ให้อย่างกัลยาณมิตร


น้ำไหลนิ่งเป็นแนวทางทีนำไปปฏิบัติแล้วมีความสุข มีปิติ มีค่ามากกว่าทรัพย์วัตถุ และที่สำคัญ เนื้อหาสาระในน้ำไหลนิ่ง ง่ายต่อความเข้าใจเป็นความธรรมดาที่ไม่ธรรมดา การให้ในลักษณะนี้มีคุณค่าและเป็นการให้อย่างกัลยาณมิตรเก็บเกี่ยวผลไม่มีวันหมด

                        ผมว่างเว้นจาก Gotoknow พักใหญ่ เหตุด้วยงานประจำที่ไม่ได้จัดระเบียบและกำลังสนใจ เหตุบ้านการเมืองแบบหายใจรดต้นคอ    เมื่อวาน(29 สิงหาคม 49) แว๊บ.....หนึ่งคิดถึงคำว่า  ใช่..และน้ำเสียงของน้องคนหนึ่ง จากการได้ ลปรร.กันในครั้งที่เป็นการเจอะเจอกันครั้งแรก ไม่เคยพบ  ไม่รู้จักกันมาเก่าก่อนเป็นผู้มาจากแดนไกล  คุยกันพักใหญ่ ก็คิดแบบฟันธงว่าคอเดียวกัน คือสนใจการพัฒนาจิตเดิมแท้ของมนุษย์ ความงดงามของภูมิปัญญา ความรู้ที่ได้จากการปฏิบัติ การมองเชิงบวก  คิดว่าการพูดคุยกันวันนั้นออกมาจากใจจริงและเป็นการสื่อความหมายที่ตรง โดยส่วนตัวมักจะดูจากแววตาเป็นส่วนประกอบ คุยไปคุยมา ก็ไปออกนักเขียนนามว่า ติช นัส ฮันท์ ผู้ที่แต่งเรื่อง  คือเมฆสีขาวทางก้าวที่เก่าแก่ เรียบเรียงพุทธประวัติในแนวที่บรรยายลักษณะความงดงามแห่งวิถีของพุทธจริยาที่เป็นธรรมชาติและคนธรรมดาอย่างเราเข้าถึงไม่เกินวิสัยจะเรียนรู้ แปลโดยคุณรสนา  โตสิตระกูล หนังสือชุดนี้มี 2 เล่ม อาจจะมีเล่ม 3 หรือ 4 หรือไม่ผมยังไม่ทราบเลย ก็คือเรื่องยังไม่จบ ก็กำลังค้นหาอยู่  สรุปก็คือมิตรจากแดนไกลของผมก็อ่านหนังสือของ  ติช นัส ฮันท์ เหมือนกัน

                             หลังจากนั้นหนึ่งเดือนหรือสองเดือนจำไม่แม่น มีโอกาสพบกันอีกครั้งเธอก็ได้ให้หนังสือ  น้ำไหลนิ่ง ของพระโพธิญาณเถร(หลวงปู่ชา สุภทโท)แห่งวัดหนองป่าพง เป็นความประทับใจมากที่สุดเพราะอ่านดูแล้วตรงกับอุปนิสัยของผม น้ำไหลนิ่งเป็นแนวทางที่นำไปปฏิบัติแล้วมีความสุข มีปิติ  ในความคิดมีค่ามากกว่าทรัพย์วัตถุ และที่สำคัญ เนื้อหาสาระในน้ำไหลนิ่ง ง่ายต่อความเข้าใจเป็นความธรรมดาที่ไม่ธรรมดา  การให้ในลักษณะนี้มีคุณค่าและเป็นการให้อย่างกัลยาณมิตรเก็บเกี่ยวผลไม่มีวันหมด ให้เพื่อการปฏิบัติ  ให้เพื่อการดูแลความเป็นปกติแห่งจิตมนุษย์   เป็นบุญสัมพันธ์ที่งดงาม  และที่ยิ่งใหญ่ไปกว่านั้นคือผมได้เผยแพร่วิธีปฏิบัติแบบน้ำไหลนิ่งให้เพื่อนร่วมงาน ครอบครัว และเหล่าญาติธรรมเพื่อให้ทุกคนได้เรียนรู้นำไปปฏิบัติให้เป็นประโยชน์ให้เป็นความสุขอย่างที่เธอผู้ซึ่งเป็นกัลยาณมิตรของผมให้กับผม                         

                                               

หมายเลขบันทึก: 47389เขียนเมื่อ 31 สิงหาคม 2006 14:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มีนาคม 2012 09:49 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

สวัสดีคะพี่หรอย...

ด้วยจิตที่ศรัทธาเข้ามาอ่านเจอพอดี...ดีใจที่ภาพพี่หรอยขึ้นโชว์...ได้อ่านแล้วยิ้มพอทราบว่ามิตรคนคอเดียวกันกับท่านนั้นคือใคร...กะปุ๋มจำได้ว่าพี่หรอยพยายามคุณชายขอบมาศึกษาเรื่องพัฒนาจิตนี้ด้วยเช่นกัน...แต่เจ้าตัวอ้างโน่นอ้างนี่..

...จริงๆ แล้วการพัฒนาจิตไม่ต้องรอเวลาใดใดทั้งสิ้น หากเราสามารถทำได้เลยในทุกขณะจิต...จิตที่ขุ่นมัวจะได้เบาบางลงได้บ้าง...กิเลศที่หนา...ก็จะผ่อนหนักเป็นเบา...กะปุ๋มเชื่อเช่นนั้นนะคะ...

พี่หรอย กับครอบครัวคงสบายดีนะคะ...

หากมีโอกาสผ่านไปทางนั้นกะปุ๋มจะแวะเวียนไปเยี่ยมเยือนนะคะ...

ด้วยจิตที่ศรัทธาคะ

กะปุ๋ม

ลืมเล่าให้ฟังนะคะ...กะปุ๋มเคยให้หนังสือของท่านติช นัท ฮันท์ แก่มิตรท่านหนึ่งอ่านหลังจากที่มิตรท่านนั้นได้ยินเราสนทนากัน...ด้วยจิตที่เบิกบาน...จึงอยากให้มิตรท่านนั้นได้ลองอ่าน คิด และทบทวนตน...

...

แต่ก็เงียบไปเรื่องทำนองนี้...ต้องเจ้าตัวสนใจเองจึงจะ...ได้ผลนะคะ..แม้เราพยายามหยิบยื่น แผ่เมตตา...แต่กรรมที่มี...มาเขาต้องหลุดพ้นบ่วงกรรมนั้นด้วยตัวเอง...

แต่หลังๆ ทราบมาว่าคุณชายขอบตามพี่หรอยไปทำบัญที่วัดบ่อยเหรอคะ...กะปุ๋มอนุโมทนาด้วยนะคะ

*^__^*

กะปุ๋ม

พี่โลม น้องบุตร และน้องแป้งสบายดีและทุกคนยังคิดถึง ระลึกถึงน้องปุ๋มอยู่บ่อย ๆ ก็เป็นแฟนน้ำไหลนิ่งกันทุกคน ครับผม โดยเฉพาะน้อง.....................(ให้ทาย) พูดถึงบ่อยที่สุด

พี่หรอย

ความจริงแล้ว ได้ติดตามแพลนเนตนี้มาโดยตลอด

รู้สึกชื่นชมในเนื้อหาสาระที่แต่ละท่านเขียนมาโดยตลอด

แต่เหตุไฉน Dr.กะปุ๋มจึงได้ใช้เวทีแห่งนี้ เป็นเครื่องมือในการเริ่มจะล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคลคนอื่นมากขึ้นๆ  โดยที่อีกฝ่ายมิได้โต้ตอบอะไรเลย  ดูเหมือนเวทีแห่งนี้จะกลายเป็นที่ระบายอารมณ์บางอย่างไปหรือเปล่า

ยิ่งเขียนมาก ก็สามารถรับรู้ได้ว่า จริงๆ แล้ว อารมณ์ของ Dr. กะปุ๋ม มิได้นิ่ง เหมือนหลายๆ บันทึกที่พยายามสื่อออกมา  

การยกระดับจิตใจให้สูง น่าจะเริ่มจากการไม่เบียดเบียนกัน น่าจะเริ่มจากศิล 5  เป็นพื้นฐาน

เป็นแค่ความคิดและเสียงสะท้อนของเพื่อนใหม่ ที่ยังคงศรัทธาในตัวคุณ

 

 

 

ขอโทษจริงๆ เถอะคะ..คุณเพื่อนใหม่...

กะปุ๋มไม่ทราบหรอกนะคะว่าคุณคือใคร..

ด้วยเจตนาที่ดีงาม ในสิ่งที่บันทึกลงไปไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้ายใคร...หรือแสดงเจตนาที่ไม่ดีต่อใคร...

หากสิ่งที่กะปุ๋มเขียนลงไปหรืออะไรก็ตามแต่ไปกระทบ...ให้คุณเพื่อนใหม่รู้สึกไม่ดี...ก็ขออภัยด้วยนะคะ...แต่ภายใต้สิทธิเสรีภาพแห่งความเป็นมนุษย์ที่เติบโตมาตลอดชีวิต...ดิฉันไม่เคยเบียดเบียนใครหรือทำร้ายใคร...หรือหากแม้ใน Blog ในบันทึกหลายๆ บันทึก...หากเป็นกรณีศึกษากะปุ๋มก็ไม่ได้เอ่ยนาม...

...

ครอบครัวเราหล่อหลอม...แห่งความเป็นจิตมนุษย์ที่ดีงาม และไม่เบียดเบียนใครทั้งกาย วาจา ใจ และที่สำคัญพ่อกับแม่ก็มักจะสอนเสมอให้ทำสิ่งที่ดีงาม จนบางครั้งเรามักถูกคนที่มีจิตแห่งความเป็นมนุษย์หลอกใช้เพื่อหวังผลประโยชน์ส่วนตนบ่อยครั้ง...แต่เราก็ถูกสอนให้อภัย...

...

และในหลายบันทึกเองก็เช่นเดียวกัน..กะปุ๋มก็บอกแล้วว่าไม่อาจหาญเรียกตนว่าเป็นผู้บรรลุธรรม...แต่ตลอดเวลายังต้องเรียนรู้เสมอ...นิ่งเพราะพยายามนิ่ง..นิ่งได้บ้างไม่ได้บ้าง...แต่ก็ไม่ได้ทำให้ใครต้องมาทุกข์หรือเดือดร้อนด้วยไม่ใช่เหรอคะ...เพราะนั่นเป็นทุกข์ที่เป็นกรรมกะปุ๋มต้องเผชิญเอง...และแก้ไขเอง..

ขอบคุณนะคะที่มาท้วงติง

ด้วยจิตที่ศรัทธาในความดี...

  • ผมติดตามอ่านบันทึกของพี่หรอยทุกบันทึกครับ
  • เป็นบันทึกที่มีชีวิตชีวามาก และสะท้อนให้เห็นถึงพลังที่แฝงไว้ในทุกๆ บันทึก
  • ยินดีที่ได้ ลปรร. และจะคอยติดตามอ่านบันทึกต่อๆ ไปนะครับ

เรียน   คุณสิงห์ป่าสัก

ขอบคุณมากครับ.......ที่ให้โอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน เป็นกำลังใจอย่างมาก ที่มีหลายท่านสนใจหรือชี้แนะเพื่อที่จะได้นำปัญญาของหลายๆท่านนำไปทำประโยชน์ในพื้นที่

     มาตามอ่านบันทึกของพี่ชายผมครับ อย่าลืมเตรียมตัวไป KM Forum #3 ในช่วง 1-2 ธ.ค.49 นี้ด้วยนะครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท