ของขึ้น


ช่วงนี้ อ.จัน กับผมได้เริ่มมีการติดต่อกับสำนักงานรัฐบาลอิเลคทรอนิคส์ (สรอ.) ในเรื่องการประสานความร่วมมือระหว่าง GotoKnow กับ สรอ. ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี และไม่มีอะไรแปลก

เรื่องแปลกเริ่มขึ้นเมื่อวาน หลังจาก อ.จัน กลับมาแล้วได้คุยโทรศัพท์กับ ดร.พลพิบูล สตางค์พุฒิ ผจก.ส่วนพัฒนานโยบายสารสนเทศของ สรอ.

ผมนั่งอยู่ห่างๆ จับความได้ตอนหนึ่งว่า อ.จัน เสนอตัวที่จะช่วยในการจัดกระบวนการ card sorting ให้แก่ สรอ. เพื่อพัฒนา e-portal ของประเทศไทยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

เป็นเรื่องแปลกเป็นอย่างยิ่งเพราะปกติ อ.จัน จะพยายามเลี่ยงงานที่ต้องเจอคนเยอะๆ

แปลกใจอยู่ได้ประมาณหนึ่งนาทีก็นึกขึ้นได้

ผมเองก็พึ่งส่งอีเมลยาวยืดไปถึง ดร.พลพิบูล เรื่องทำ Cloud Computing ให้เป็น Service Oriented Architecture (SOA) และ Knowledge Management ของภาครัฐนี่นา

ทำไมเราสองคนถึงตื่นเต้นกันขนาดนั้น

นึกอีกหนึ่งนาทีก็ได้คำตอบ

อย่างนี้เขาเรียกว่า "ของขื้น"

เรียกกันชัดๆ จะเรียกว่า "สารสนเทศขึ้น" จะดีกว่า เพราะพวกผมสองคนเป็น Information Scientists ร่ำเรียนมาด้าน Information Science

เรื่องนี้ต้องอธิบาย

ว่ากันง่ายๆ แบบไม่ลงรายละเอียดว่าสาขาวิชาที่เรียนแล้วมี "คอมพิวเตอร์" มาเกี่ยวข้องในโลกนี้แบ่งหลักๆ ที่รู้จักกันโดยทั่วไปมี "ประมาณ" 3 สาขาได้แก่ Information Science, Computer Science, และ Computer Engineering ต้องใช้คำว่า "ประมาณ" เพราะศาสตร์ด้านนี้ใหม่ไม่มีอะไรแน่นอน

และเอาเข้าจริงๆ แล้วเนื้อหาทั้งสามสาขานี้ก็ทับซ้อนกันไปมาจนแยกไม่ค่อยออกบอกไม่ค่อยถูกสักเท่าไหร่

แต่อย่างไรแต่ละสาขาก็ถือตัวว่ามีดีกันอยู่

Information Science ก็เหมือนกัน ไม่เชื่ออ่านคำอธิบายใน Wikipedia ดูสิครับ

"Information science is often (mistakenly) considered a branch of computer science. However, it is actually a broad, interdisciplinary field, incorporating not only aspects of computer science, but often diverse fields such as archival science, cognitive science, commerce, communications, law, library science, museology, management, mathematics, philosophy, public policy, and the social sciences."

เห็นไหมครับ พวกผมไม่ใช่สาขาของ Computer Science นะ เราลึกซึ้งกว่าเยอะ

ที่จริงแล้วอธิบายแบบไม่เข้าข้างตัวเองเท่าไหร่ก็พอจะบอกได้ว่า Computer Science กับ Computer Engineering ศึกษาเกี่ยวกับเทคโนโลยี และที่แท้นั้น Computer Science เป็น Applied Mathematics และ Computer Engineering ก็คือ Applied Computer Science ผสมกับ Applied Electrical Engineering นั่นเอง

ส่วน Information Science ไม่ได้ศึกษาเทคโนโลยี แต่เราศึกษาสารสนเทศและ "ชีวิต" ที่เกี่ยวข้องกับสารสนเทศ เราเป็น Art มากกว่า Science จริงๆ จะเรียกได้ว่าเราเป็น Art ที่อยู่บนพื้นฐานของ Science มากกว่า เพราะถ้า Science เราไม่แน่นเราเป็น Art ไม่ได้ (ฮะแฮ่ม)

คล้ายๆ กับเศรษฐศาสตร์ที่เป็นสาขาวิชาด้านสังคมศาสตร์ทั้งๆ ที่ใช้คณิตศาสตร์ไม่แพ้สาขาฟิสิกส์

ทำไมผมรู้หรือครับ เพราะผมจบปริญญาโท Computer Science ที่เรียนแบบ Applied Mathematics มาก่อนจะไปเรียนปริญญาเอก Information Systems เพราะเบื่อ Computer Science

ไม่ได้ไปเพราะตาม อ.จัน เชื่อเถอะ

แต่ตั้งแต่จบกันมานี่ก็ย่างเข้าเกือบสิบปีแล้ว พวกผมไม่ค่อยได้มีโอกาส "วาดลวดลาย" ในฐานะ Information Scientist เท่าไหร่

ไม่แปลกใจที่ อ.จัน จะหึกเหิมอยากจัดกระบวนการ card sorting ให้แก่ สรอ. นัก และผมนอนฝันเห็น ecosystem ของ electronic services ของ สรอ.

ในประเทศไทย หลักสูตรที่สอน Information Science เต็มรูปดูเหมือนจะไม่มี และคนที่จบด้าน Information Science แม้จะมีอยู่พอประมาณแต่ก็อยู่กันอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัวในฐานะชนกลุ่มน้อย

แต่ตอนนี้พวกผมฮึกเหิมมาก ขอให้จินตนาการกองทัพที่แสนเกรียงไกร อันประกอบด้วยคนสองคน สวนสนามพร้อมตะโกนว่า "เมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ information scientists จะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน" ประมาณนั้นเชียว

นานๆ จะมีเหตุการณ์ให้เลือดลมได้เดินซู่ซ่าบ้าง เป็นเหตุให้ได้เขียนบันทึกด้วยความสุขใจนี่ละครับ

เอ่อ.. อย่าให้ computer scientists หรือ computer engineers เห็นบันทึกนี้เป็นอันขาดเชียวนะครับ มิฉะนั้นเป็นอันได้เกิดสงครามใหญ่เป็นแน่แท้

หมายเลขบันทึก: 478335เขียนเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 14:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 มิถุนายน 2012 20:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

อ่านด้วยความตื่นเต้นเช่นกันค่ะ...userอย่างพี่ใหญ่ขอร่วม " ของขึ้น" ด้วยค่ะ

ขอบคุณที่อธิบายให้ฟังคะ

..เป็น Art ที่อยู่บนพื้นฐานของ Science มากกว่า เพราะถ้า Science เราไม่แน่นเราเป็น Art ไม่ได้..

ทำให้นึกถึง ที่ว่า novice ต้องการ กฎตายตัว ส่วน Experts ใช้ intuitive อย่างนั้นเลย

อยากให้เกิดบรรยากาศการทำงานในบ้านเราเยอะๆ คะ

ทำงานอย่างมีจินตนาการ :)

ไม่ค่อยได้ติดตามบันทึกของอาจารย์ ที่เข้ามาก็เพราะเห็นรูปถ่ายใหม่ของอาจารย์ ดูมาดสุขุมและน่าเกรงขามขึ้นเยอะ...

น้องต้นไม้ คงจะสบายดี และโตพอสมควร...

อีกอย่าง ต้นสาเกด้านหลังวัดนะ ล้มหมดแล้วตอนเกิดพายุ แต่ตอนนี้มีแขนงใหม่ๆ เกิดขึ้นเยอะ ขนาดเท่าลำแขน ถ้าอาจารย์ว่าง ก็ถือโอกาสมาเที่ยวที่วัด และพาเครื่องมือมาขุดไปปลูกที่บ้านได้...

เจริญพร

ขอส่งกำลังใจมาให้อาจารย์ทั้งสองท่านด้วยนะครับ

เป็นกำลังใจให้ครับ

ขอบคุณทุกท่านสำหรับดอกไม้และความคิดเห็นครับ หากมีความคืบหน้าว่าพวกผมได้ "ออกของ" อะไรกันบ้างก็จะมาเขียนบันทึกเล่าแน่นอนครับ 

 

        ขอบคุณคะ อาจารย์ธวัชชัยและอาจารย์จัน

หลังจากที่ได้พบปะพูดคุย กับทางอาจารย์ทั้งสองทางทีมงานก็ของขึ้นเช่นกันค่ะ ^____^ เนื่องจากคำแนะนำที่ได้รับจากทั้งสองท่าน.. บรรเจิดมาก..ความคิดพลุ่งพล่านกันเลยทีเดียว ส่วนในเรื่องรายละเอียดโครงการคงต้องขอคำปรึกษา จากอาจารย์ทั้งสองอีกเยอะเลยค่ะ.

ด้วยความยินดีครับ ผมสองคนยังมี "ของ" (ได้แก่วิธีการและกระบวนวิธีทาง Information Science) ที่รอแนะนำให้แก่ สรอ. อีกเยอะเลยครับ

ผมต้องขอขอบคุณอจ.ทั้งสองมากมากครับ

อย่างที่ผมได้มีโอกาสคุยกับอจ.ทั้งสองนอกรอบ สรอ. อยากที่จะตอบความต้องการของประชาชน เลยต้องเริ่มที่จะต้องรับฟังเสียงของประชาชน และผู้เชี่ยวชาญ วิธีที่อจ.เสนอ เหมือนเป็นการเปิดโลกทัศน์ครับ ผมต้องขอคำแนะนำจากอาจารย์และเพื่อนๆในนี้อีกมากเลยครับ

ขอบคุณครับ

คนทำงานมักมีความสุขที่ได้ทำงาน...พลอยทำให้ผู้ติดตามผลงานอย่างผมมีความสุขไปด้วยครับ

ขงจื้อพูดไว้ว่า "choose a job you love, and you will never have to work a day in your life." ผมเห็นด้วยว่าจริงครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท