การทำKM กลุ่มแม่เด็กพิการ


เรื่องเล่าเร้าพลัง เด็กพิการ

สวัสดีค่ะ มีโอกาสได้ใช้KM ในกลุ่มแม่เด็กพิการของแม่เด็กในโรงพยาบาลบ้านตากค่ะ

ก็เลยเล่าสู่กันฟังหน่อยค่ะ

แม่เด็กทั้งหมด 8 คน (กำลังดี) เป็นแม่เด็กที่มีประสบการณ์ในการดูแลเด็กพิการมาแล้วมากกว่า 2 ปี 5 ราย และมากกว่า 5ปี 1ราย และอีก 2รายที่เหลือ ก็เป็นแม่ที่เพิ่งเข้าสู่การเลี้ยงบุตรพิการค่ะ โดยมีทั้ง พิการทางสมอง ออทิสติก และพิการทางด้านร่างกาย ซึ่งจะมารับบริการฟื้นฟูสุขภาพเด็กพิการที่โรงพยาบาลบ้านตากอยู่แล้ว

บรรยากาศการทำเรื่องเล่าเร้าพลังในวันนั้น เป็นบรรยากาศสมจริงมา เพราะขณะที่เล่ากันอยู่ก็มีเด็กๆ ลูกใครลูกมันอยู่ใกล้ๆ ให้เห็นภาพด้วย

(ก่อนหน้านี้แม่เด็กแต่ละรายก็เคยๆเห็นกันบ้าง เคยคุยกันบ้างแต่วันนี้มีโอกาส ล้วงลึกกันมากขึ้นค่ะ)

มีบรรยากาศของความเห็นอกเห็นใจ มีบรรยาที่แม่เด็กพิการน้องใหม่รู้สึกมีที่พึ่งทางใจและมีที่ปรึกษาที่ดีเพิ่ม และมีบรรยากาศของความภาคภูมิในในการเลี้ยงเด็กพิการ

สรุปข้อความกินใจและน่าระลึกถึงหลายอย่างค่ะ

Ex ." เท่าที่เลี้ยงลูกมาสิ่งหนึ่งที่มองเห็นคือ ลูกมีโลกส่วนตัวน้อยลง รู้จักว่ามีคนอื่นอยู่บนโลกนี้บ้าง หน้าที่ของแม่คือ เมื่อเราเอาเค้าออกมาจากโลกส่วนตัวแล้ว เราต้องทำให้เค้าอยู่กับคนอื่นได้อย่างมีความสุข"

" สิ่งแวดล้อมแถวบ้านสำคัญมาก เพื่อนบ้านต้องเข้าใจ บางครั้งลูกเราวิ่งเข้าไปรื้อของในบ้านเขา ถ้าเขาเข้าใจเปิดโอกาสให้เราไปเก็บให้ เราอธิบาย เราจะผ่อนคลาย เริ่มแรกเราไม่กล้าเอาลูกออกสังคมเพราะกลัวเพื่อนบ้านว่า แต่ ตอนหลังเราก้าวไปหาเพื่อนบ้าน ขอความร่วมมือ ยอมรับว่าลูกเราเป็นแบบนี้ เพื่อนบ้านมีส่วนในการช่วยเราดูแลเด็กและดึงเด็กออกสู่โลกใบใหญ่ได้"

"เราต้องเป็นกำลังใจให้ตัวเอง และเป็นกำลังให้ลูกท้อได้แต่อย่านาน เพราะลุกรอเราอยู่"

"ก่อนที่เราจะจัดการกับลูก ฝึกลูก อารมณ์เราต้องดีก่อนเสมอ"

"ถ้าสังคมไม่ยอมรับลูกเรา เราต้องทำให้สังคมยอมรับให้ลูกเราเป็นส่วนหนึ่งให้ได้ อย่างตัวแม่เองจะพาลูกไปรำวงงานบวช งานบุญตลอด แม้ว่าลูกจะปัญญาอ่อน ตอนนี้งานนี้งานนั้นถามหาลูกเราตลอด"

"อย่าเปรียบเทียบลูกเรากับลูกคนอื่นที่ปกติ เพราะไม่เกิดผลดีอะไร จะมีแต่ความท้อแท้ คิดแต่ว่า วันนี้ลูกเราดีกว่าเมื่อวานก็เอาล่ะ"

"อย่าเกี่ยงกันว่าลูกเป็นแบบนี้เพราะพ่อหรือแม่ คิดว่ายังไงมันก็เป็นลูกเรา ช่วยกันเลี้ยงดีที่สุด"

"บางครั้งเรามัวแต่ห่วงลูกคนนี้ ลูกคนที่ดีดี ปกติอย่างน้องเจ้านี่ ต้องดูแลให้ดีด้วย"

"เราต้องเติมกำลังใจให้ตัวเองและครอบครัว หาอะไรที่สุขสนุกทำบ้าง อย่าหมกหมุ้นแต่ว่าจะเลีย้งลูกยังไง นั่งกลุ้ม เศร้าสร้อยไม่มีประโยชน์"

และนอกจากนี้เรายังได้แนวทางปฏิบัติในการเลี้ยงเด็กพิการอย่างไรให้มีความสุขกันหลายข้อทีเดียวและนัดกันอีกทีโดยจะเพิ่มแม่เด็ฏพิการที่มีประสบการณ์สูงมากกว่านี้เพื่อให้ได้แนวทางที่มากขึ้นและนำไปใช้ได้ในแม่เด็ฏพิการมือใหม่ทั้งหลายค่ะ

คำสำคัญ (Tags): #kmในแม่เด็กพิการ
หมายเลขบันทึก: 48126เขียนเมื่อ 4 กันยายน 2006 11:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 มีนาคม 2012 19:42 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท