วันนี้ขอเสนอภาษาผู้ไทด้วยชื่อลูกไม้ป่าที่ผู้เขียนชื่นชอบไม่รู้ลืมคือหมะป้ ๊งกี้ว
หมะ(หมาก)ป้ ๊งกี้ว หรือที่ลุงกู(เกิ้ล)เรียกว่าโปร่งกิ่วเป็นลูกไม้ป่าที่เมื่อผู้เขียนยังเด็กๆเวลาพ่อแม่กลับจากไร่นามักจะเก็บมาฝากลูกเสมอเวลาแม่ผู้เขียนไปเก็บใบหม่อนมาไว้เลี้ยงไหมก็มักจะเก็บมาฝากผู้เขียนทุกครั้งผู้เขียนยังชื่นชอบรสชาติหวานๆของมันมาจนทุกวันนี้เวลาไปป่าหน้าฝนผู้เขียนจะมองหาลูกไม้นี้เสมอ เมื่อต้นเดือนผู้เขียนออกไปที่นาไปเห็นต้นของมันถูกตัดออกเกือบหมดเหลืออยู่กิ่งเดียว คนตัดคงคิดว่าเราไม่หวงเพราะเป็นลูกไม้ป่า แสนเสียดายถึงหน้าฝนคงจะแตกกิ่งขึ้นใหม่ บังเอิญเหลือบไปเห็นพวงผลของมันอยู่พวงหนึ่งเลยรีบเก็บไว้แล้วจัดแจงถ่ายรูปไว้ ส่วนผลของมันก็ผึ่งลมให้แห้งแล้วจะเพาะดูเพราะเข้าไปถามลุงกูแล้วได้คำบอกว่าสรรพคุณทางยาของเขาก็มีอยู่ ผลที่เห็นดังรูปจะยังไม่สุกมากยังไม่อิ๊มถ้าอิ๊มจะเป็นสีคล้ำขึ้นและจะหวานมากกว่าลูกแดงๆดังรูป
ที่ผู้ไทเรียกหมะป้ ๊๊งกี้วนั้นอาจจะเรียกตามลักษณะของผลที่เป็นลักษณะเป็นข้อๆพองๆและคอดเข้าซึ่งผู้ไทเรียกว่าป้๊ ๊๊งๆ กี้วๆลักษณะพองออกนั้นภาษาผู้ไทจะมีเรียกอยู่สองอย่างคือตื้งกับป้ ๊ง
ตื้ง หมายถึงสิ่งที่เป็นก้อนๆแล้วพองออกเช่นเม่นตื้ง หมายถึงมัน(เม่น)หัวใหญ่ ,โก้ ๊ยตื้งหมายถึงกล้วยผลโตแล้ว
ป้ ๊งหมายถึงปล้องข้อที่พองออก
กี้ว หมายถึงกิ่วหรือคอดเข้า
ส่วนคำว่าอิ๊มหมายถึงแก่จัดหรือสุกงอม
หมะป้ ๊งกี้วก็ขอจบแต่เท่านี้ค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ