Blog กับการปฏิวัติระบบการศึกษา : แถลงการณ์ฉบับที่ 3


หลังจากที่มีแถลงการณ์ออกไปสองฉบับ

Blog กับการปฏิวัติระบบการศึกษา : แถลงการณ์ฉบับที่ 1

Blog กับการปฏิวัติระบบการศึกษา : แถลงการณ์ฉบับที่ 2 

 
ปรากฏว่าตอนนี้กระผมเองยังอยู่รอดปลอดภัย ยังไม่ต้องไปนอนกินข้าวผัดกับโอเลี้ยงแถว ๆ บางขวางอย่างเช่นที่ป้าบวมและคุณ moomi ตั้งใจจะไปเยี่ยมครับ
ตอนนี้ได้ฤกษ์เปิดกล่อง แถลงการณ์การปฏิวัติระบบการศึกษาฉบับที่ 3 ครับ ตามสไตล์ "กบฏทางวิชาการครับ"
 
 



แถลงการณ์การปฏิวัติการศึกษาฉบับที่ 3

(มหาวิทยาลัยแห่งปัญญา)

.........................................
 
นโยบายหลักของแถลงการณ์ฉบับที่ 3 ได้แก่
 
จุดมุ่งหมายของการศึกษาคือการได้ “ปัญญา”
ส่วนปริญญาที่ได้มาเป็นผลพลอยได้


หลักการและเหตุผล

 

เนื่องด้วยระบบการศึกษาของเราในปัจจุบันทั้งในส่วนของตัวมหาวิทยาลัยเองรวมถึงตัวของนักศึกษาที่กำลังเรียนอยู่ในสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ที่ตั้งเป้าหมายในการเรียนนั้น ส่วนใหญ่ตั้งเป้าหมายไว้เพียงว่า "ขอให้ได้ปริญญา" ซึ่งปริญญาใบแรกของชีวิตนั้นนับว่าเป็นใบเบิกทางที่สำคัญยิ่งกับชีวิต เป็นจุดหัวเลี้ยวหัวต่อของเด็กวัยรุ่นไทยในปัจจุบัน

 

ปริญญาใบแรกของชีวิต ที่จะให้คนที่มีชื่อว่ามนุษย์นั้นกลายเป็น "บัณฑิต" คนที่จะเป็นบัณฑิตได้นั้น สถาบันการศึกษาต่าง ๆ ก็กำหนดคำนิยามไว้ว่า จะต้องเป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี
แต่ในความหมายที่แท้จริง "ความจริงแท้ของคำว่าบัณฑิต"(บัณฑิต) นั้น หมายความว่า “ผู้ที่ยืนอยู่บนความถูกต้อง ทำในสิ่งที่ถูกต้องมากกว่าถูกใจ”


การได้ปริญญานั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ถูกใจสำหรับนักศึกษาฉันใด
การได้ปัญญานั้นก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องสำหรับบัณฑิตฉันใด

การได้ปริญญานั้นไม่อยาก แค่เรียนจบจ่ายครบสอบไม่ตก ก็จบปริญญา


แต่การเรียนเพื่อให้ได้ปัญญานั้น แล้วแต่ผู้เรียนจะมีปัญญาในการเรียนหรือไม่

 

กฎเหล็กของมหาวิทยาลัยแห่งปัญญา

  1. บุคคลใดมาเรียนเพื่อมุ่งหวังปริญญาแต่เพียงอย่างเดียว ถือว่าไม่ใช่บุคคลที่พึงประสงค์และมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเข้าศึกษา
  2. ถ้าบุคคลใดมาเรียนเพื่อมุ่งหวังปัญญา ถึงแม้ว่าจะไม่มีค่าเล่าเรียน ไม่มีแม้กระทั่งค่าครองชีพ มหาวิทยาลัยจะต้องช่วยเหลือและให้การสนับสนุนให้เป็นบัณฑิตอย่างเต็มที่
  3. รัฐบาลจะต้องให้การสนับสนุนงบประมาณแก่มหาวิทยาลัยแห่งปัญญานี้ เพื่อให้ผลิต “บัณฑิต” ที่อุดมไปด้วยปัญญาอย่างเต็มที่ ทั้งด้วยงบประมาณในเรื่องของโครงสร้าง เอกสาร ตำราเรียน และทุนในการศึกษาเล่าเรียน
  4. ให้ครูและอาจารย์ในมหาวิทยาลัยแห่งปัญญานี้ เอาใจใส่และดูแลนักศึกษาดังเช่นลูกของตนเอง ดูแลเอาใจใส่ทั้งในเรื่องการเรียนและเรื่องชีวิต เพื่อถือว่าเป็นหน้าที่หลักของการเป็นแม่พิมพ์ของชาติ ที่จะร่วมเสริมสร้างและสร้างสรรค์บุคลากรที่มีคุณภาพของประเทศ ออกมาเพื่อทำงานตอบแทนบุญคุณของประเทศสืบต่อไปตราบนานเท่านาน


 ถ้านักศึกษา มหาวิทยาลัยและรัฐบาลคิดและทำได้อย่างนี้


ประเทศของเราก็จะเจริญรุ่งเรืองวัฒนาถาวรตลอดไป


ขอให้พลังแห่งปัญญาสถิตกับนักศึกษาและทุกท่านตลอดไป

หมายเลขบันทึก: 48021เขียนเมื่อ 3 กันยายน 2006 19:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:48 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

     อาจารย์ครับ ขอ ลปรร.นิดนะครับ ผมมองว่าหาก Demand Side ยังต้องการใบปริญญามากกว่า ใคร ๆ ก็จะยังต้องการมันครับ ปฏิวัติฝั่ง Supply Side ด้านเดียว จะหนักนะครับ จะกลายเป็นกบฎจริง ๆ หากได้ปฏิวัติอีกฝั่งด้วย ไม่น่าจะเป็นกบฎนะครับ เพราะปฏิวัติสำเร็จก็จะเป็นผู้ปกครอง (ไม่ใช่นักเรียน ยิ้ม ๆ ครับ)

  • ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับท่านชายขอบ
  • ถูกต้องแล้วครับสิ่งที่ท่านแลกเปลี่ยนเรียนรู้มาครับ
  • คือต้องทำร่วมกันทั้งสองด้านครับ แล้วแต่พลังและความสามารถของแต่ละส่วนแต่ละคนครับ
  • ส่วนของผมนั้น จะเน้นทำจุดเล็ก ๆ ครับ
  • สำหรับท่านชายขอบทำจุดใหญ่ ๆ
  • แล้ววันหนึ่งเราก็จะมาเจอกันที่จุดสมดุลครับ
  • ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับท่านชายขอบที่เข้ามาเติมเต็มและสิ่งต่าง ๆ ในบันทึกนี้สมบูรณ์ขึ้นครับ
  • ขอพลังแห่งความรู้สถิตกับท่านตลอดไปครับ
     "ผมนั้น จะเน้นทำจุดเล็ก ๆ", "สำหรับท่านชายขอบทำจุดใหญ่ ๆ
  • งงอย่างไรเหรอครับท่านชายขอบ
  • ก็ผมทำด้าน supply size ครับ จุดเล็ก ๆ เพราะตอนนี้เป็นนักเรียนครับ
  • ส่วนท่านชายขอบก็ทำด้าน demand size ครับ เพราะท่านเป็นหน่วยงานที่ต้องทำหน้าที่นี้อยู่แล้วครับ มีเครือข่ายมากกว่าผมครับ
  • แล้ววันนั้นเราก็จะมาเจอกันพอดีครับ
  • ขอพลังแห่งการทำงานสถิตกับท่านตลอดไปครับ

     ยิ่งงงกันไปใหญ่ครับ 1.) หน่วยงานผมไม่ได้ทำด้าน Demand Side หรือ Supply Side อย่างตรงไปตรงมา และ 2.) ... Side ครับ ไม่ใช่ ... Size จึงอาจตีความผิดไปจากที่ผมพยายามนำเสนอ

"เพียงหวังจะเฟื่องฟุ้งหรือจึงมุ่งมาศึกษา

เพียงเพื่อปริญญาเอาตัวรอดเท่านั้นฤา

แท้ควรสหายคิดและตั้งจิตร่วมยึดถือ

รับใช้ประชาคือปลายทางเราที่เล่าเรียน"

  • บทกลอนของนายผีเมื่อครั้งอดีต ไม่ทราบว่ายังจำกันได้หรือเปล่าครับ
  • รบกวนไปอ่านบันทึกนี้ด้วยครับ
  • ขอบพระคุณมากครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท