มหาประลัยไทย (เสียกรุงครั้งที่ ๓/๔)
ระบบการศึกษาทุกระดับ ตามอย่างฝรั่งหมด ไม่มีแนวคิดของคนไทยเหลืออยู่หรือเสริมเข้าไปเลย
มหาวิทยาลัยไทยน่ะแหละตัวดี ที่ชี้นำสังคมให้เดินตามก้นฝรั่งในทุกเรื่อง ทั้งที่หนึ่งในภารกิจหลักของทุกมหาวิทยาลัยของรัฐคือ การทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมไทย
ก็ศิลปวัฒนธรรมอะไรจะสำคัญยิ่งไปกว่าภาษาประจำชาติเล่า สิ่งอื่นๆพอสูญสิ้นกันได้ แต่หากสิ้นภาษาเมือไรก็สิ้นชาติเมื่อนั้น เหมือนดังที่เกิดขึ้นแล้วกับหลายชนเผ่าทั่วโลก เช่น ชาวไทยอาหมในรัฐอัสสัมของอินเดีย (สิ้นชาติในที่นี้หมายถึงสิ้นจิตวิญญาณของความเป็นชาติ)
แต่มหาวิทยาลัยไทยที่ถือกันว่าเป็นแหล่งรวมคนฉลาดที่สุดของประเทศเข้าไว้ด้วยกันกลับไม่ตระหนักในประเด็นสำคัญยิ่งนี้ แถมช่วยกันทำลายศิลปวัฒนธรรมชิ้นสำคัญนี้อย่างเมามันกันถ้วนหน้า ..ทั้งนี้ในนามของความศิวิไลซ์นานาชาติระดับสากล
การกระทำอันโง่เขลาเบาปัญญาเหล่านี้บ่งบอกว่า...คนมีความรู้ไม่จำเป็นต้องมีปัญญาเสมอไป
การวิจัยในมหาวิทยาลัยของประเทศไทยส่วนใหญ่ก็ต้องเดินตามก้นฝรั่ง ต้องหรูหราเข้าไว้เพื่อตีพิมพ์ระดับนานาชาติให้ได้ ชาวนาชาวไร่ไทยจะต่ำต้อยด้อยวิชาอย่างไรไม่ต้องสน ขอให้มันจนและเหม็นสาบต่อไป ถ้าไม่ยอมปรับตัวให้ศิวิไลซ์เหมือนพวกเราชาววิจัยมหาประลัยไทย
ถ้าสูเจ้าอยากรู้เรื่องวิจัยที่พวกเราเอาเงินทำวิจัยมาจากหยาดเหงื่อของพวกเจ้า..ก็จงขวนขวายหาเงินไปเรียนวิชาภาษาอังกฤษซิ่...จะได้อ่านงานวิจัยอันเลอเลิศของพวกข้าได้รู้เรื่อง..เหมือนพวกฝรั่งผู้เจริญแล้วทั้งหลาย ....สมน้ำหน้าสูเจ้าที่เสือกเกิดมาเป็นคนไทยที่จนและโง่เองนี่หว่า
ระบอบการเมืองก็เดินตามประเพณีฝรั่งเหมือนกับว่าถูกสะกดด้วยเวทย์มนต์ ไม่รู้จักคิดกันบ้างเลยว่ามันไม่สอดคล้องกับลักษณะนิสัยของคนไทย
จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าระบบการเมืองไทย และมหาวิทยาลัยไทย ต่างก็ด้อยพัฒนามาก แม้จะก่อตั้งมาแล้วเกือบร้อยปี และถ้าหากไม่คิดปรับแต่งอะไรกันบ้างก็คงจะด้อยต่อไปชั่วกาลปวสาน
เราน่าจะรู้จักคิดปรับระบบมหาลัยและประชาธิปไตยให้สอดคล้องกับลักษณะประจำชาติของคนไทยบ้าง ซึ่งผมเองได้เขียนบทความเพื่อเสนอแนวทางใหม่ของมหาลัยและระบอบประชาธิปไตยแบบไทยไว้มากหลาย ส่งไปตีพิมพ์ก็ไม่มีนิตยสารฉบับไหนยอมลงให้ ...มันคงกลัวนายฝรั่งจะสั่งปิดกระมัง
...คนถางทาง
จบตอนที่ ๕ ..โปรดติดตามตอนที่ ๖ ต่อไป หากสนใจร่วมกู้ชาติ
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น