เมื่อวันศุกร์ที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา ครูอ้อยกับเพื่อนครูเดินทางไปเข้ารับการอบรมที่ สถาบันพัฒนาครู ผู้บริหาร และบุคลากรทางการศึกษา ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จ. นครปฐม
ครูอ้อยและเพื่อนครูเดินทางถึงที่หมายและเข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว ยังมีเวลาอีกมากก่อนจะถึงเวลารายงานตัวเข้ารับการอบรม จึงร่วมใจกันไปทัศนศึกษาวัดไร่ขิง พร้อมกับนมัสการพระที่โบสถ์แห่งนี้ด้วย
ครูเมตตา ท่านเคยมาที่นี่แล้ว ท่านพาเพื่อนๆรวมทั้งครูอ้อยเสี่ยงทาย ยกช้างที่ทำด้วยทองเหลือง ด้วยการเสี่ยงทายตามความเชื่อของแต่ละบุคคล
ครูอ้อยมองดูเพื่อนครูแต่ละท่าน กราบพระ นั่งอธิษฐานข้างๆช้างน้อยตัวนั้น เมื่อเสร็จจากการอธิษฐานแล้ว ก็ใช้นิ้วนางของมือข้างที่ถนัด ยกหูหิ้วที่หลังช้างขึ้นมา ทุกท่านยกช้างได้หมดทุกคนเลย
ข้ออธิษฐาน มี 2 ข้อคือ
1. ถ้าประสบความสำเร็จ ขอให้ยกช้างขึ้น ด้วยนิ้วนางข้างที่ถนัด
2. อธิษฐานเรื่องเดิม ถ้าประสบความสำเร็จ ให้ยกช้างไม่ขึ้น
ครูเมตตาหันมาเห็นครูอ้อยนั่งมองดูด้วยสีหน้าไม่เชื่อถือ แต่ไม่ได้พูดอะไร ครูเมตตาบอกว่า ถ้าไม่เชื่อก็ลองดูนะ เพราะขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละบุคคล
ครูอ้อยจึงต้องพิสูจน์ ซึ่งการพิสูจน์ ก็ไม่ได้เสียเงิน หรือเสียหายอะไร
ครูอ้อยจึงตัดสินใจ นั่งพับเพียบ(คุกเข่าไม่ได้ข้อเท้ายังเจ็บอยู่) ประณมมือ อธิษฐานว่า........................
แล้วก็ยกช้างขึ้น เบาหวิวเชียว ครูอ้อยยิ้ม ครูเมตตาและเพื่อนทุกคนยิ้ม
ครั้งที่ 2 ครูอ้อยอธิษฐานอีก และยกช้างตัวเดิมอีก ยกไม่ขึ้นค่ะ ยกจนเจ็บนิ้วมือเลยก็ยกไม่ขึ้นค่ะ
เป็นเรื่องจริง ที่ครูอ้อยพิสูจน์แล้วค่ะ
ว่างๆก็ขับรถไปลองเสี่ยงทายแบบครูอ้อยนะคะ
หลังจากสี่ยงทายเสร็จแล้ว ครูอ้อยมีกำลังใจ เข้ารับการอบรมด้วยอารมณ์เบิกบาน อ่านหนังสือก่อนนอนด้วยความสุข
ท่านผู้อ่านลองทายดูซิคะว่า ครูอ้อยอธิษฐานว่าอย่างไร
สวัสดีคะครูอ้อย...
ใช่แล้วคะสิ่งเล่านี้ยากเกินกว่าที่จะอธิบายด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได...ตอนที่กะปุ๋มไปทัวร์ธรรมะที่ จ.นครพนม เราได้แวะสักการะพระธาตุพนม และกะปุ๋มก็ได้ให้โอกาสตนเองลองยกช้างที่ครูทำน่ะคะ...ก่อนอธิษฐาน กะปุ๋มลองยกสองมือก่อน ปรากฏว่าหนักมาก...แทบจะยกไม่ขึ้น แต่พออธิษฐานเท่านั้นแหละคะ...กลับยกขึ้นเบา...เลยคะ...แต่ไม่บอกนะคะว่ากะปุ๋มอธิษฐานอะไร....(ยิ้มๆๆ)
ขอบคุณคะ
กะปุ๋ม
Dr.Ka-Poom ที่คิดถึง
ครูอ้อยไปถึงที่พัก มองหาเครื่องคอมพิวเตอร์อินเตอร์เนต ครูอ้อยเข้ามาอ่านบันทึกของ Dr.Ka-Poom ได้ แต่ไม่ทราบเป็นอะไร ไม่สามารถบันทึกตอบโต้ใดๆได้เลย ครูอ้อยก็แห้วไป 2 วันค่ะ พอกลับมาถึงบ้านรีบเขียนบันทึกเพื่อได้อ่านคำพูดของ Dr.ka-Poom ค่ะ
คิดถึง Take Care สวัสดีค่ะ
โห..ครูอ้อยกะปุ๋มดีใจจังเลยคะ...ที่ได้มีกัลยานมิตร...ที่ดีและคอยให้แต่สิ่งดีดีต่อกัน ซาบซึ้งมากคะ...
...
กะปุ๋มมีเรื่องอยากเรียนปรึกษาครูอ้อยด้วยคะ...
เหมือนกลายๆ...ว่าได้รับมอบหมาย(จากท่าน อ.หมอประเวส วะสี และท่าน อ.หมอวิจารณ์)...ด้วยอะไรก็ไม่ทราบนะคะ...แต่รู้สึกอย่างนั้นนะคะ..ในการขับเคลื่อน...ชุมชนนักปฏิบัติในครู...และการดึง Best Practice ของครูให้ออกมา...และเน้นย้ำอยากให้ครูมีความสุขในการทำงาน ในการสอน ในการพัฒนาตนเอง...สุขทุกอย่างน่ะคะ...
จริงๆ ท่านพูดเฉพาะที่หนองคาย...หากแต่ว่าปุ๋มมองว่าหากเราสามารถสร้างเครือข่ายและเกิดการปฏิบัติได้เลย โดยไม่ต้องจำกัดพื้นที่...ว่าเริ่มที่ใดก่อน...ก็น่าจะดีนะคะ อย่างน้อยกะปุ๋มก็มีครูอ้อยเป็นกัลยาณมิตรที่ดีที่พอจะร่วมขับเคลื่อนไปด้วย...หรือครูอ้อยว่าอย่างไรคะ...
*^__^*
กะปุ๋ม
เรียน Dr.Ka-Poom
หากครูอ้อยมีความสามารถจะช่วยอะไรได้ ขอให้บอกมาเลยนะคะ
ดีใจเสียด้วยซ้ำที่จะได้ทำงานอย่างมีความสุข
ทุกวันนี้ก็มีความสุขค่ะ แต่ถ้าได้ทำงานร่วมกับคนที่รู้ใจ และถูกใจ ก็ต้องมีความสุขเพิ่มอีกหลายเท่าค่ะ
เรื่องของการขับเคลื่อน ครูอ้อยขับทุกวันแล้วค่ะ เอ้ย ไม่ใช่ ครูอ้อยขับรถทุกวันค่ะ
บอกมาเลยนะคะ
ขอบคุณค่ะ คิดถึง
ครูอ้อย
อยากแชร์เรื่องราวมหัศจรรย์ด้วยเหมือนกันเพราะเพิ่งเกิดกับตัวเองวันนี้ เกี่ยวกับความเชื่อเรื่องการยกช้าง จริง ๆ แล้วตัวเองเป็นคนที่ไม่เคยเชื่อเรื่องราวแบบนี้ เพราะ คิดว่าเป็นเรื่องงมงายหรือ อาจมีคนอยู่เบื้องหลังเพื่อสร้างภาพ แต่วันนี้พอประสพกับตัวเองถึงกับอึ้งไป และคิดว่าคงคล้าย ๆ กับอีกหลาย ๆ คน ที่เข้ามาเปิดหาข้อมูล เกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ และสุดท้ายขอเก็บไว้เป็นอีกเรื่องที่ไม่อยากจะเชื่อแต่ทำไมมันสัมผัสได้กับตัวเอง จริง ๆ ซึ่งครั้งแรกที่ยกลอยขึ้น และ ก็คิดว่าครั้งที 2 ก็ต้องรอยแน่ ๆ ช้างตัวเดียวกัน แต่ไม่ลอยค่ะ และ ไม่ใช้ไม่ลอยอย่างเดียว มันแน่นราวกับมีแม่เหล็กตัวใหญ่มาก ๆ มาดึงไว้ พยายามจะยกให้ขึ้นให้ได้ ก็ไม่สามารถค่ะ ยังดื้อค่ะ ใช้วิธีลากเข้าหาตัว งงมาก แม้แต่ฐานยังไม่ขยับ ไม่น่าเป็นไปได้ แต่เป็นไปแล้ว ยังไม่พอค่ะ ก่อนกลับ หันไปเห็นช้างวางไม่ตรง ไม่ได้แนวตามเดิม จึงหันไปขยับเพื่อจะจัดตำแหน่งให้ตรงแต่สิ่งที่สัมผัสได้อีกครั้งที่ 2 คือ ต้องใช้มือทั้ง 2 ข้างออกแรงเพราะช้างดูมีน้ำหนักมากกว่า ครั้งแรกที่ยกโดยใช้นิ้วนางข้างเดียวยกได้อย่างแน่นอน ต้องเชื่อแล้วค่ะ และ ก็เป็นกำลังใจให้กับทุกท่าน ที่สมหวัง ดั่งตั้งใจนะค่ะ ขออภัยเขียนยาวมาก แต่อยากเล่า ค่ะ
สวัสดีค่ะ น้อง สุนันทา [IP: 58.8.40.41]
มีความสุขมากๆๆนะคะ
เป็นกำลังใจให้อีกแรงครับ
ขอบคุณมากค่ะ ท่าน ผอ. small man~natadee
พบกัน แบบ F2F ที่สงขลา เร็วๆๆนี้ค่ะ
สวัสดีจ๊า คุณแม่พี่อ้อย
เดย์ก็เคยลองยกบ้าง แต่ก็จำไม่ได้ว่ายกอะไร และขออะไร แฮะๆ
ไม่ได้แคลงใจใดใดเลยครับผม ^_^
สวัสดีค่ะ ลูกชาย adayday
ครูอ้อย เคยยก 2 ครั้ง ผล ก็เป็นเหมือนๆๆกันทั้ง 2 ครั้ง ยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้เลยค่ะ
ก็ไม่แคลใจเหมือนกันเลยค่ะ