* เรื่องของนักเรียนจ่านาวิกโยธินชั้นปีที่สอง ต่อเนื่องมาจากนักเรียนชั้นปีที่ ๑ สอบความรู้ผ่านจากรร.ชุมพลทหารเรือแล้วและได้แยกย้ายมากับรถยนต์ทหารที่ทางศูนย์การฝึก กรมนาวิกโยธินจัดไปรับเมื่อช่วงสาย..จากลานหน้ารร.ชุมพลฯ
นักเรียนจ่านาวิกโยธิน. นย. ๑๑
ปีพ.ศ.๒๕๐๙ หาดนี้ยังไม่เปิดให้บุคคลภายนอกเข้ามาเที่ยวชม นอกจากสมาชิกทหารเรือและครอบครัวของทหารนาวิกโยธินเท่านั้น !หลังจากพระองค์ทรงเรือใบมาขึ้นฝั่งที่นี่ มีประสกนิกรหลายร้อยคน.อยากเข้ามาเที่ยวที่หาดเตยงามแห่งนี้ ช่วงนั้นยังเป็นช่วงสงครามเย็น..ค่ายทหารต่างๆจึงยังเป็นสถานที่หวงห้ามสำหรับบุคคลภายนอก.หลายปีต่อมาพอสงครามเวียตนามสงบลง ความเจริญในด้านต่างๆเริ่มเข้าถึง ทางกองทัพจึงค่อยๆเปิดกว้าง และเมื่อไม่นานมานี้ได้มีการเปิดค่ายทหารหลายๆแห่งภายในประเทศไทย ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว..เพื่อให้ผู้คนได้มาเที่ยวชมและพักผ่อนกัน ในจำนวนนี้ทางกองทัพเรือได้เปิดค่ายกรมหลวงชุมพรฯ ให้ประชาชนเข้ามาเที่ยวและพักผ่อนจนทำให้ชื่อเสียงของอ่าวเตยงาม ในค่ายกรมหลวงชุมพรฯ ระบือไกล..
๑. พระเจ้าอยู่หัวทรงปักธงไว้ -ที่หาดเตยงาม.
* ในหลวงของเรา. เมื่อ ๑๙ เมษายน พ.ศ. ๒๕๐๙ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเรือใบประเภทโอเคขนาด ๑๓ ฟุตชื่อ " เวคา " จากพระราชวังไกลกังวลหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ออกเดินทางตั้งแต่เวลา ๐๔๒๘น.ตัดข้ามอ่าวไทยขึ้นฝั่งที่อำเภอสัตหีบ บริเวณหาดเตยงามโดยเป็นระยะทางทั้งสิ้นประมาณ ๖๐ ไมล์ทะเล. โดยทรงใช้เวลาทั้งสิ้น ๑๗ ชั่วโมงและได้นำธงราชนาวิกโยธินมาปักไว้ ณ ที่หาดเตยงามแห่งนี้.
* วันทหารนาวิกโยธิน. ในปีนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๕ ที่มีเหตุการณ์สำคัญคือเป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานเพลง“มาร์ชราชนาวิกโยธิน”ให้แก่ทหารนาวิกโยธิน เมื่อวันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๐๒ ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เหล่าทหารนาวิกโยธินจึงกำหนดให้วันสำคัญนี้เป็น..วันทหารนาวิกโยธิน..ประวัติเพลงมาร์ชราชนาวิกโยธิน ปลายเมษายน ๒๕๐๒ นาวาเอก สนอง นิสาลักษณ์ ผู้บังคับการกรมนาวิกโยธิน ผบ.นย.ท่านที่ ๔ ยศขณะนั้น. เข้าเวรราชองครักษ์ ณ วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์.
๒. พระองค์ทรงมาร่วมงาน - ที่หาดเตยงาม. ปี ๒๕๐๙
ในระหว่างที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กำลังทรงพระเกษมสำราญอยู่กับการทรงดนตรี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ ผบ.นย.ขึ้นไปร้องเพลงนาวิกโยธิน แต่เนื่องจากเพลงนาวิกโยธินยังไม่มี..จึงได้ร้องเพลงทหารเรือถวาย. ขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพักจากการทรงดนตรีเสด็จลงมาประทับข้างล่าง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้บรรดาผู้เข้าเฝ้าได้เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทอย่างใกล้ชิด ขณะนั้น ผบ.นย.ได้มีโอกาสเข้าไปกราบลงแทบพระบาทพร้อมกับ..ขอพระราชทานเพลงประจำทหารนาวิกโยธิน. ด้วยพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว.ที่ทรงมีต่อทหารนาวิกโยธิน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ ผบ.นย. เข้าเฝ้าฯ และพระราชทานเพลงพระราชนิพนธ์ “มาร์ชราชนาวิกโยธิน” เมื่อวันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๐๒ จากพระราชประสงค์และพระอัจฉริยภาพในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงตั้งพระราชหฤทัยจะให้ทหารนาวิกโยธิน มีเพลงประจำหน่วย จึงพระราชทานเพลงพระราชนิพนธ์ “มาร์ชราชนาวิกโยธิน” ที่เป็นบทเพลงอันทรงคุณค่า เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาทหารนาวิกโยธินทุกคน ปวงข้าพระพุทธเจ้าต่างซาบซึ้ง ในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้. กาย ใจ ชีวิตมอบเป็นราชพลี.
* ที่มา : นิตยสาร นาวิกโยธิน กองทัพเรือ ฉบับประจำเดือน มิถุนายน ๒๕๕๓
๓.เนื้อเพลง “มาร์ชราชนาวิกโยธิน.” -ที่ทรงพระราชทานให้ทหารนย.ไทย.๒๘ มิ.ย.๒๕๐๒
* ถ้าจำไม่ผิดผู้เขียนว่า..มีการสั่งให้ทหารนาวิกโยธินไทย หยุดยืนตรงทุกครั้งเพื่อแสดงการเคารพ เมื่อได้ยิน ”เพลงมาร์ชราชนาวิกโยธิน.” ในพิธีต่างๆอย่างเป็นทางการ.
**เพลงมาร์ชของนย.ไทยก็เปรียบเสมือนเพลงมารีนฮิมของนย.อม.นั่นแหละครับ. Marine Hymn. ทหารทุกเหล่าแม้จะมีเพลงประจำเหล่าเองก็ตาม..แต่ทหารนาวิกโยธินอเมริกันมักจะภูมิใจในเพลงของตนเสมอเช่น ซิมเปอร์ฟิเดลลิสของจอห์นฟิลิบซูซ่า.Semper Fidelis.- Johm Philip Sousa. ; สตาร์แอนด์สไตร๊พ์ฟอเอฟเอร์. Stars And Stripes Forever. ; พ๊อม แอนด์เซอร์คัมสแต๊นซ์.Pomp and Circumstance.ส่วนใหญ่เป็นเพลงที่ใช้ในการเดินสวนสนาม นอกจากที่กล่าวมาแล้วยังมีอีกหลายเพลงเช่นวอชิงตันโพสมาร์ช Washington Post March. ; ดิอินวิสิเบิ้ลอีเกิ้ล The Invisible Eagle. ; วิคตอรี่มาร์ช. Victory March. ; มาร์ชเล๊ฟไร๊ท์. March Left Right. ; กลาเดียมาร์ช.Gladiator March. ; เคอนอล โบกี้มาร์ช. Colonel Bogey March. ; อันเดอร์เดอะดับเบิ้ลอีเกิ้ล. Under The Double Eagle. ; เอล แค๊พเท่น. El Captain. ผู้เขียนฟังเพลงชุดนี้ครั้งใดมักจะมาจบและฟังซ้ำเสมอๆ ที่เพลงมารีนฮิมของนายจอห์นฟิลิบซูซ่า.. Marine Hymn.- John Philip Sousa.แต่ใครเป็นทหารเรือก็ไม่ควรพลาดน๊ะครับชื่อเพลงเดอะกลอรี่อ๊อฟเดอะแยงกี้เนวี่. The Glory Of The Yankee Navy. เป็นเพลงบรรเลงเบาๆเร่งเร้าบางจังหวะ..ฟังแล้วอยากหนีทหาร..อ้าวเขียนยังไง ? ทหารบกก็ฟังได้ครับโดยเฉพาะ เพลงเวสป๊อยมาร์ช. West Point March.ที่จริงยังมีอีกหลายเวอร์ชั่นครับ แต่ขอจบแค่นี้ก่อน.เดี๋ยวทหารดุริยางค์มาพบเข้า อาจทำตาขวางใส่ผู้เขียนก็ได้.ใครจะรู้. เดี๋ยวนี้เขาพูดเสมอๆว่ารู้หน้าไม่รู้ใจ.
๔. นย.จัดรถมารับถึงที่. - ยินดีต้อน รับ ท่าน.
รถสิบล้อของทหารนย. เลี้ยวขวาเข้าสู่ค่ายกรมหลวงชุมพรฯ มาตามถนนจรดลศึกษา ข้างรร.สิงห์ สมุทร์. ผ่านหมู่บ้านร้อยหลังเข้ามาด้วยความเร็วไม่มากนัก. ถนนช่วงนี้แม้จะวิ่งช้าเพียงไร แต่ฝุ่นก็ยังฟุ้งแดงเต็มถนนทุกครั้งที่มีรถวิ่งผ่าน ผมสังเกตว่าสองข้างทางยังเป็นแอ่งน้ำและป่า-ต้นกระถินขึ้นรกพอสมควร.พื้นที่กรมนาวิกโยธินนั้นกว้างใหญ่ทีเดียวสมัยนั้นถนนใหญ่ภายในค่ายยังเป็นถนนลาดยางแข็ง.เป็นบางช่วง.รถผ่านสนามยิงปืนนย.แล้วมาเลี้ยวซ้ายเข้าศูนย์การฝึกนย. *เดือนกุมภาพันธ์ปี๒๕๕๕ ผมมีโอกาสเข้าไปรับประทานอาหารในค่ายจึงพบว่า.สมัยนี้สวัสดิการเรื่องที่อยู่อาศัยนั้นดีกว่าเดิมมาก บ้านเก่าในสมัยนั้นถูกปรับปรุงใหม่เป็นอย่างดี นี่ถ้าผมไม่ใช่ทหารเก่าอาจจะนึกไปว่า..กำลังขับรถผ่านบ้านจัดสรรที่มีระดับก็เป็นได้ แต่เห็นป้ายเปลี่ยนไปเป็นบ้านพักของนายทหารสัญญาบัตรเสียแล้ว ตอนนี้เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวจึงเจริญและทันสมัย.ไม่น้อยหน้าแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ.ผมอยากติเพื่อก่อสักนิดน๊ะครับ.ด้วยความเคารพ.แม้ว่าจะมีการดำเนินการหลายๆอย่างเป็นแบบธุรกิจในครัวเรือน ควรทำให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆอย่าเอาแต่เงิน.แต่การบริการไม่ดีเท่าที่ควร.หรืออยากให้เขียนว่าแย่ !เพื่อนผู้การของผมคุยกันในระหว่างสังสรรค์ว่า..วันก่อนมีลูกท่านหลานเธอมาใช้บริการและไม่ประทับใจเรื่องห้องน้ำ. ใครรับผิดชอบก็ช่วยกันแก้ไขบ้างน๊ะครับ.เพราะการชมหรือตำหนินั้นมักเป็นแบบปากต่อปาก. แต่ชื่อเสียงนั้น..ยากที่จะแก้ไขหรือสร้างขึ้นใหม่. อย่างน้อยคงต้องใช้เวลา.คิดถึงผู้ใหญ่รุ่นเก่าๆ..ที่ได้สร้างชื่อไว้บ้างก็ดีน๊ะครับ..
๕. ผบ.นย.กล่าวต้อนรับและให้โอวาท. - หน้าบก.ศูนย์ฯ ปี ๒๕๑๐
เออพอเข้าเขตทหารโดยเฉพาะเขตทหารนย. ผมกลับออกนอกเรื่องทุกที.ขอวกมาที่เดิมก่อนที่จะถูกจ่าเวรสั่งทำโทษน๊ะครับ.รถสิบล้อนย.วิ่งมาจนสุดทางที่อาคารเตี้ยชั้นเดียว.นรจ.นย.รุ่นที่๑๑. รุ่นของผู้เขียน.ได้มาพักที่อาคารชั้นเดียวเป็นรุ่นแรก.อาคารนี้อยู่ติดกับโรงปรุงอาหารของศูนย์การฝึก. ด้านซ้ายมือ. หันหน้าเข้าบก.ฯ เราถูกครูฝึกเรียกแถวทันทีที่ลงจากรถ ปรี๊ด..นักเรียนฟังเรียกแถว. เอาของส่วนตัววางไว้ก่อน. จัดแถว นิ่ง.เราต้องมาเข้าแถวรับฟังการกล่าวต้อนรับก่อน แล้วจึงถูกต้อนรับน้องใหม่ทันทีโดยจ่าใหม่บ้าง จ่ารุ่นพี่บ้าง.ตอนนั้นทุกคนรู้ว่าถึงเวลาที่ต้องเหนื่อยกันแล้วแน่ๆ.นรจ.นยรุ่นที่๑๑ ถูกต้อนรับน้องใหม่โดยมีการแบ่งเป็นหลายๆด่าน เพราะครูฝึกมีเหลือเฟือแถมยังกระหือรือที่จะต้อนพวกเรา.ฮ่า-ห้า-ฮ่า.ที่เรายังพอจำความเข้มได้ก็มี ครูเผชิญ ฮวบบางยอ และครูสำรวย กิจปลื้ม. ต่อมาได้ย้ายไปประจำที่เกาะพระ. เพราะจบหลักสูตรนักทำลายใต้น้ำ. ครูท่านแรกที่นรจ.นย.รุ่น๑๑กลัวกันนักคือ.จ.ท.ศักดา อานมณี.เพราะครูเป็นผู้ที่นำวิ่งชนิดที่เรียกว่า อึดมาก..ห้ากิโลเมตรผ่านไปนักเรียนแทบแย่กันแล้ว แต่ครูศักดายังไม่เคยมีทีท่าว่าจะสั่งให้หยุดเลย. *ครูเคยค้ำประกันให้ผมตอนไปเรียนที่สหรัฐฯในครั้งที่สอง พอผมออกปากครูยื่นหลักฐานพร้อมลายเซ็นมาให้ครบ..ยินดีค้ำประกันให้และลูกศิษย์อย่างผมมิได้ทำให้ท่านผิดหวังแต่อย่างใด ? ท่านที่สองคือ จ.ท.ภานุลักษณ์ สุริยวงค์.ท่านนี้ก็ชอบพานักเรียนวิ่งแต่นักเรียนชอบ.เพราะท่านไม่ค่อยนำวิ่งไกลเหมือนครูศักดา. ซ้าย-ซ้าย-ขวา-ซ้าย.
๖. อาคารรร.จ่านย. - ที่รุ่นนย.๑๑ เข้าพักอาศัย. ปี ๒๕๑๐
เราเคยพบกันที่แค๊มป์เลอจูนส์. เมื่อปี ๒๕๑๖ ครูไปเรียนสายพลาธิการ ผู้เขียนไปเรียน สายขนส่ง.ช่วงว่างเราทำอาหารไทยกินกันทั้งครูและศิษย์ มีความสุขไปอีกแบบหนึ่ง. การต้อนรับน้องใหม่แบบพิธีการจึงได้เริ่มขี้น โดยมีการกล่าวต้อนรับจากนายทหารผู้ใหญ่พออบรมชี้แจงกันอย่างคร่าวๆแล้ว..ด่านแรกจึงเป็นการตัดผมสั้น. น้องใหม่ต้องมายืนรอแถว..รายงานตัวขอตัดผมด้วยเสียงอันดัง ใครที่เสียงดังแล้วแต่ครูฝึกหูตึง.ไม่ได้ยิน..ก็จะถูกสั่งคว่ำหน้าลงไปยึดพื้นเสียก่อน ๓๐ ครั้ง..ขออนุญาตตัดผมครับ-การตัดผมนั้นรวดเร็วมากครับเพราะช่างทหารนย.จะ ไถ-ไถแล้วก็ไถ. ใครยังไม่ถึงคิวก็ต้องยืนรอและมองไปด้วย ด่านแรกนี้ยังไม่ทำให้เหนื่อยมากนัก.เพราะเสมือนเป็นการวอร์มเบาเบาไปก่อน.เมื่อในชุดถูกตัดผมสั้นจนครบแล้วต้องย้ายไปที่สถานีใหม่. แล้วแต่ใครจะเจอสถานีไหนก่อน แต่ทุกคนไม่ควรตกใจจนเสียสติ. เพราะจะได้รับการบริการเหมือนกันหมด. ครูฝึกไม่มีทางที่จะปล่อยให้เหยื่อของท่าน..ผ่านไปได้อย่างง่ายดาย. สถานีอื่นๆที่เราต้องเผชิญมีดังนี้ : แบกซุงบ้าง กลิ้งซ้าย - ขวาบ้าง เดินเป็ดบ้าง พอถูกตัดกำลังแล้ว.เราถูกนำวิ่งไปตามถนนหน้าศูนย์ฝึกนย. เพื่อไปลดความร้อนเสียก่อนที่ด่านต่อไป.
๗. สถานีแรก.นรจ.นย.ต้องผมสั้นแบบนี้. - ร้านตัดผมเถื่อนข้างรร.จ่า.นย. ปี ๒๕๑๐
โดยเลี้ยวขวาไปทางทะเลที่อ่าวเตยงาม..ซ้าย - ซ้าย - ซ้ายขวาซ้าย. แถวหยุด.วิ่งแค่นี้ทำไมเท้าไม่พร้อมให้ทุกคนลงไปคลานในร่องน้ำ. เป็นร่องน้ำทิ้งหน้าโรงหนังนย. ทุบทิ้งไปนานแล้ว. ปัจจุบันเป็นโรงอาหารของศูนย์ฝึกทหารนย. จนไปออกที่ชายทะเลของหาดเตยงาม โน่นแหละ !นักเรียนจ่านย.รุ่น๑๑ รวม ๙๒ คน. แย่งกันวิ่งลงไปคลานอยู่ในร่องน้ำทิ้งทันที. คลานกันไปจนถึงชายทะเล.หน้าอ่าวเตยงาม..ลุก..ทุกคนถูกสั่งให้ออกกำลังกาย.ในท่าฝึกที่เรียกว่า พีที.PT. จริงๆแล้วครูฝึกต้องการให้ทำการอบอุ่นร่างกาย. Warm up. ก่อนลงทะเล. เพื่อกันมิให้เป็นตะคริว. ท่าออกกำลังกายของทหารนย.นั้นมีหลายชนิดครับ.แต่น้องใหม่อย่างพวกเราไม่มีโอกาสเลือกได้เลย.เช่น สก๊อตจั๊ม , ก้มตัวหน้าหลัง , กระตุกแขนขยับศอก , ซิทอั๊พ , ยึดพื้น และอีกหลายกระบวนท่า ฯ อย่าให้เขียนหมดเลยน๊ะ.แค่นี้ก็เหงื่อท่วมแล้ว.ไม่มีใครจำได้ว่าเราต้องเหนื่อยกันนานขนาดไหน ? ระหว่างการรับน้องบรรดาจ่าใหม่บ้าง จ่ารุ่นพี่บ้าง. ครูฝึกบางคนขู่ด้วยน๊ะฟังสิครับ. ใครไม่ไหว.ใครจะลาออก.ก้าวออกมาหน้าแถว. ขณะนั้นหลายคนอยากลาออกบ้าง ทนไม่ไหวบ้างแต่พอไม่เห็นใครก้าวออกไปหน้าแถว ก็เลยไม่กล้าที่จะก้าวออกไปเป็นคนแรก.ไม่ได้อายหรอกครับ แต่ไม่กล้า.
๘. นักเรียนวิ่งให้เท้าพร้อมกันด้วย..เดี๋ยวเหนื่อน๊ะ - ที่หาดเตยงาม ปี ๒๕๑๐.
ภารกิจต่อไป..น้องใหม่จะต้องว่ายน้ำไปที่เกาะไก่เตี้ย.. เพื่อนำก้อนหินมาคนละ๑ ก้อน. สิ้นคำว่าไปได้.นักเรียนทุกคนลืมตายกันเลย.ว่ายไปด้วย. ดำไปด้วย.ช่วงใดพอจะยืนถึงก็เดินกันบ้าง.เหนื่อยนี่หว่า ! ระยะทางน่าจะประมาณ ๓๐๐เมตร.แต่เวลาเหนื่อยอาจจะดูว่าไกล แถมยังต้องว่ายไปและว่ายกลับเสียด้วย. ต่างคนต่างว่ายกันสุดแรง.ตอนนั้นไม่รู้หรอกครับที่จะว่ายไปพร้อมๆกันหรือทำงานเป็นทีม กลัวคำขู่ของครูฝึกอยู่นั่นเอง ! แม้นร.ทุกคนจะได้นำหินมาจากเกาะคนละ๑ก้อนแล้วก็ตาม. การต้อนรับน้องใหม่มิได้หยุดอยู่แค่นั้นหรอกครับ.หน้าวิ่ง..วิ่งกลับไปที่สนามฝึกไต่ความสูง ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับบก.ศูนย์ฯ ความเหนื่อยล้าและความกระหายกำลังเข้ามาเยือน.แถมยังต้องฟังคำขู่จากครูฝึกอีกต่างหาก.. นักเรียนแต่ละชุดกำลังถูกต้อนจากครูฝึกแต่ละชุด..อยู่ไม่ห่างกันนัก. ได้ยินแม้แต่เสียงขู่ เสียงสั่งการต่างๆเช่นหมุนขวาห้ารอบ.ไปได้.เดินเป็ดยี่สิบเมตรทำ..ไม่มีนักเรียนคนใดคิดจะขัดขืนหรือดื้อดึงแม้แต่คนเดียว. เพราะเราเตรียมตัวกันมาแล้ว.พร้อมครับ..นักเรียนชุดไหนมาถึงสถานีทดสอบความกล้า ครูฝึกจะสั่งให้ปีนขึ้นไปจนสุดเสาแล้ว ทำการกระโดดลงมาก่อน.การปฎิบัติในแต่ละสถานีนั้น.นักเรียนจะต้องรายงานตัวก่อนเสมอเช่น.
๙. เฮ้ยอย่าอู้ ! รีบเดินเข้าเดี๋ยวก็ถึงแล้ว ก๊าบ : ก๊าบ : ก๊าบ - ที่ศูนย์ฝึกนย. ปี ๒๕๑๐
นักเรียนจ่าวิเชียร ชูช่วย.อาสา -เหล่าสื่อสาร.ขออนุญาตกระโดดจากสถานีทดสอบ ความกล้าครับ.เฉยครับ..ครูฝึกยังไม่อนุญาต แต่อย่างใด ? ฟังพี่แกพูดสิครับ.ไม่ได้ยิน-รายงานตัวใหม่. แม้เราจะรายงานเสียงดังและถูกต้อง พี่แกก็หาเรื่องเราจนได้.เสียงดังดีแต่ยังไม่ชัดเจนเท่าที่ควร.เอาใหม่. * ผู้ที่รายงานตัวลงท้ายด้วยอาสานั้นหมายความว่า..นักเรียนคนนั้นอายุยังน้อยไม่สามารถขึ้นทะเบียนทหารได้. นักเรียนคนใดที่ขึ้นทะเบียนแล้วก็ต้องรายงานตัวและทะเบียนพร้อมกันทุกครั้ง. ไม่ใช้คำว่าอาสา. เช่นนักเรียนจ่าสมศักดิ์ วิชัยกุล ช.บ.๖๕๕ เหล่าทหารราบขออนุญาต..ทำอะไรก็ว่าไป..แต่ห้ามขออนุญาตเตะครูฝึก. *ตัวหนังสือหน้าตัวเลขคือตัวย่อของจังหวัด ที่แต่ละคนมาขึ้นทะเบียนทหาร หมายเลขคือลำดับที่เช่นนรจ.สมศักดิ์ วิชัยกุล มาจากชลบุรีในลำดับที่๖๕๕ คนอื่นๆก็จะมาจากจังหวัดและลำดับที่ต่างกัน.อย่าสงสัยเลยครับยังไงๆก็ไม่มีทางซ้ำกันได้.เชื่อเถอะครับ.พอกระโดดลงมาถึงพื้นแล้วจึงโล่งอกว่า..กูรอดแล้วเว้ย ! แต่ยังไม่หมดหรอกน๊ะ.เพราะยังมีอีกหลายสถานีที่ครูฝีกหลายๆคนรองาบพวกเธออยู่เงียบๆ.นักเรียนหัวแถวกำลังเดินเพลินๆอยู่ต้องตกใจกับเสียงตะโกนดังออกมา.เอ้าเร็วหน่อย !จึงรีบวิ่งไปรายงานตัว.
๑๐. โรยตัวจากที่สูง. - ที่หน้าผาวชิราลงกรณ์. ค่ายกรมหลวงชุมพรฯ ปี ๒๕๑๐
พอมาถึงสถานีถัดไป..นักเรียนก็ต้องรายงานตัวเหมือนเดิมก่อนการปฎิบัตจริง..เพียงแต่ลงท้ายต่างกัน. เช่นพอมาถึงสถานีแบกซุงก็ต้องรายงานว่า..ขออนุญาตแบกซุงครับ.แต่ไม่เคยมีใครได้รับอนุญาตเลยนอกจาก เป็นเสียงตอบมาดังๆว่า.ไม่ได้ยินบ้าง.รายงานใหม่บ้าง. ไม่ชัดเจนบ้างฯ แล้วแต่พี่แกจะสรรหาคำพูดใดใดมาพูด. เพื่อจะทำให้นักเรียนรุ่นเราเหนื่อยแล้วเหนื่อยอีก.หรือจนกว่าบรรดารุ่นพี่พอใจ.แปลกน๊ะที่ครูฝึกมีอาการเหมือนๆกันเกือบทุกสถานี.ที่สถานีแบกซุงนั้นผมว่า มีความยากพอสมควรเพราะ.ตัวคนจะสูงไม่เท่ากัน.ดังนั้นใครที่ตัวสูงก็ต้องรับไปเต็มๆ ส่วนพวกที่ตัวสั้นและเตี้ย..ค่อยเบาลงหน่อยเพราะพวกเขาเพียงแต่เอาไหล่มาแตะแตะพอประทังไปบ้างเท่านั้นเอง ! ที่ผมเขียนมาเช่นนี้เพราะยังจำได้ดีเรามาคุยกัน หลังการต้อนรับน้องใหม่ผ่านไปแล้ว. หายเหนื่อยแล้วด้วย..สถาบันอื่นผมไม่ทราบหรอกครับ..แต่ผู้ที่นิยมล่าปีกทั้งหลาย ไม่ใช่ปีกไก่เหล้าแดง. ปีกแรงเยอร์ , ปีกร่ม, ปีกรีคอน และปีกมนุษย์กบ ฯ ถ้ามีโอกาสเข้ามาเรียนที่ศูนย์การฝึกนย.ล่ะก็..ยังมีท่อนซุงเหลือไว้ให้ได้แบกกันอีกหลายสิบท่อน.อย่างไรก็ตามการแบกซุงวิ่งสามรอบนั้น..มิใช่เรื่องง่ายเลย.รอบละประมาณ ๒๐๐เมตร. ครบรอบแล้วครูจะให้นักเรียนนอนพัก หลายคนดีใจที่จะได้นอน. ผิดคาดสิครับเพราะมิได้เป็นการนอนพักผ่อนแต่อย่างใด ? นักเรียนจะต้องแบกซุงขึ้น-ลง.หรือซิทอั๊พโดยมีท่อนซุงอยู่บนหน้าท้องนั่นเอง ! ถ้าได้ดูภาพแล้วคงไม่ต้องอธิบายน๊ะครับ.
๑๑. นร.แช่น้ำให้ตัวเย็นก่อนน๊ะ มีอีกหลายรายการ. - ที่ร่องน้ำทิ้งหน้ารร.จ่านย. ปี ๒๕๑๐
ภาพที่๑๒นี้ผู้ที่กลัวที่สุดคือ..ผู้ที่กระโดดคนแรก.พอมีคนลงมาและปลอดภัยแล้ว คนต่อไปคงจะคิดเหมือนๆกันว่าจะกลัวทำไม ?ก็คนแรกยังลงมาได้อย่างปลอดภัย.พอถึงคิวข้าฯอะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดสิว๊ะ ! ว่าแล้วก็ก้าวขึ้นไปกระโดดบ้างจนสำเร็จภารกิจ..เอีย - เอีย -เอีย..การนำท่อนซุงมาวางบนตัวแล้วทำการซิทอั๊พนั้นผมว่า..ยังพอทนครับ.เพราะน้ำหนักของน้องซุงก็คงจะเฉลี่ยไปที่ตัวคนเท่าๆกัน. หรืออย่างน้อยต้องใกล้เคียงกัน ไม่มีใครขาดทุนหรือกำไร. ช่วงนั้นพวกเราอายุยังน้อยและยังพอทนได้ดูสิครับ กล้ามท้องขึ้นมาจนแข็งไปหมด.ส่วนใหญ่เราผ่านมาได้อย่างไม่ยากนักแต่..บางคนผ่านมาได้แบบกระท่อนกระแท่น.ผู้เขียนเองไม่ทราบเหมือนกันว่าแบบไหน ?การมาเป็นนักเรียนจ่านาวิกโยธินนั้นในหนึ่งปีเขาประมาณการว่า..นักเรียนจ่านย.ทุกคน..ต้องวิ่งเป็นระยะทางอย่างน้อยประมาณสัตหีบไปนครศรีธรรมราช.ถ้าไม่ใช่ ก็ใกล้เคียงทีเดียว. เพราะเฉลี่ยแล้วครูฝึกจะนำวิ่งเช้า - เย็น. อย่างน้อย.ห้ารอบศูนย์การฝึกฯ หนึ่งรอบประมาณ๓๐๐เมตร. ครูที่ชอบวิ่งมักจะพาวิ่งรอบกรมนาวิกโยธิน.หนึ่งรอบประมาณ ๓ ก.ม.เป็นมาตรฐาน..ถ้าพิเศษ ก็จะเป็นรอบใหญ่ประมาณ ๕ ก.ม.ออกจากอาคารรร.จ่านย. เลี้ยวซ้ายย้อนมาทางกองร้อยพยาบาลเก่า.วิ่งยาวไปถึงสามแยก.กองพันพยาบาลใหม่. เลี้ยวซ้ายอีกครั้ง..แถวๆพันร.๑เก่ามาออกที่สโมสรเรือใบนย.แล้วทิ้งโค้งที่มุมถนน กลับเข้ารร.จ่าต่อไป.
๑๒. ขึ้นไปอีกไม่ได้ยินหรือไง ? - ที่สนามฝึกความกล้าศูนย์ฝึกนย. ปี ๒๕๑๐ รื้อทิ้งไปแล้ว.
นักเรียนจ่าหรือนักเรียนหลักสูตรต่างๆ มักจะมาหมดแรงกันแถวหน้าบ.ก.ศูนย์ฯ มีอย่างที่ไหนทุกคนเหนื่อยแทบขาดใจ..ครูฝึกทั้งหลายยังไม่ยอมสั่งเลี้ยวกลับเข้ารร. ถ้าไม่อยู่ในแถวที่กำลังวิ่งกันอยู่ แม้ผมจะเขียนอย่างไร?ท่านไม่มีทางเหนื่อยเท่ากับนักเรียนในแถวพวกนั้นแน่ๆ.ข้าราชการนย.ไทยหลายคนเคยไปฝึกอบรมหลักสูตรครูทหารใหม่กับทหารนย.อม. Drill Instructor. ที่ศูนย์ฝึกฯแซนดิเอโกและที่คาโร ไลน่าเหนือ. จึงนำเพลงร้องประกอบการวิ่งมาร้อง..มีหลายเพลงเช่น..ถ้าฉันต้องตายด้วยการออกกำลังกายห่อฉันแล้วส่งกลับบ้านด้วย. หลวงเขาดำเนินการเองนั่นแหละ. พี่ไม่ต้องย้ำ ! อันนี้ผมพูดเองครับ. - If I die by doing PT. packed me in and sent me home. ทุกขุนเขาห้วยไสลทุกไพรพฤกษ์ ทุกเหวลึกห้วยละหารลำธารใส.เราจะขึ้นเราจะลงไปด้วยกัน. จำไม่ได้ว่าจะลงไปทำไม? - Up Up Up Cobra go up - Down Down Down Cobra go down. ซิทอั๊พแล้วให้นักเรียนลุกขึ้นมา. เรายังมีอีกหลายสถานีรอพวกท่านอยู่. พูดเสร็จครูฝึกบางคนทำหน้ายิ้มๆ ใครหลงไปยิ้มตามท่านล่ะก็.เหนื่อยอย่างเดียว.ฟังสิเอ้า !ไอ้คนที่ยิ้ม..แถวหลังที่ยิ้ม.ออกมานอกแถว..แล้วคว่ำหน้าลงไป ๓๐ ครั้ง. เห็นไหมเดี๋ยวเดียวโดนสั่งยึดพื้นเสียแล้ว.ระวังให้ดีน๊ะครับ !
๑๓. กองร้อยวิ่งนรจ.นย. - วิ่งสวนสนามที่พระรูปทรงม้า ฯ ปี ๒๕๑๐
นักเรียนในแถวหลายคนพยายามปั้นหน้า ไม่ยอมยิ้ม. เพราะถ้าเผลอยิ้มเมื่อไร ? จะกลายเป็นเหยื่อของครูฝึกทันที..ผู้เขียนเองโดนเป็นประจำ.โดยเฉพาะครูสำรวย กิจปลื้ม. การต้อนรับน้องใหม่นั้น.แท้จริงเป็นการฝึกให้น้องใหม่เข้มแข็ง อดทน กล้าตัดสินใจทำตามที่ครูฝึกสั่งเช่น.กระโดดลงมา.นักเรียนบางคนยังกลัวบ้าง.ไม่กล้าตัดสินใจบ้าง มิได้มีเจตนาขัดคำสั่ง ดื้อดึงหรือขัดขืนแต่อย่างใด ? ครูฝึกก็แสนดีครับเพราะถ้าสั่งให้กระโดดเป็นครั้งที่สองแล้ว นักเรียนยังนิ่ง-เฉยครูฝึกก็ยินดีที่จะถีบนักเรียนลงมา..ด้วยความนุ่มนวลครับ. เอี้ย -เอี้ย -เอี้ย ! หลายคนลงมาถึงพื้นด้วยความลำบาก..แต่ยังไม่วายแอบขำตัวเองอยู่เงียบๆ. เราจำไม่ได้แล้วว่าการต้อนรับน้องใหม่จบลงเมื่อไร ? จากนั้นนักเรียนทั้งหมดถูกนำไปเข้าที่พักด้วยการจัดให้นักเรียนพัก ตามหมวด มีการแบ่งออกเป็นสองหมวด. ที่รร.ชุมพลฯแบ่งเป็นตอน.แบบชาวเรือ. ลืมหรือยังครับ ? พอนำของส่วนตัวเข้าที่แล้วยังต้องรีบออกมาเข้าแถวกันอีก เพราะจะมีการแจกเครื่องแบบนย.ชุดเขียว เพื่อใช้ในการฝึก นรจ.นย.จะได้รับอุปกรณ์สนามประจำตัวโดยต้องวางไว้บนหลังตู้.มี หมวกเหล็ก ผ้าเต็นท์ สมอบก เชือก ฯ เรียกว่าพร้อมใช้งานกันเลย. แน่นอนครับต้องมีการตรวจความสะอาด ความพร้อมต่างๆ ผมไม่อยากเขียนว่าตรวจทุกวัน..แล้วแต่ความต้องการของ จ่าเวร น่าจะถูกต้องกว่า.
๑๔. พ่อจ๋าแม่จ๋า ช่วยลูกด้วย ! ใครถีบกูว๊ะ ?
ใครที่เร็วที่สุดก็สามารถจัดเสร็จแล้ว ใครที่ช้ากว่าก็ต้องทิ้งไว้ก่อนเมื่อเสียงนกหวีดดังขึ้นปรี๊ด.. ตามด้วยนักเรียนเตรียมตัวแถวหน้ากองร้อย นักเรียนทั้งหมดจะต้องตะโกนทวนคำสั่ง..เตรียมตัวแถวหน้ากองร้อยพร้อมกับวิ่งมาแถวทันที.. ครั้งแรกนั้นครูฝึกท่านหนึ่งจัดให้..นักเรียนจ่าเสรี อินทวี. ออกมาทำการเป็นหัวหน้านักเรียน.จะมีการเลือกใหม่ภายหลัง. ตั้งแต่เป็นนักเรียนจนจบออกมารับราชการกันแล้ว ยังไม่มีการเปลี่ยนตัวเลย แม้จะมีการเลือกกันใหม่หลายครั้งแล้วก็ตาม..แต่สมาชิก..พร้อมใจกันยกตำแหน่งนี้ให้เสรีทำหน้าที่ต่อ.จนเกษียณอายุ.
* วันเวลาช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน ผู้การเสรีเพิ่งทำหน้าที่หน.นร.ได้เดี๋ยวเดียว พวกเราพากันเกษียณอายุเสียแล้ว..
สวัสดีครับดร.จันท.
แอบเข้ามาอ่านคนแรกระวังจ่าเวรจะสั่งวิ่งน๊ะครับ..เขาลือว่าครูฝึกนย.โหดกันพอสมควร จริงๆครับ พวกที่โหดจริงไปเกิดกันหลายคนแล้ว เพราะยุคนี้เป็นยุคของคนนุ่มนวล..ผมต้องรีบไปก่อนครับจ่าเวรกำลังเดินมาทางนี้พอดี.
สวัส..ไม่ทันเสียแล้ว...
โตนี่ - ฟาง.
๗ มี.ค.๕๕
สวัสดีครับ.."เดินหน้าเต็มตัว" จ่าเวรสั่งมาครับ
"เป็น นย.สักครั้ง จักฝังหฤทัยจนวายปราณ.."
กองร้อยวิ่งสวนสนามที่ลานพระรูปฯ นี่ถ้าจำไม่ผิดก็มีแต่ของ นย.เท่านั้นนะครับ....
...ผู้การ เสรี น่ารักมาก
ทราบว่าตอนนี้ก็ยังไปช่วยงานของสหกรณ์ออมทรัพย์อยู่นะครับ..
ขออนุญาตมาฝาก "คอนเฟิร์ม"ด้วยครับ
http://www.gotoknow.org/blogs/posts/481326
งานนี้คาดว่า นรจ.นย.๑๑ น่าจะเป็นกองกำลังหลักนะครับ..เพราะเป็นเจ้าของพื้นที่..
พอจำได้ว่าหลังจากนั้นไม่มีการจัดกองร้อยวิ่งอีกเลย ถึงจัดอีกก็คงไม่มีโอกาสไปไหนกับใครอีกแล้วนอกจาก..
ไปงานล้างรุ่นใน๓๑มี.ค.นี้..อย่าลืมมากันมากๆเพราะไม่รู้ว่าหลังงานนี้แล้ว..ใครจะอยู่กันอีกนานแค่ไหน ?
เอเมน.
ต - ฟาง.
๘ มี.ค.๕๕