ไม่มีความอันตรายใดๆเท่าอารมณ์ของเราหรอก!


"คุณไม่ได้กำลังหงุดหงิดกับเรื่องที่กำลังหงุดหงิดหรอกครับ"
เมื่อวานวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2012 ตอนเช้าวันทำงานปกติ ซึ่งวันนี้ภรรยาของผมจะไปที่ทำงานด้วยและผมก็ตื่นประมาณ 08.15 น.ซึ่งต้องไปทำงานก่อน 09.00 น.ก็เป็นอะไรที่เร่งรีบสะไม่มีครับ ก็ภรรยาผมก็ทำกับข้าวให้ทานทุกวันแหละครับและเธอก็ทำกับข้าวเสร็จก็อาบน้ำ ก่อนเธอจะไปเขาห้องน้ำผมก็พูดว่า "วันนี้พ่อสายแน่เลย" ในระหว่างนั้นผมเห็นความคิดของผมว่ามันเหมือนจะกำลังโทษภรรยาของผมที่กำลังจะทำให้ผมไปทำงานสายเพราะเธอ แต่ผมก็ปล่อยผ่านโดยไม่ทำอะไรต่อ แต่มันกับทำให้ผมหงุดหงิดไปหมด เล็กๆน้อยๆ ปั้ง!! ภรรยาปิดประตู ผมรู้สึกมันดังมากสำหรับผมและผมจะรู้สึกหงุดหงิดที่เธอปิดแบบนั้นและบ่อยครั้งด้วย...(มันเอาอดีตกลับมาด้วย) ผมถือของพลุงพลังเดินนำโด่งตรงไปที่รถ ขึ้นรถเสร็จ จะออกรถ ภรรยาผม "ลืมนมอีกแหละ" นมร้อนที่เธอชงและลืมมันไว้บนตู้เย็น มันปี้ดดดดด!อีกแหละแต่เก็บอาการ...ประมาณสะสมไว้ก่อน ไม่รู้ตัว...ขับรถไม่นิมนวล ไม่คุย วันนี้คงไม่สวยล่ะแค่เริ่มมันก็ดูไม่เข้าท่าเลย! ผมคิดในใจ พอไปที่ทำงาน ทานข้าวเสร็จผ่านไปทั้งวัน ผมเดินทางไปเพื่อทำการแข่งขันฟุตบอลที่วันนี้เจอของแข็งด้วย เจ้าภาพ+กับคู่อริที่เจอกันที่ไร ผมต้องเจ็บตัวทุกที...เผชิญๆ ก็ขับไป บอกให้ภรรยาผมโทรไปหาปูกะย่า "ไม่ !" เธอตอบทันที...มันทำให้ผม ปี้ดดดดอีกแล้ว เธอตอบทันทีว่าพูดเล่นเดี๋ยวโทรให้ แต่มันสายไปแล้วกำอารมณ์ของผม เงียบยาวเลยทีนี้ผม พอขับผ่านด้านหน้า รพ.มหาราช มีมอเตอร์ไซด์ขับอยู่ด้านหน้า ตกใจที่เห็นผมขับเข้าใกล้ และผมคิดเองน่ะว่าเขาด่า หรือพูดอะไรสักอย่าง ไม่ต้องเดาเลยครับมัน ปี้ดดดดด อีกแล้ว ผมลดกระจกและตะโกนออกไปอีก!!!!!!!!55796344 ใจเย็นๆๆๆบอกตัวเอง ความคิดมันฟุ้งซาน ยุ่งเหยิง มันสุดจะทน!!!!! แต่ก็ต้องไปต่อ พอไปถึงสนามฟุตบอล 19.05 น. มันเหมือนจะคนละเรื่องแล้วใช่ไหมครับ รู้สึกไม่นึกถึงความวุ่นวายที่ผ่านมา พอต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมอบอุ่นร่างกายก่อนทำการแข่งขัน เสื้อดันไม่ได้เอามาเพราะปกติทางสโมสรจะซักให้แต่วันก่อนผมลืมเอาเสื้อติดรถกลับมาที่บ้านและภรรยาของผมก็เอาไปซักให้...นิดหนึ่งไม่เป็นไรรรรร พอเริ่มลงสนามทำการวอร์มก็รู้สึก ทำไมมันไม่กระตือรือร้นน่ะเรา ? ไม่มีไรมั้ง ! สรุปวันนี้เล่นไม่ได้เหมือนเดิมมันเหมือนติดๆอะไรแต่ระหว่างนั้นไม่คิดอะไรแล้ว แต่มันเหมือ หงุดหงิดที่กรรมการไม่ตัดสินให้ มองว่ามันเข้าข้างเจ้าภาพ เลยบ่นๆๆๆๆๆอย่างเดียวและบางครั้งเล่นยาก ครองบอลนานพอข้างสนาม ทีมสต๊าฟ บอกให้เล่นง่ายๆคือเล่นให้ไว จังหวะน้อย ส่งไว้ๆน่ะครับ ผมกลับรู้สึกว่าโดนตำนิอีก หงุดหงิดเล็กน้อย แปลก ทำไมน่ะ เท่านั้นมันขาดสติไปหมดเลยครับ และเป็นครั้งแรกที่ถูกเปี่ยนตัวออก และมันต้องมีอะไรผิดซักอย่างแน่กู! ผมมีความคิดนั้น ทีมกลับมาชนะได้จากที่ผมออกไปนั่งข้างสนาม ดูมัน ! จริงๆมันเป็นเรื่องดีน่ะ ท่ามกลางความดีใจของเหล่าเพื่อนๆในทีม แต่ผมกลับรู้สึก หงุดหงิดบางอย่าง รู้สึกผิดเล็กน้อยไม่รู้ทำไม คุยกะภรรยาผมก็ไม่ค่อยเพราะเหมือนทุกที มันอะไรไปหมด....ทั้งหมดก็เลยเป็นวันที่จิตใจไม่มีความเบิกบานแล้วมันจะพานให้ชีวิตล้มสลายง่ายมากๆครับ ผมเห็นเลยว่าผมไม่ได้หงุดหงิดในสิ่งที่ผมกำลังหงุดหงิดแต่มันติดมาตั้งแต่แรกและหากเราไม่เคลียร์มันก่อนในเรื่องนั้นๆมันก็จะติดตามเราพานทุกๆเรื่องที่มากระทบ ไม่มีการแสดงออกที่เต็มที่ อิสระ ดูหนักๆอึดอัด แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องทะเลาะน่ะครับ สื่อสารและรับผิดชอบกับสิ่งที่เราคิดเอง เออเอง ที่จริงแล้วเขาไม่มีเจตนาให้เรามีอารมณ์ติดๆหงุดหงิดเลย เรื่องนี้สอนให้ผมรู้ว่า "ไม่มีความคิดเห็นใดส่งผลกระทบกับเรา เท่ากับเราให้ความคิดของเราครอบงำการกระทำของเราเลย โดยไม่มีสติแยกแยะ ระหว่างความจริงที่เกิดขึ้น ณ ตอนนั้นกับอารมณ์ความคิดเห็น การพิพากษา ตีความของความคิดเราเอง" 

สติ

  
เมื่อเราโทษอะไรสักอย่างที่ทำให้ชีวิตเราเป็นแบบนั้น เป็นแบบนี้ สิ่งที่เราจะได้คือ การเป็นผู้ถูก และสิ่งที่เราเสียก็คืออิสระในการแสดงออก การเป็นที่มีชีวิตชีวา อึดอัดน่ะ ...ตอนนี้ผมรู้สึกปล่อยวางมันทั้งหมดและผมสามารถรับผิดชอบกับเรื่องราวมันทั้งหมดได้ จากนี้ไปในอนาคตผมจะจับความคิดของตนเองและรับผิดชอบกับมัน และผมจะเป็นคนมีชีวิตชีวา สนุกสนาน...มันได้แตกต่างแล้วสำหรับชีวิตผมตอนนี้ ขอบคุณทุกบทเรียน ทุกๆสถานการณ์ที่ทำให้ผมได้เรียนรู้มัน ขอบคุณครับ 
หมายเลขบันทึก: 478105เขียนเมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2012 10:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 18:20 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท