หลังจากเกิดขึ้นมาแล้ว มีลมหายใจแรกแล้ว ถัดมาที่จำความได้แม่นไม่เคยลืมก็คือเรื่องตอนเรียนอนุบาลครับ
ตอนนั้นพ่อกับแม่ทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ
พ่อของผมทำงานธนาคารกสิกรไทย ซึ่งตอนนั้นย้ายไปอยู่หลายสาขาครับ ตั้งแต่สาขาบางแค สาขาภาษีเจริญ และสาขาท่าพระ
ซึ่งตอนที่อยู่สาขาท่าพระนี่เอง พ่อกับแม่เคยเล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนมีน้องที่ทำงานด้วยกันอยู่ที่ธนาคารกสิกรไทย ท่าพระตอนนี้เขาดังมาก ๆ ครับ เพราะเขาได้พลิกผันมาเป็นซูเปอร์สตาร์อันดับ 1 ของเมืองไทยครับ “พี่เบิร์ด” ของเรานั่นเองครับผมก็คิดเล่น ๆ ว่า แหม ถ้าตอนนั้นพ่อผมออกไปทำเพลงขายบ้าง คงจะดังเขาเหมือนกันครับ เพราะตอนนี้พ่อผมชอบร้องเพลงมากครับ (ร้องเพราะอีกต่างหาก อิอิ) ไม่งั้นอาจจะเป็นนักร้องชื่อดังขวัญใจชาวไทยอีกคนนึงก็เป็นได้ตอนเด็ก ๆ ผมก็ย้ายโรงเรียนบ่อยมาก ๆ ครับ
เคยลองนับเล่น ๆ ดูเฉพาะแค่อนุบาล 1 ถึง ป. 6 ก็ปาเข้าไป 6 โรงเรียนครับ
ตอนอนุบาลผมเรียนอยู่ที่โรงเรียนหมู่บ้านเศรษฐกิจครับ ตอนนั้นแม่ของผมเปิดร้านตัดเสื้อและร้านเสริมสวยครับ แล้วหน้าบ้านก็ขายขนมหวาน กล้วยทอด มันทอด ตอนนั้นยังจำได้ว่าไปแอบกิน แล้วก็ช่วยแม่ขายบ้างครับ (ส่วนใหญ่จะกินครับ)
แม่ของผมคนที่มีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่บ้านหนองจิก โคกช้างจังหวัดนครสวรรค์ครับ สมัยสาว ๆ ท่านได้เรียนตัดผ้า ที่โรงเรียนสอนตัดผ้า อำพร จังหวัดนครสวรรค์ และเรียนเสริมสวยที่ โรงเรียนตัดเสื้อ เสริมสวยงามวิไล
อันนี้เป็นที่มาของชื่อพี่สาวของผมหรือเปล่าก็ไม่ทราบครับ
(ผมและพี่สาวตอนอยู่หมู่บ้านเศรษฐกิจครับ ตอนนั้นเกิดมาใหม่ ๆ เลย ตอนเกิดมาน้ำหนักไม่ใหญ่ครับ สี่กิโลกว่า ๆ ครับ ถ้าจะเอาแน่ ๆ ต้องรอพรุ่งนี้ครับ จะโทรไปถามแม่มาให้ครับ)
เพราะตอนแรกพี่สาวของผมชื่อ “ลักษณ์วิไล” ครับ ซึ่งตอนนี้ก็ได้เป็นชื่อแล้วเช่นกันครับเป็น “ฐิริวรดา”
ตอนนี้พี่สาวผมทำงานอยู่ที่สำนักงานเทศบาลพรานกระต่าย อ.พรานกระจ่าย จังหวัดกำแพงเพชร และกำลังจะย้ายมาอยู่ที่สำนักงานเทศบาลเมืองกำแพงเพชรครับ
(ตอนนี้โตขึ้นมาหน่อยนะครับ ประมาณ ป.1 ครับ)
ผมกับพี่สาวไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่ครับ เพราะตอนเด็ก ๆ เรียนคนละที่คนละจังหวัดกันตลอดครับ มาได้อยู่ด้วยกันก็ตอนผมมาเรียน ปวช. ที่นครสวรรค์ครับ ซึ่งจะเล่าโดยละเอียดอีกครั้งหนึ่งครับ
ตอนที่อยู่หมู่บ้านเศรษฐกิจมีเพื่อนมากครับ
ตอนนั้นผมมีแฟนด้วยนะครับ (เหมือนเรื่องแฟนฉันเลยครับ) เอ่ ใช่แฟนหรือเปล่า
ก็คือ เพื่อนสาวคนสนิทที่เล่นด้วยกันบ่อย ๆ ครับ บ้านอยู่ใกล้ ๆ กันเธอชื่อว่า “นิดหน่อย” ครับ น่าจะชื่อน้อยหน่าครับ จะได้เหมือนเรื่องแฟนฉันจริง ๆ
(ในรูปจำไม่ได้เหมือนกันครับว่า คนไหนชื่อนิดหน่อยครับ สงสัยคนยืนข้าง ๆ ผมแน่เลย 555 คงงงนะครับว่าผมคนไหน ให้ทายครับ)
สำหรับเหตุการณ์ที่พอจะจำได้แบบไม่มีวันลืมก็คือ
มีอยู่ครั้งหนึ่งครับ ผมเคยเล่นเกมส์แบบเด็ก ๆ ครับ
เป็นเกมส์ที่เอาถ่านดำ ๆ (ถ่านหุงข้าวน่ะครับ) มาขีดเป็นตาราง และข้างบนก็มีรูปโค้ง ๆ คล้าย ๆ หัวกะโหลกครับ (ถ้าใครจำเกมส์นี้ได้ช่วยเล่าเพิ่มเติมด้วยนะครับ)
แล้วก็มีช่องข้างล่างแบ่งออกเป็นสองข้าง ข้างละประมาณ 4-5 ช่อง
ข้างบนมีรูปโค้ง ๆ คลุมอยู่คล้าย ๆ กับหัวกะโหลกครับ
แล้วพวกเราก็ผลัดการเดินบ้าง กระโดดกระต่ายขาเดียวบ้าง ใครไปถึงข้างบนก่อนชนะ
แต่มีอยู่ครั้งนึงครับ ผมเคยทะเลาะกันภาษาเด็กระหว่างเล่นเกมส์นี้
เพื่อนผมเอาถ่าน ปาลงกับพื้น แล้วไม่รู้กระเด็นท่าไหนครับ กระดอนขึ้นมาโดนหัวผม
หัวแตกเลยครับ มีเลือดออก ตอนนั้นตกใจมาก ๆ ครับ จนแม่ต้องรีบพาไปหาหมอครับ
จากนั้นเมื่อเรียนจบอนุบาลที่โรงเรียนหมู่บ้านเศรษฐกิจ ก็ได้เข้าเรียน ป.1 เรียนที่โรงเรียนภาษานุสรณ์ครับ สำหรับตอนนั้นผมจำเหตุการณ์ณ์อะไรไม่ค่อยได้ครับ เหมือนชีวิตจะไม่ค่อยตื่นเต้น
เรื่องตื่นเต้นอยู่ ป.2 ครับ
เหตุการณ์เกิดขึ้นที่นครสวรรค์ รอติดตามสำหรับ ชีวิตวัยป. 2 ต่อได้นะครับ
เรียนที่เดียวกันเลยค่ะ