มะเร็งกับชาร้อน


สัปดาห์ก่อนได้เขียนเรื่องภาษีชา กาแฟไป ดูเหมือนว่าการดื่มชาจะเป็นวัฒนธรรมของทั้งชาติตะวันตกและตะวันออก ในบางประเทศที่อากาศหนาว การดื่มชาร้อนนับว่าช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกายได้มาก แต่การดื่มชาร้อนๆ อาจไม่ได้มีแต่ข้อดีอีกแล้ว

เมื่อเร็วๆ นี้ The British Medical Journal ได้เผยแพร่ผลการศึกษาในกลุ่มตัวอย่างชาวอิหร่าน พบว่า การดื่มชาดำที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียสหรือมากกว่า จะเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคมะเร็งหลอดอาหาร แต่การเติมนมลงไปในชาอย่างชาวตะวันตกจะช่วยลดความร้อนและความเสี่ยงของการเป็นโรคมะเร็งหลอดอาหารนี้ลง

จากรายงานฉบับนี้ การดื่มชาที่อุณหภูมิ 65-69 องศาเซลเซียส มีความเสี่ยงของการเป็นโรคมะเร็งหลอดอาหารสูงกว่าที่อุณหภูมิ 65 องศาเซลเซียสหรือน้อยกว่าเป็นจำนวน 2 เท่า และการดื่มชาที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียสหรือมากกว่ามีความเสี่ยงสูงกว่าเป็นจำนวนถึง 8 เท่า

ความเร็วในการดื่มชาก็มีผลต่อความเสี่ยงของการเป็นโรคมะเร็งหลอดอาหารเช่นเดียวกัน โดยการดื่มชาหลังรินออกจากกาน้อยกว่า 2 นาที มีความเสี่ยงสูงกว่าการดื่มชาหลังรินออกจากกา 4 นาที หรือมากกว่าเป็นจำนวนถึง 5 เท่า อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาไม่พบว่า ปริมาณชาจะมีผลต่อความเสี่ยงของการเป็นโรคมะเร็งหลอดอาหาร

ผลการศึกษานี้น่าจะเป็นที่อภิปรายต่อไปอย่างกว้างขวางในหมู่แพทย์และนักวิทยาศาสตร์ แต่หากพวกเราอยากจะบริหารความเสี่ยงหรือกันไว้ดีกว่าแก้ ข้อแนะนำที่ดีคือ หลังรินชาออกจากกาแล้ว ควรทิ้งไว้สัก 4-5 นาทีก่อนดื่ม

หรือถ้าจะหันไปดื่มชาเขียวเย็นแบบที่คนไทยกำลังนิยมดื่มกัน ก็มีโทษอยู่ดี เพราะชาเขียวจะมีประโยชน์ต่อร่างกายในขณะที่ร้อนเท่านั้น ในทางกลับกันหากดื่มชาเขียวแช่เย็น นอกจากไม่ช่วยในการลดอนุมุลอิสระสารพิษออกจากร่างกายแล้ว ยังก่อให้เกิดการเกาะตัวแน่นของสารพิษดังกล่าวอันเป็นสาเหตุของมะเร็ง

เครื่องดื่มแก้วต่อไปจะเป็นชาร้อนหรือชาเขียวเย็น คงต้องพิจารณากันเองนะครับ

(เขียนเรื่องเมืองผู้ดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับวันที่ 4 เมษายน 2552)

คำสำคัญ (Tags): #ชา#มะเร็ง
หมายเลขบันทึก: 480922เขียนเมื่อ 3 มีนาคม 2012 23:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 20:12 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท