ตัวผมเอง พบในสิ่งที่ตรงข้ามกับที่คุณหมอว่ามาเลยครับ คือผมทำวิจัย "เล็กๆ " นับร้อยเรื่อง ที่ใช้เงินน้อยมาก 10-5000 บาท แต่ได้ผลงานวิจัยมหาศาล ที่ผมพยามสื่อ ถึงปชช. (แม้ในบอร์ด gtk นี้) แต่ไม่มีใครสนใจครับ ผมเชื่อว่าสังคมไทยเราส่วนใหญ่จะสนใจแต่อะไรที่มันหวือหวา (เช่น นาโน)ราคาแพง ตีพิมพ์ได้ในวารสารที่มี impact factor
งานประดิษฐ์คิดค้นและวิจัยของผม เช่น เตาปิ้งไก่ไร้ควัน(สารก่อมะเร็ง) และ ประหยัดเวลา พลังงาน ผม "คุยโว" ไปหลายแห่งว่ามันเกิดประโยชน์ต่อสังคมอย่างไร ก็ไม่มีใครสน เอาไปเสนอให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องต่อสุขภาพสาธารณะโดยตรงแบบฟรีๆ ไม่มีสิทธิบัตร อย่างไรก็ไม่มีใครสนใจ
ยังมีเตาถ่านปสภ.สูง (ที่ประหยัดป่าเมืองไทยได้ปีละนับล้านไร่) เตานึ่งปลาทูสะอาดและประหยัดพลังงาน (ปลาทูวันนี้สกป.มากครับ เชื้อโรคก็น่ามากดด้วย) ตู้อบแห้งพลังแดดที่สะอาด รวดเร็ว และ ฯลฯ ไม่มีใครสนเลยครับ
ส่วนโครงการหลอกเงินหลวง ที่ใช้เงินโครงการละนับร้อยล้าน เขาสนใจไปดูงานกันมาก ทั้งที่เป็นแค่ technolgy demonstration ที่ไปลอกเทคฯ เก่าๆ ของต่างชาติมาแสดงอีกต่างหาก
เห็นแล้วเศร้าใจครับ
ในอีกด้านหนึ่ง Biotec ที่คุณหมอเคยเป็น กก. ผมว่าก็น่าห่วง ที่ไปเอาชาวต่างชาติมาเป็นที่ปรึกษา คนพวกนี้เราจะเชื่อใจได้อย่างไรว่า เขาจะไม่เอาความลับของเราไปบอกให้บริษัทยาฝรั่งรู้ ทั้งที่บรรพชนไทยสะสมความรู้ด้านยาสมุนไพรแบบเอาชีวิตเข้าแลกไว้มาก บ.ยาพวกนี้ขายยากันเม็ดละ 100 บาท ในขณะที่ราคาของต้นทุนประมาณ 10 สตางค์เท่านั้น เขาอ้างว่าต้องลงทุนทำวิจัยมาก แต่เขาร่นเวลาได้มากจากการ cop ภูมิปัญญาสมุนไพรขอไทยเราไป
เรื่องวิจัยผมเขียนบทความวิจารณ์ไว้มก วันหลังจะเอามาลองลง gtk ดูครับ
ขอให้กำลังใจคุณหมอเป็นเสาหลักวิจัยไทยต่อไปอีกนานๆนะครับ