ปี ๒๕๕๕ นี้ เทศกาลงานงิ้วหนองบัวจะจัดขึ้น ๕ วัน ๕ คืนในวันที่ ๒๒-๒๕ มีนาคม ๒๕๕๕ มีมหรสพให้ชมตลอดงาน และวันแห่จะมีในวันเสาร์ที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๕๕ ในงานนี้ ผมขอประสานงานเพื่อร่วมกันถือเป็นโอกาสจัดเวทีเรียนรู้หนองบัวบูรณาการไปกับงานงิ้ว ให้คนหนองบัว ได้ถือเป็นอีกโอกาสหนึ่งในการเรียนรู้เพื่อสร้างสรรค์สังคมสุขภาวะ ที่มีส่วนร่วมมาจากทุนศักยภาพ มรดกทางสังคมวัฒนธรรม และภูมิปัญญาต่างๆที่มีอยู่ในหนองบัว รวมทั้งเป็นโอกาสได้ทำและเรียนรู้ไปบนการปฏิบัติจากของจริงในสังคม เพื่อเข้าถึงวิธีเลือกสรรการเปลี่ยนแปลง ในการนำเอาวิทยาการและเทคโนโลยีสื่อออนไลน์ มาใช้สร้างสังคมส่วนรวม ได้อย่างเหมาะสม .........................
ความเป็นมาของการจัดเวทีเรียนรู้บูรณาการไปกับงานงิ้ว
ในระยะที่ ๒-๓ ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะงานงิ้วเมื่อปี ๒๕๕๔ เวทีคนหนองบัว ได้ช่วยกันประสานเครือข่ายความร่วมแรงร่วมใจ ให้ผู้คนที่เห็นความสำคัญของการพัฒนาการเรียนรู้และเคลื่อนไหวการสั่งสมภูมิปัญญาเกี่ยวตนเองของหนองบัว ได้เห็นเป็นโอกาสที่ดีโอกาสหนึ่ง ในอันที่จะร่วมทำให้งานงิ้วและงานเชิงวัฒนธรรมต่างๆของหนองบัว ที่จะสามารถเชื่อมโยงให้นำมาจัดในช่วงงานงิ้วไปด้วยกันได้ ให้มีมิติการสื่อสารและสร้างกระบวนการเรียนรู้ทางสังคม รวมทั้งเคลื่อนไหวสิ่งที่จะส่งเสริมสุขภาวะทางด้านต่างๆของชุมชนหนองบัว เพิ่มขึ้นมาในงานงิ้ว
การบูรณาการไปกับงานงิ้วที่มีอยู่ทุกปีอยู่แล้ว ก็ทำให้ความเป็นหนองบัวและสิ่งต่างๆ ได้มีการนำมานำเสนอ เรียนรู้ และเผยแพร่ ในรูปของเวทีเรียนรู้ของคนหนองบัว ซึ่งส่วนประกอบที่สำคัญก็ประกอบไปด้วยการจัดเต๊นท์นิทรรศการ การจัดทำสื่อและสิ่งตีพิมพ์ การจัดนั่งเสวนากันของคนหนองบัว การจัดแสดงรูปวาดเกี่ยวกับชุมชนหนองบัว การฉายสื่อ และการนำชมนิทรรศการ ซึ่งได้รับความสนใจและเป็นที่ประทับใจอย่างกว้างขวางพอสมควร
สิ่งเหล่านี้ ทำให้มรดกทางวัฒนธรรม ตลอดจนภูมิปัญญาและเรื่องราวดีๆที่มีอยู่ในหนองบัว ได้รับการฟื้นฟู สืบสาน สร้างความซาบซึ้ง เห็นการมีคุณค่าและความหมาย ในอันที่จะจรรโลงความอยู่ดีมีสุข และทำให้ชุมชนหนองบัวพัฒนาตนเองไปสู่อนาคตด้วยการมีทุนทางสังคมใวัฒนธรรมที่ดี ที่สำคัญคือ มีบทบาทต่อการเป็นเวทีชาวบ้าน รองรับการเดินเข้ามามีส่วนร่วมและแสดงความผูกพันต่อถิ่นฐานบ้านเกิดและถิ่นที่อาศัย ทั้งของลูกหลานคนหนองบัวและผู้ที่มาใช้ชีวิตอยู่หนองบัว ก่อให้เกิดพลังความสร้างสรรค์สุขภาวะสาธารณะของหนองบัว อย่างส่งเสริมเกื้อหนุน เป็นทุนต่อทุนให้กันหลายอย่างเกิดขึ้นตามมาอย่างต่อเนื่อง เช่น หลังจัดงานแล้ว ผมกับท่านพระอาจารย์มหาแลและหลายท่านที่ร่วมคิดทำในเวทีคนหนองบัวออนไลน์ ก็ได้ร่วมกันมอบชุดสื่อนิทรรศการ หนังสือทำเอง มีดจากช่างว่อนและงานฝีมือสะท้อนภูมิปัญญาคนเก่าแก่ของหนองบัว ให้แก่โรงเรียนหนองบัว ซึ่งต่อมา ก็ทำให้หมวดสังคมศึกษาของโรงเรียนหนองบัว สามารถใช้เป็นทรัพยากรวิชาการ เป็นเจ้าภาพจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการให้กับเครือข่ายโรงเรียนที่ได้รับโรงเรียนในฝันของจังหวัดนครสวรรค์ เพื่อร่วมกันพัฒนาเครือข่ายจัดการเรียนรู้แบบอิงถิ่นฐานได้โดยได้รับทุนอุดหนุนจากหน่วยงานเชิงนโยบายระดับจังหวัด
ต่อจากนั้น กลุ่มงานต่างๆ ซึ่งผมอาจจะเรียกชื่อไม่ถูกต้อง แต่พอจะทราบว่าเป็นกลุ่มที่ทำงานเกี่ยวกับงานพัฒนาการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ กลุ่มงานพัฒนาเทคโนโลยีและคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้ทางสังคมศึกษา ก็มีกำลังใจที่จะนำเอาเนื้อหาที่สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ของหนองบัว อันได้แก่วัดหนองกลับหรือวัดหลวงพ่อเดิม ไปพัฒนาต่อเป็นสื่อออนไลน์เนื้อหาทุกภาษาของประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียน ทำให้โรงเรียนอำเภอของชาวหนองบัวและการเรียนรู้ท้องถิ่นของลูกหลานชาวหนองบัว ได้มีการเรียนรู้และเป็นผู้นำทางการปฏิบัติ ในการสะท้อนความจำเป็นของสังคมโลกและการนำเอาวิทยาการ เทคโนโลยี และภูมิปัญญาของสังคม ทั้งที่ทันสมัยก้าวหน้าและที่ก่อเกิดบนรากฐานของภูมิปัญญาท้องถิ่น มาใช้เพื่อพัฒนาการศึกษาเรียนรู้อย่างบูรณาการ
ต่อมา ก็มีการพัฒนากระบวนการทำงานเพื่อเชื่อมโยงกับการศึกษาพื้นที่ในมิติต่างๆที่มีข้อมูลทั้งภาพถ่าย การบอกเล่า และเอกสารการบันทึกทุกรูปแบบชี้นำให้เห็นแง่มุมสำหรับการลงไปศึกษาเชิงลึกและนำมาบันทึกรวบรวมไว้ โดยเฉพาะทางพระอาจารย์มหาแล อาสโยซึ่งได้ถือโอกาสรับกิจนิมนต์ เยี่ยมญาติโยม และร่วมให้การสนับสนุนงานศึกษาวิจัยต่างๆที่ทำในหนองบัว ไปทำการสัมภาษณ์และสนทนาบันทึกข้อมูลจากแหล่งข้อมูลบุคคลเก่าแก่ของหนองบัวหลายสาขา เช่น หมอหนิม กำนันผล และคนเฒ่าคนแก่ของหนองับวอีกหลายคน
นอกจากนี้ ก็มีการพัฒนาไปสู่การพัฒนาประเด็นการวิจัย เชื่อมโยงนักศึกษาในขั้นสูง ระดับปริญญาโท สาขารัฐประศาสนศาสน์ ของมหาวิทยาลัยนรเศวร ให้ดำเนินการวิจัย สร้างความรู้จากบทเรียนภาคปฏิบัติในเวทีคนหนองบัว เพื่อเข้าใจปรากฏการณ์ต่างๆในบริบททางสังคมวัฒนธรรมไทยอย่างเป็นระบบได้ดีขึ้น ซึ่งเวทีคนหนองบัวและชุมชนหนองบัวก็จะได้องค์ความรู้มาสนับสนุนพลังการปฏิบัติ เพิ่มพูนมากยิ่งๆขึ้น พร้อมกับได้เป็นผู้นำการปฏิบัติ สร้างบทเรียนนำร่อง ชี้นำการริเริ่มสิ่งต่างๆให้กับสังคมส่วนรวม
อีกทั้ง ผมเองนั้น ก็ได้ทบทวนข้อมูลในเวทีคนหนองบัวแล้วตั้งประเด็นการวิจัย โดยเริ่มจากการสังเคราะห์บทเรียน นำเสนอแนวคิด 'เทคโนโลยีการศึกษาชุมชน' บทเรียนที่สะท้อนขึ้นจากสิ่งที่ก่อเกิดได้จริงในเวทีคนหนองบัวและข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อดำเนินการในบริบทความจำเป็นของสังคมไทย ตีพิมพ์รายงานในวารสารร่มพฤกษ์ ของมหาวิทยาลัยเกริก เสริมกำลังวิชาการเชื่อมโยงให้ความริเริ่มเล็กๆของคนหนองบัว ได้เป็นตัวอย่างแนวคิดและความบันดาลใจของภาคสาธารณะ ในอันที่จะสร้างสรรค์เพื่อสังคมสุขภาวะดังที่พึงประสงค์ร่วมกันให้มากยิ่งๆขึ้นต่อไป และอีกหลายประการด้วยกัน ซึ่งผมเชื่อว่าหลายท่านคงจะค่อยๆถือโอกาสถอดบทเรียนและนำมานำเสนอให้ได้เห็นกันเป็นระยะๆ ผมเองก็จะเป็นคนหนึ่งที่จะทำอยู่เสมอๆไปด้วย
การร่วมจัดเวทีเรียนรู้ในงานงิ้วของปี ๒๕๕๕ นี้
ผมอยากเชิญชวนคนหนองบัวและผู้สนใจการพัฒนาการมีส่วนร่วมสร้างสุขภาวะชุมชนทั่วๆไปทุกท่าน ได้ร่วมคิดและเสนอแนะ การร่วมจัดเวทีเรียนรู้ผสมผสานกับงานงิ้วของชาวอำเภอหนองบัว นครสวรรค์ โดยผมได้ลองทำตัวอย่างยกร่างความคิดมาเพื่อเป็นประเด็นนำร่อง ดังนี้ครับ ........................
การสื่อสารและประสานงานเบื้องต้น
เชิญทุกท่านตามสบายครับ โดยเฉพาะท่านพระอาจารย์มหาแล ท่านพระอธิการโชคชัย คุณสมบัติ ฆ้อนทอง (พรพมมินทร์) คุณฉิก คุณครูอนุกูล คุณครูต้นเทียน คุณคนปรุงแผ่นดิน รวมไปจนถึงเครือข่ายเรียนรู้และเป็นกระบวนกรสนับสนุนทางวิชาการออนไลน์ อาจารย์ณัฐพัชร์ คุณเริงวิชญ์ ดร.ขจิต คุณมะปรางเปรี้ยว อาจารย์หมอ JJ คุณหมอธิรัมภา อาจารย์ ดร.จันทวรรณ บังวอญ่า คุณเอกจตุพร น้องครูอ้อยเล็ก พี่ใหญ่นงนาท และอีกหลายท่านซึ่งไม่สามารถกล่าวถึงได้หมด รวมไปจนถึงคนหนองบัวในต่างประเทศด้วยนะครับ.
กราบอนุโมทนาและตื้นตันใจแทนคนหนองบัวอย่างยิ่งครับ
ทีแรกผมว่าจะเว้นไป ว่าจะไปจัดเวทีต่างหากหลังงานงิ้วแล้ว เพราะผมกำลังย้ายข้าวของ อีกทั้งช่วง ๒๐-๒๑ มีนาคม ๒๕๕๕ ก่อนงานงิ้ววันแรก ก็จะไปช่วยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ สงขลา จัดเวทีพัฒนาเครือข่ายผู้บริหารรุ่นใหม่ ดูกิจกรรมชีวิตและระยะเวลาต่างๆแล้ว ก็ท่าจะโกลาหลเอาการ
แต่เมื่อนึกว่าหากหยุดไปก็จะขาดความต่อเนื่อง อีกทั้งหลายคนก็ออกปากไว้ตั้งแต่ก่อนจบงานปีที่แล้วว่าอยากให้มีในปีนี้อีก เลยตัดสินใจว่าจะพากันทำอีก แล้วก็ได้โทรศัพท์ประสานงานกับทางกำนันรองกรรมการจัดงานและหลายท่านที่หนองบัวแล้ว อีกทั้งวางแผนกับภรรยาแล้วว่าเห็นทีจะต้องแก้ปัญหาด้วยการเตรียมงานต่างๆผ่านสำนักงานออนไลน์ พอเห็นแนวคิดและการลุกขึ้นจัดการด้วยของพระคุณเจ้านี่ ก็ให้มีพลังใจและคึกคักขึ้นมาเลยครับ
ปีนี้เราเวทีคนหนองบัวของเราคงจะมีโอกาสเก็บข้อมูล และนำเอาข้อมูลเก่าๆเท่าที่ช่วยกันสะสมได้มาตรวจสอบได้ดีมากยิ่งๆขึ้น หลังจากงานงิ้วแล้ว ก็น่าจะมีงานความรู้ ช่วยกันจัดทำสื่อและสิ่งตีพิมพ์ ขยายผลสู่การพัฒนาด้านอื่นๆต่อไปได้มากขึ้นอีกนะครับ
แตรวงตาบวนนี่ผมรู้จักครับ
เสียงเดี่ยวแซกตาบวนและของวงนั้นฟังปั๊บก็รู้
ไม่น่าเชื่อว่ายังสามารถเล่นกันได้อยู่อีก คงอาวุโสกันหมดแล้ว
ขอมาเชียร์ก่อนนะครับ
วันที่ ๒๒-๒๕ มีนาคม ๒๕๕๕ โอโหช่วงญี่ปุ่นมาเสียด้วย ดีใจที่อาจารย์จะได้พบเพื่อนเก่า วงดนตรีเก่า
ดูว่าจะช่วยอาจารย์ตอนไหนได้บ้างครับ...
สวัสดีครับอาจารญ์ ดร.ขจิตครับ
คิดว่าจะมีสักครั้งหนึ่งนะครับ ที่จะได้เชิญอาจารย์และอีกหลายท่านใน
gotoknow
ไปร่วมถอดบทเรียนและสร้างประเด็นการมองไปข้างหน้าต่อเรื่องต่างๆของสังคมไทยด้วยกัน
เพื่อสะท้อนไปสู่การเคลื่อนไหวงานและการดำเนินชีวิตที่มีและเป็นอยู่แล้ว
ให้ได้ความเชื่อมโยง
ส่งเสริมเกื้อหนุนกันให้เป็นพลังสร้างสรรค์ความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงในเรื่องต่างๆไปด้วยกัน
โดยใช้กรณีชุมชนหนองบัวและเวทีคนหนองบัวเป็นกรณีศึกษา
คุยและทาบทามอาจารย์เป็นปีแล้วนะครับเนี่ย ยังไปไม่ถึงสักที
กราบนมัสการท่านพระอาจารย์มหาแลครับ
ตาหวิดนี่เป็นคนดั้งเดิมที่น่าจะมีส่วนต่อการเคลื่อนไหวสังคมของคนหนองบัวมากคนหนึ่งเหมือนกันนะครับ
ร้านตัดผมของแกนั้น
เป็นแหล่งพบปะและสร้างวงสมาคมทั้งของคนหนองบัวกับชุมชนรอบนอกของอำเภอที่ไปตัดผมและไปนั่งรอรถที่ท่ารถในศูนย์การค้าหนองบัว
หลากหลายรุ่นวัยมากเลยนะครับ พี่ชายของแกคือตาหวัดก็เช่นกัน
เมื่อก่อนนี้ไม่ว่าจะเป็นใครในหนองบัว ก็รู้จักร้านตัดผมตาหวัด
และร้านตัดผมตาหวิดกันทั้งนั้น แกเป็นญาติพี่น้องบ้านตาลินของผมด้วย
มีอัธยาศัยและเป็นที่รักที่เคารพนับถือของผู้คนในหนองบัวมาก
ให้เบ่าเรื่องราสวเกี่ยวกับผู้คนและความทรงจำเกี่ยวกับพัฒนาการของหนองบัวแล้วละก็
น่าจะเป็นคนที่ถ่ายทอดได้ดีที่สุดคนหนึ่งเลยละครับ
เรียนท่านพระอาจารย์มหาแล เจริญพรโยมอาจารย์ดร.วิรัตน์ และชาวหนองบัวทุกท่าน
คิดว่างานงิ้วนี้จะนำอะไรไปแจกเด็กๆและชาวบ้านดี
เมื่อได้เห็นภาพวาดตำนานเมืองหนองบัว เลยคิดอันนี้น่าจะดี
เลยให้พระท่านช่วยทำเอกสารเย็บเล่มเล็กๆขนาดเอ๔ ๒ แผ่น(๘ หน้า)
ทำในพาวเวอร์พ้อย
ไม่ใครรู้วิธีจัดเรียงหน้าหนังสือ(ทำหนังสือเลยทำในพาวเวอร์พ้อนแทน)
จำนำไปแจกในงานงิ้วและชาวบ้านสักร้องสองร้อย
หน้าปกเอกสาร
ปกหลังเอกสาร