไปทำแผนการท่องเที่ยว

๒๙. ความใดเป็นทัศนะเชิญชวนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน

๑. เมาขับ ปรับแน่ ๒. สวมหมวกนิรภัย ๑๐๐%

๓.โปรดให้ทาง ๔. ขับขี่ปลอดภัย ใช้กฎจราจร

๓๐. ทัศนะเชิญชวนในข้อใด เพื่อให้หลีกเลี่ยงยาเสพติด

๑. คนเสพตาย คนขายติดคุก ๒. ตายลูกเดียว ถ้ายุงเกี่ยวยาเสพติด

๓. ห่างไกลยาเสพติด ชีวิตมีสุข ๔. ยาบ้า ยาอี เหมือนผีทั้งเป็น

สาระการเรียนรู้ที่คาดหวังข้อที่ ๖

๓๑. ข้อใดไม่เป็นความสำคัญของโครงการ

๑.เพื่อสนองนโยบายของหน่วยงาน ๒. ใช้เป็นหลักฐานในการปฏิบัติงาน

๓. ประหยัดทรัพยากร ๔. เพื่อผู้รับผิดชอบก้าวหน้าทางอาชีพ

๓๒. โครงการใดเป็นโครงการทางวิชาการ

๑. โครงการอนุรักษ์ภาษาถิ่น ๒. โครงการหารายได้ระหว่างเรียน

๓. โครงการเข้าวัดฟังธรรม ๔. โครงการธนาคารโรงเรียน

๓๓. โครงการใดเป็นโครงการระยะยาว

๑. โครงการทำบุญให้ทานไฟ ๒. โครงการกรีฑาคณะสี

๓. โครงการกองทุนหมู่บ้าน ๔. โครงการเลี้ยงกบคอนโด

๓๔. ชื่อโครงการใดซึ่งแสดงถึงลักษณะงานที่ปฏิบัติได้

๑.โครงการลดขยะลดภาวะโลกร้อน ๒. โครงการโลกสวย

๓.โครงการประหยัด ๔. โครงการต้านยาเสพติด

๓๕.ข้อใดเป็นวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนประเมินผลได้ในเชิงพฤติกรรม

๑. เพื่อให้ทุกคนมีทัศนคติที่ดีในการรับประทานผัก

๒. เพื่อได้บริโภคผักที่สะอาดและปลอดสารพิษ

๓. เพื่อปลูกผักก้างมุ้ง ๑ แปลง ๕๐ ตารางวาโดยไม่ใช้สารเคมี

๔. เพื่อมีรายได้เสริมจากการจำหน่าย

๓๖. ข้อใดมีเป้าหมายทั้งคุณภาพและปริมาณ

๑.นักเรียนได้รับสารอาหารและรับประทานอาหารกลางวันทุกวันและทุกคน

๒.นักเรียนตระหนักถึงความสำคัญและคุณค่าของงานประเพณีทำบุญให้ทานไฟ

๓. นักเรียนสวมหมวกนิรภัยขณะขับขี่รถจักรยานยนต์มาโรงเรียนทุกคน

๔. โรงเรียนปลอดสารเสพติดทุกประเภท

๓๗.ในขั้นตอนวิธีการดำเนินการโครงการปลูกผักสวนครัวกิจกรรมใดที่ใช้ระยะเวลานานที่สุด

๑. กำหนดและเขียนโครงการ ๒. กำหนดค่าใช้จ่ายและงบประมาณ

๓. ดำเนินงานตามแผนงานของโครงการ ๓. ประเมินผลการดำเนินงาน

๓๘. โครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อจำหน่ายได้ ประเมินผลโดยการใช้เครื่องมือได

๑. บัญชีการจำหน่ายผลผลิต ๒. บัญชีรายรับ-รายจ่าย

๓. สถิติผลผลิตที่เก็บเกี่ยว ๔. แบบสอบถามผู้ซื้อ

๓๙. ผลที่คาดหวังตั้งไว้ว่า “นักเรียนมีสมรรถภาพทางกายตามเกณฑ์” ประเมินผลด้วยวิธีการไดและ ใช้เครื่องมืออะไร

๑. ตรวจสอบ บัญชีรายชื่อนักเรียนที่ได้รับอาหารกลางวัน

๒. ตรวจสอบ บัญชีรายรับรายจ่าย

๓. สังเกต รายการอาหารที่ปรุงในแต่ละวัน

๔. วัดส่วนสูง-ชั่งน้ำหนัก สรุปภาวะโภชนาการ

๔๐. ผลที่คาดหวังตั้งไว้ว่า “นักเรียนตระหนักถึงคุณค่าของวัฒนธรรมอันดีงามไทย” ควรใช้เครื่องมือไดประเมิน

๑. แบบสังเกตจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม ๒. แบบสังเกตพฤติกรรม

๓. แบบสอบถาม ๔. บันทึกจำนวนครั้งที่ได้รับการยกย่อง

สาระการเรียนรู้ที่คาดหวังข้อที่ ๙

๔๑. ข้อไดไม่ใช่ความมุ่งหมายของการพูดอภิปราย

๑. ให้ผู้ฟังมาลงคะแนนเสียงเลือกตั้งตัวเอง

๒. เสนอปัญหา หาข้อสรุปเพื่อแก้ไข

๓. เสนอข้อเท็จจริง เสนอแนะและแนวทางแก้ปัญหา

๔. เผยแพร่ความรู้ทางวิชาการใหม่ๆให้แก่สาธารณชน

๔๒. การอภิปลายประกอบด้วยสิ่งใดบ้าง

๑. ผู้ดำเนินการอภิปราย ผู้ฟัง หัวข้อเรื่อง สถานที่ เครื่องขยายเสียง

๒.ผู้ดำเนินการอภิปราย ผู้อภิปราย ผู้ฟัง หัวข้อเรื่อง สถานที่

๓. พิธีกร ผู้อภิปราย ผู้ฟัง หัวข้อเรื่อง สถานที่

๔. พิธีกร ผู้ดำเนินการอภิปราย ผู้ฟัง หัวข้อเรื่อง สถานที่

๔๓. ข้อใดเป็นหน้าที่ของผู้ดำเนินการอภิปราย

๑. เตรียมอุปกรณ์และสื่อต่างๆ ๒. เตรียมความรู้ความคิดเห็น

๓. แนะนำผู้อภิปราย ๔. กำหนดหัวเรื่องที่อภิปราย

๔๔. ข้อใดเป็นหน้าที่ของผู้ร่วมอภิปราย

๑. ซักถามแทนผู้ฟัง ๒. เตรียมความรู้ความคิดเห็น

๓. กล่าวอำลาผู้ฟัง ๔. กำหนดหัวเรื่องที่อภิปราย

๔๕. นักเรียนในฐานะผู้ฟังควรปฏิบัติตนอย่างไร

๑.ตามองจ้องผู้พูดตลอดเวลา ๒. นั่งหลับได้ถ้าเรื่องที่ฟังไม่น่าสนใจ

๓. นำสิ่งขบเคี้ยวเข้าไปรับประทานบ้าง ๔. นั่งตัวตรงตามสบาย

๔๖. ข้อใดไม่ใช่การอภิปรายแบบกลุ่ม

๑. ผู้ร่วมอภิปราย ๕-๒๐ คน ๒. ผู้ฟังมีหน้าที่ฟังอย่างเดียว

๓. จุดประสงค์เพื่อแก้ปัญหา กำหนดนโยบาย ๔. ประธานคือหัวหน้างานนั้น ๆ

๔๗. การอภิปรายที่ผู้บริหารงานภายในหน่วยงานเป็นผู้รวบรวมปัญหาและข้อเท็จจริงเตรียมไว้ก่อนเพื่อขอความคิดเห็นและสรุปแนวทางปฏิบัติเป็นการอภิปรายแบบใด

๑. แบบแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ๒. แบบแพนเนล

๓. แบบโต๊ะกลม ๔. แบบสัมมนา

๔๘. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะการอภิปรายแบบฟอรัม

๑. ผู้ร่วมอภิปรายมีความรู้ในสาขาเดียวกัน ๒. ตัวแทนของผู้ฟังเป็นผู้ดำเนินรายการ

๓. ส่วนมากเป็นรายการโทรทัศน์ ๔. ผู้ฟังวักถามเมื่อมีข้อสงสัย

๔๙. การอภิปรายในรูปของการแถลงข่าวสารหรือผลงานของรัฐบาลต่อคนจำนวนมากเป็นการอภิปรายแบบใด

๑. แบบแพนเนล ๒. แบบโต๊ะกลม

๓. แบบสนทนา ๔. แบบสัมภาษณ์

๕๐. การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นการอภิปรายแบบใด

๑. แบบโต้วาที ๒. แบบการอภิปรายในที่ประชุม

๓. แบบอภิปรายกลุ่ม ๔. แบบสนทนาสาระการเรียนรู้ที่คาดหวังข้อที่ ๑๐ วิเคราะห์คุณค่าวรรณคดี

๕๑.ข้อไหนไหนไม่ค่อยมีความสำคัญในการวิเคราะห์คุณค่าวรรณคดี

๑. แนวคิดของเรื่อง ๒. การดำเนินเรื่อง

๓. วรรณศิลป์ ๔. เนื้อหาสาระ

๕๒. “เรืองเรืองไตรรัตน์พ้น พันแสง

รินรินพระธรรมแสดง ค่ำเช้า

เจดีย์ระดะแซง เสียดยอด

ยลยิ่งแสงแก้งเก้า แก่นหล้าหลากสวรรค์”

จากคำประพันธ์ข้อใดไม่ถ่ายทอดความงามด้านวรรณศิลป์

๑. พันแสง ๒. พระธรรมแสดง

๓. ยลยิ่งแสงแก้วเก้า ๔. แก่นหล้าหลากสวรรค์

๕๓. ข้อใดไม่มีในคำนมัสการพระพุทธคุณ

๑. พระปริสุทธิคุณ ๒. พระกรุณาธิคุณ

๓. พระปัญญาธิคุณ ๔. พระบารมีธิคุญ

๕๔. จากคำประพันธ์ต่อไปนี้ถ่ายทอดความรู้สึกอะไรของตัวละคร

“แล้วว่าอนิจจาความรัก เพิ่งประจักษ์ดั่งสายน้ำไหล

ตั้งแต่จะเชี่ยวเป็นเกลียวไป ที่ไหนเลยจะไหลคืน”

๑. เหน็บแนมน้อยใจ ๒. ตัดพ้อต่อว่า

๓. เสียใจมาก ๔. โกรธแค้น

๕๕. “แม้วิหยาสะกำมอดม้วย พี่ก็คงตายด้วยโอรสา

ไหนไหนจะตายวายชีวา ถึงเร็วถึงช้าก็เหมือนกัน

ผิดก็ทำสงครามดูตามที เคราะห์ดีก็จะได้ดงใฝ่ฝัน

พี่ดั่งพฤกษาพนาวัน จะอาสัญเพราะลูกเหมือนกล่าวมา”

จากคำประพันธ์ข้างต้นถ่ายทอดให้เห็นว่าตัวละครมีนิสัยเช่นไร

๑. ไม่เกรงใจใคร ๒. หยิ่งในศักดิ์ศรี

๓. รักลูกมาจนเกินไป ๔. ใจร้อน ขี้โกรธ

๕๖. “เป็นสตรีสุดดีแต่เพียงผัว จะดีชั่วก็ยังกำลังสาว

ลงจนสองสามจืดไม่ยืดยาว จะกลับหลังยังสาวก็เต็มตรอง

ถ้าคนดีมิได้ช้ำระยำยับ ถึงขัดสนจนทรัพย์ไม่เศร้าหมอง

คงมีผู้ชูช่วยประคับประคอง เปรียบเหมือนทองธรรมดาราคามี”

คำประพันธ์ข้างต้นสอนให้ผู้หญิงเป็นคนอย่างไร

๑. รักษาความบริสุทธิ์เอาไว้จะได้มีคู่ครองที่ดี ๒.ควรแต่งงานกับคนดี

๓. ให้ตรองความโสดเอาไว้ตลอดไป ๔. อย่าหลงเชื่อผู้ชายง่ายๆ

๕๗. “บ้างมีผัวตัวอยู่เป็นคู่ชื่น ยังหาอื่นเข้าประคองเป็นสองสาม

ทำรักซ้อนซ่อนสนิทปิดเนื้อความ จนเลยลามเป็นระฆังดังขึ้นเอง”

จากคำประพันธ์ข้างต้นข้อไหนกล่าวถูกต้อง

๑. ตัวเองไม่สามารถเก็บความลับใว้ได้ ๒. ความลับย่อมปิดบังไว้ได้เสมอ

๓. คนอื่นรู้ความลับแต่ไม่มีใครพูด ๔. ความลับจะถูกเปิดเผยขึ้นมาเอง

๕๘. “คอยเสงี่ยมเจียมตนจนไว้ก่อน ค่อยผันผ่อนทีหลังเขาสรรเสริญ

อย่าเป้อเย้อพกใหญ่ออกให้เกิน ละเมิดเมินหมิ่นนักมักจะอาย

อย่าอวดดีมีทรัพย์เที่ยวจับแจก ทำเกี่ยวแฝกมุงป่าพาฉิบหาย

ใครจะช่วยตัวเราก็เปล่าดาย อย่ามักง่ายเงินทองของสำคัญ

ข้อใดที่ไม่กล่าวไว้ในคำประพันธ์ข้างต้น

๑. คนจนถ้าขยันทำงานสร้างฐานะจะมีคนยกย่อง ๒. ผู้คนย่อมสรรเสริญคนร่ำรวย

๓. อย่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเกินฐานะ ๔. อย่าอวดรวยไปแจกจ่ายให้ผู้อื่น

๕๙. “อนึ่งว่าถ้าจะจรแลนอนนั่ง สำเนียงดังโผงเผาะเกาะกุกกัก

คือคุณผีปีศาจอุบาทว์ยักษ์ ใครทายทักถูกฤทธิ์วิทยา”

คำประพันธ์ข้างต้นบอกอะไรกับนักเรียน

๑. ผีมีจริง ๒. ต้องรู้จักป้องกันผี

๓. ต้องการไม่ให้เกิดความกลัว ๔. ระวังภัยในยามวิกาล

๖๐. “ว่าเช้าตรู่สุริโยอโนทัย ตื่นนอนให้ห้ามโมโหอย่าโกรธา

ผินพักตร์สู่บูรพทิศแลทักษิณ เสกวารินด้วยพะธรรมคาถา

ที่นับถือคือพระไตรสรณา ถ้วนสามคราจึงชำระสระพระพักตร์

แล้วเอื้อนอรรถตรัสความที่ดีก่อน จะถาวรพูนเกิดประเสริฐศักดิ์”

คำประพันธ์ข้างต้นต้องการอะไร

๑. ทำในสิ่งที่เป็นศิริมงคลจะได้มีความสบายใจตลอดวัน

๒. เพื่อให้ร่างกายสะอาดสดชื่น

๓. เพื่อให้มีสมาธิในการทำงาน

๔. เพื่อให้มีความปลอดภัยในชีวิต

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท