“เสือ...ชวนทำ” |
วันหนึ่งขณะที่ผมนั่งอ่านทฤษฎีสมองอยู่ตามปกติซึ่งถือว่าเป็นกิจวัตรหนึ่งไปแล้ว และผมก็มีความสุขที่ได้ใช้เวลาไปกับมัน อ่านไปอ่านมาผมก็เจอกับทฤษฎีหนึ่งซึ่งเป็นงานวิจัยของ Pennebaker,1997และBurton&King,2004 ซึ่งบอกด้วยคำสั้นๆไว้ว่า “ขอบคุณแล้วจะฉลาด”ซึ่งเมื่อผมอ่านรายละเอียดแล้วน่าทึ่งมาก พวกเขาใช้นักศึกษาจิตวิทยาจำนวนทั้งหมด 400 คน นำมาแบ่งเป็น 3 กลุ่ม
กลุ่มแรก ให้ใช้เวลา15นาทีก่อนเข้านอนในแต่ละวันเขียนขอบคุณสิ่งต่างๆรอบตัว ที่มันทำให้เรารู้สึกดี
กลุ่มที่ 2 ให้เขียนเรื่องที่ทำให้เราเสียใจหรือไม่สบายใจในระหว่างวัน
กลุ่มที่ 3 ให้เขียนอะไรก็ได้ตามที่เขาอยากเขียน
โดยใช้เวลาต่อเนื่องกัน 1 ภาคการศึกษา ผลปรากฏว่าคนกลุ่มแรกนั้นมีระดับภูมิคุ้มกันดีขึ้น เป็นหวัดน้อยลง มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นได้ดีขึ้น และที่น่าตกใจมากคือเกรดเฉลี่ยของพวกเขาสูงขึ้นมาก มีความสุขมากขึ้น และมีอัตราการไปพบแพทย์น้อยกว่าคนกลุ่มอื่นๆ ซึ่งตอนแรกผมก็ไม่ค่อยเชื่อกับทฤษฎีสมองทฤษฎีนี้เท่าไรนัก ถึงแม้จะมีงานวิจัยรองรับมากมายก็ตาม ผมคิดว่าแต่เพียงว่าคำขอบคุณง่ายๆแค่นี้มันไม่น่าจะเกี่ยวข้องและส่งผลได้มากมายขนาดนี้ แต่ผมก็อยากจะทดสอบด้วยตัวเองเลย จึงเริ่มลงมือปฏิบัติตามทฤษฎีนี้ทั้งหมดคือ ก่อนนอนจะต้องมีสมุดเล่มเล็กๆไว้เขียนขอบคุณสิ่งต่างๆรอบตัวที่ผมได้เจอมาในระหว่างวัน เช่น ขอบคุณอากาศที่ทำให้วันนี้เย็นสบาย ขอบคุณข้าวกลางวันที่อร่อยๆ ขอบคุณรถที่ไม่ติด ขอบคุณสุขภาพที่ไม่เจ็บป่วย เป็นต้น ซึ่งผมก็ได้ทำมาโดยตลอด มีวันหนึ่งผมรู้สึกเครียดหรือท้อหรือหมดหวังกับบางสิ่ง จึงหยิบสมุดบันทึกนี้ขึ้นมาอ่านเล่นๆ และขณะนั้นเองผมจึงได้รู้ซึ้งถึงทฤษฎีนี้ว่ามันจริงเสียยิ่งกว่าจริงว่าสิ่งเหล่านี้ทำให้เรามีความสุขขึ้นโดยไม่ต้องลงทุนทำอะไร ในชีวิตเราเนี่ยยังมีอะไรดีๆอีกเยอะนี่แล้วจะมัวมานั่งเสียใจทำไมล่ะ แม้ว่ามันจะเป็นความสุขเล็กๆน้อยๆ แต่ผมคิดว่าดัชนีมวลรวมมันมากพอที่จะกำจัดความทุกข์ของเราไปจากใจเราได้ เพราะก่อนนอนเราได้ป้อนโปรแกรมให้สมองเลือกจำแต่ในสิ่งที่ดีๆซึ่งมันก็จะไปกระตุ้นให้สมองเรามองหาแต่สิ่งดีๆในวันใหม่เพื่อที่จะได้มีมาเขียนในสมุดบันทึกนั่นเอง
สุดท้ายนี้ผมก็อยากจะชักชวนให้เพื่อนๆน้องๆและทุกท่านได้ลองทำดูนะครับ แม้ว่าผมจะเรียนด้านสมองโดยตรงแต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าผมเป็นคนที่เก่งที่สุด เนื่องจากมีรุ่นน้องและเพื่อนๆมักจะมาถามผมว่า ทำยังไงถึงจะฉลาด กินอะไรแล้วจะเรียนเก่ง ทำยังไงแล้วจะจำเนื้อหาที่อ่านได้ทั้งหมด ซึ่งผมก็บอกไปตามทฤษฎีที่ได้รู้มา การก้าวมาถึงจุดนี้ผมไม่คิดว่าตัวเองนั้นจะเก่งแตกต่างไปจากคนอื่นเลย ยังมีอีกหลายอย่างที่ผมยังไม่รู้และจะต้องค้นคว้าหาความรู้ใหม่เพิ่มเติมอีกมากมาย ผมคิดว่าผมก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งทดสอบกับตัวเองมาแล้วได้ผลจริง คนอื่นก็น่าจะได้ผลด้วยเช่นกัน ถ้าเราทุกคนทำได้ทุกวันก็จะเป็นผลดีกับตัวเราเอง การที่ผมเขียนบทความมาบอกกล่าวในครั้งนี้ก็เพียงอยากนำเกร็ดความรู้ดีๆที่ทำได้ง่ายมาบอกต่อ ซึ่งน่าก่อให้เกิดประโยชน์กับคนหมู่มากได้ดีกว่าการที่ผมรู้อยู่คนเดียวครับ
ท้ายที่สุดขอขอบคุณ คุณครูจิราภรณ์ บุญสงค์ หรือ “ครูแป๋ม” ของเราที่ได้แนะนำส่งเสริมและเปิดโอกาสให้ผมได้เขียนบทความแสดงความคิดที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมา ณ ที่นี้ด้วยครับ.
.........................................................................................................
นายปณิธาน สนพะเนา ชั้น ม.6/3 เลขที่ 9 |
มาชื่นชม น้องสาว คุณครูจิราภรณ์ บุญสงค์ หรือ “ครูแป๋ม”
แวะมารายงานตัว..
พร้อมๆ กับการชื่นชมในศักยภาพ และพลังใจที่มุ่งมั่นเช่นวันที่ผ่านมา
สู้ๆ..นะครับ
ขอบพระคุณท่านอาจารย์โสภณ ที่มามอบรอยยิ้มก้วยภาพน่ารักๆค่ะ
สวัสดีค่ะพี่พนัส
หนึ่งในหน่วยสร้างพลังใจให้กับแป๋มก็คือพี่พนัสค่ะ แม้ว่ากาลเวลาจะผ่านเนิ่นนานเพียงใด กำลังใจดีๆไม่เคยขาดตอนไปเลยก็ว่าได้
ขอขอบพระคุณดังๆอีกครั้งค่ะ