มองโรคในแง่ดี ตอนที่ 6 ( ปัจจุบันสั้น อดีตยาว อนาคตยังมาไม่ถึง )


เมื่อปัจจุบันมันสั้น อดีตยาว และอนาคตยังมาไม่ถึง ฉันเลือกที่จะมีสติกับปัจจุุบนมากกว่า ที่จะมานั่งจำอดีต ที่มันมีมากมายเหลือเกิน หรือนึกถึงอนาคตที่ฉันไม่รู้ว่ามันจะเกิดจริงตามที่ฉันคิด ไหม

      การดำเนินชีวิตหลังจากเป็นพาร์กินสันแล้ว นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในชีวิตที่ฉันน่าจะคิดและทำได้นานแล้ว แต่ยังดีที่ฉันมีโอกาสนี้  หลายๆคนมักจดจำอดีตที่บางครั้งมันทำร้ายจิตใจเราอยู่ตลอดเวลา นึกถึงเมื่อไร เจ็บปวดเมื่อนั้น  สมองเจ้ากรรมก็นี่กะไร อดีตที่มีความสุขมักจำได้ไม่มาก แต่เวลาทุกข์นี่จำได้แม่ยำจริงๆ โดยเฉพาะคนที่ทำให้เรารู้สึกเจ็บปวดและทุกข์ใจ นี่ ความทรงจำแทบจะฝังทีเดียว ถ้าเป็นฉันเมื่อก่อนเป็นแบบนั้น นั่งร้องไห้ได้กับความทุกข์ที่ผ่านมาแล้ว ทั้งๆที่มันๆไม่ใช่ความทุกข์ของวันนี้สักหน่อย

      ปัจจุบันนี้ฉันเลือกที่จะจำความทุกข์ ให้เป็นปัจจุบัน เพราะปัจจุบันมันสั้นมาก ฉันนั่งเขียนบทความเพื่อถ่ายถอดให้คนอื่นรู้นี่ อดีตฉันผ่านไปไม่รู้กี่ตัวอักษรแล้ว  เวลาหมุนไปเรื่อยๆ อดีตผ่านไปเรื่อยๆ ถ้าจะให้จำคงแทบไม่มีที่เก็บข้อมูลในสมอง  ดังนั้นฉันถึงเลือกที่จะจำอดีต เป็นบางอย่าง เมื่อฉันทำความทุกข์ให้เป็นปัจจุบันความทุกข์ฉันก็จะสั้นมากจนแทบจะไม่ทุกข์  การจำอดีตที่เรากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้  ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึนในชีวิต เช่นทุกวันนี้ ฉันมีชีวิตอยู่ด้วยยา เคลื่อนไหวได้ด้วยยา แต่ยาไม่ได้ช่วยฉัน 24 ชม. เวลาที่ระดับยาลดลง การเคลื่อนไหวของฉันก็จะไม่ปกติสภาพไม่ต่างกับผู้พิการ  จนคุณหมอที่ โรงพยาบาลแซวว่าคงต้องออกบัตรผู้พิการให้ชั่วคราว  แต่ฉันก็รู้ว่า อีกแปล๊บ ๆๆๆๆมันจะกลายเป็นอดีต เมื่อ ยา action ฉันก็จะเป็นฉันได้  สำหรับอนาคต ฉันไม่มี plan อะไรมากมาย เพราะมันเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ มันมีตัวแปรและสิ่งประกอบอื่นๆเข้ามาอีกมากมาย ฉันเลือกที่จะฝันเพื่อให้มีความหวัง  แต่ฉันไม่เคยหวังในสิ่งที่ฝัน มีใครคนหนึ่งเคยเขียนไว้ ฉันอ่านมันนานแล้ว เมื่อก่อนไม่เคยคิดว่าจะทำตามได้ แต่ตอนนี้ฉันทำได้  เขาบอกไว้ว่า

        ความทุกข์ ให้เราเลือกจำ 3 อย่าง คือ

        1. เหมือนการสลักหิน

        2. เขียนบนพื้นทราย

        3. รอยขีดบนสายน้ำ

      หากเราเลือกจำแบบที่ 1 คือ เหมือนการสลักหิน ความทุกข์ก็จะฝังแน่นในหัวเรา จะเอาอะไรไปลบมันก็คงยาก  แต่ถ้าเราเลือกแบบที่ 2 คือเขียนบนพื้นทราย ลบได้ แต่ก็ต้องอาศัยระยะเวลา คนคนอื่นมาประคับประคอง  คอยคนอื่นลบให้  ก็ยังมีรองรอยความทุกข์อยู่  แต่ถ้าเราเลือดให้ความทุกข์เปรียบเหมือนรอยขีดบนสายน้ำ เราจะสามารถบริหารขัดการความทุกข์ด้วยตัวเอง คือรับรู้ว่ามีทุกข์ แล้วดับทุกข์นั้นด้วยตัวเราเอง ร่องรอยความทุกข์ก็จะหมดไปได้ ..........

หมายเลขบันทึก: 481108เขียนเมื่อ 6 มีนาคม 2012 04:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 กรกฎาคม 2013 05:31 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ขอบคุณค่ะ ได้ข้อคิดดีๆในการพิจารณาความทุกข์..เห็นทุกข์ เห็นธรรมนะคะ..ขอให้กำลังใจค่ะ

ขอเลือก "รอยขีดบนสายน้ำ"

อาจยากหน่อย.. แต่จะพยายามค่ะ


เป็นการบริหารความทุกข์ที่ยอดเยี่ยม จริง ๆ คุณเจ้ขอจดไปบ้าง..

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท