26 ธันวาคม 2554
เรื่อง การเดินทางออกนอกประเทศและเดินทางกลับเข้าประเทศของเด็กชายสมบูรณ์ ริมพู และ เด็กหญิงกิติยา ริมพู นักเรียน
เรียน ผู้บัญชาการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
อ้างถึง หนังสือกระทรวงมหาดไทย ที่ มท 0308.4/13215 ลงวันที่ 20 ธันวาคม 2554 เรื่อง ขออนุญาตให้ชนกลุ่มน้อยเดินทางออกไปนอกราชอาณาจักร และเดินทางกลับเข้ามาอีก
ด้วย โครงการบางกอกคลินิกเพื่อให้คำปรึกษากฎหมายด้านสถานะและสิทธิของบุคคล กองทุนศาสตราจารย์คนึง ฦาไชย คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ก่อตั้งขึ้นจากความตั้ง ใจของนักศึกษาปริญญาโทและนักศึกษาปริญญาเอกที่อาสาทำงานให้ความช่วยเหลือประชาชนที่มีปัญหาสถานะและสิทธิบุคคลที่เข้ามาร้องขอคำปรึกษากฎหมายจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมีท่านรองศาสตราจารย์ ดร.พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร เป็นที่ปรึกษาของโครงการฯ โดยโครงการบางกอกคลินิกฯ มีหน้าที่ (1) ให้คำปรึกษากฎหมายด้านสถานะและสิทธิของบุคคลที่มีปัญหาดังกล่าวที่ร้องเข้ามาทาง คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นการทั่วไป (2) ให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายในกรณีที่เร่งด่วน หรือ กรณีที่สามารถพัฒนาเป็นต้นแบบการแก้ไขปัญหาสถานะและสิทธิของบุคคลอย่างเป็นระบบได้ และ (3) ผลักดันให้เกิดการปฏิรูปกฎหมายนโยบาย หรือ ปฏิรูปการบังคับใช้กฎหมายนโยบาย โดยใช้ข้อเท็จจริงของกรณีศึกษาเป็นพื้นฐานในการตรวจสอบความใช้ได้ของกฎหมายนโยบายรวมถึงการบังคับใช้กฎหมายนโยบายด้วย ทั้งนี้หลักการในการดำเนินงานของโครงการฯ จะให้เจ้าของปัญหาเป็นผู้แก้ไขปัญหาด้วยตัวเองภายใต้การควบคุมดูแลของคณะทำงานของโครงการฯ
ในการนี้ กรณี “เด็กชายสมบูรณ์ และ เด็กหญิงกิติยา ริมพู ซึ่งรับฟังจากข้อเท็จจริงในเบื้องต้นว่าเป็นคนไร้สัญชาติ” ผู้ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าวงโยธวาทิต และหัวหน้าหน่วยคัลเลอร์การ์ดวงโยธวาทิตของโรงเรียนสวนลุมพินี ซึ่งจะเป็นตัวแทนประเทศไทยนำทีมเข้าร่วมแข่งขันประกวดวงโยธวาทิตในครั้งนี้ ยังขาดเอกสารเดินทาง และยังไม่ได้รับอนุญาตให้สิทธิเดินทางเข้าเขตการปกครองพิเศษฮ่องกง แต่ด้วยระยะเวลาใกล้ถึงวันที่ 28 ธันวาคม 2554 อันเป็นวันที่เด็กชายสมบูรณ์ และเด็กหญิงกิติยาจะต้องเดินทางไปพร้อมกับสมาชิกในวงโยธวาทิตคนอื่นๆ ในนามโรงเรียนสวนลุมพินี ทางโครงการบางกอกคลินิกฯ จึงเห็นว่าเป็นกรณีจำเป็นเร่งด่วนอันสมควรที่ทางโครงการฯ จะเข้าไปดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย ประกอบกับนายบุตตีมาน ริมพู และนางดูลูกา เดวี ลิมบู บิดามารดาของเด็กชายสมบูรณ์ ริมพู และเด็กหญิงกิติยา ริมพู ตลอดจนโรงเรียนสวนลุมพินี ได้มอบอำนาจให้ ข้าพเจ้านางสาวพวงรัตน์ ปฐมสิริรักษ์ นักกฎหมายประจำโครงการบางกอกคลินิกเพื่อให้คำปรึกษาด้านสถานะและสิทธิของบุคคล คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดำเนินการให้ความช่วยเหลือและประสานงานในเรื่องการเดินทางออกนอกประเทศไปยังเขตการปกครองพิเศษฮ่องกง และเดินทางกลับเข้าประเทศไทยของเด็กชายสมบูรณ์ และเด็กหญิงกิติยา
และจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏ เด็กชายสมบูรณ์ และ เด็กหญิงกิติยา ริมพู คนต่างด้าวไร้สัญชาติในประเทศไทยแม้จะเป็นบุตรของแรงงานต่างด้าวจากประเทศพม่าที่ผ่านการพิสูจน์สัญชาติ หากแต่กระบวนการในการพิสูจน์สัญชาติเพื่อรับรองการมีสิทธิในสัญชาติพม่าของบุตรมิได้เกิดขึ้นในความเป็นจริง เด็กชายสมบูรณ์ เด็กหญิงกิติยาจึงไม่สามารถใช้สิทธิในสัญชาติพม่าได้แต่อย่างใด ประกอบกับประเทศไทยเองก็ได้รับเป็นรัฐเจ้าของตัวบุคคลให้แก่เด็กทั้งสองคนในระหว่างที่กระบวนการพิสูจน์สัญชาติของบุตรแรงงานต่างด้าวยังมิได้เกิดขึ้นจริงในทางปฏิบัติ ดังเห็นได้จากการสำรวจและบันทึกชื่อของเด็กทั้งสองคนในทะเบียนราษฎรของประเทศไทยประเภทบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร (ทร.38ก) และออกเอกสารพิสูจน์ทราบตัวบุคคล อันได้แก่ บัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน ภายใต้ยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาสถานะและสิทธิของบุคคล มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ.2548 ซึ่งถือเป็นกลไกในการคุ้มครองสิทธิของคนไร้รัฐที่ปรากฏตัวบนผืนแผ่นดินไทยให้แก่เด็กชายสมบูรณ์ และเด็กหญิงกิติยา อันสอดคล้องกับพันธกรณีระหว่างประเทศที่ผูกพันประเทศไทยในฐานะรัฐภาคี กล่าวคือ (1) ข้อ 6 แห่ง ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ค.ศ.1948 และ (2) ข้อ 16 แห่งกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางแพ่งและทางการเมือง ค.ศ.1966
ในการนี้ เพื่อเป็นการเคารพต่อสิทธิในสิทธิในเสรีภาพในการเดินทางไปต่างประเทศเพื่อเข้าถึงโอกาสในการพัฒนาศักยภาพทางดนตรีและคุณภาพชีวิต พร้อมทั้งการเดินทางกลับประเทศดังเดิม ซึ่งเป็นไปตามพันธกรณี ข้อ 13 แห่งปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน และข้อ 12 แห่งกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง และโดยคำนึงถึงประโยชน์อันสูงสุดของเด็กเป็นสำคัญ และการให้ประกันอย่างเต็มที่จากรัฐเพื่อการที่เด็กจะได้รับการพัฒนา ตามพันธกรณีข้อ 3(1) ข้อ 6.2 และ ข้อ 29 แห่ง อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ค.ศ.1989 ประกอบกับ มาตรา 4 และ 30 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546
ข้าพเจ้าจึงขอเรียนว่าประเทศไทยอันเป็นรัฐเจ้าของตัวบุคคลซึ่งบันทึกชื่อของเด็กทั้งสองในทะเบียนราษฎรของไทย ส่งผลให้เด็กชายสมบูรณ์ และเด็กหญิงกิติยา มีสิทธิเดินทางไปต่างประเทศและกลับเข้ามายังประเทศไทยได้ โดยกระทรวงมหาดไทยมีหนังสืออนุญาตให้เด็กชายสมบูรณ์ ริมพู และเด็กหญิงกิติยา ริมพู เดินทางออกไปนอกราชอาณาจักร และเดินทางกลับเข้ามาอีก ปรากฎตามเอกสารที่อ้างถึง และขณะนี้ประเทศไทยโดยกระทรวงการต่างประเทศได้ออก เอกสารเดินทางสำหรับคนต่างด้าว (Travel Document for Aliens) และ Re entry Visa ให้แก่เด็กชายสมบูรณ์ และเด็กหญิงกิติยา ส่วนสถานทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยก็ได้ให้สิทธิเดินทางเข้าฮ่องกงกับทั้งสองคน โดยปรากฏรายละเอียดดังต่อไปนี้
ทั้งนี้ตามตารางการเดินทางขณะนี้ เด็กชายสมบูรณ์ ริมพู และเด็กหญิงกิติยา ริมพู จะเดินทางออกจากประเทศไทยไปเขตการปกครองพิเศษฮ่องกง ร่วมกับคณะวงโยธวาทิตแห่งโรงเรียนสวนลุมพินี ในวันที่ 28 ธันวาคม 2554 เวลา 18.40 น. โดยเที่ยวบิน TG 60x และเดินทางกลับเข้าประเทศไทยในวันที่ 1 มกราคม 2554 เวลา 12.45 น. โดยเที่ยวบิน TG60x ตามกำหนดการซึ่งออกเมื่อวันที่ 26 ธันาวาคม 2554
ดังนั้น ทางโครงการบางกอกคลินิกฯ จึงขอความอนุเคราะห์มายังท่าน ได้โปรดอำนวยความสะดวกในการเดินทางจากประเทศไทยเข้าเขตการปกครองพิเศษฮ่องกง ในวันที่ 28 ธันวาคม 2554 และเดินทางจากเขตการปกครองพิเศษกลับประเทศไทย วันที่ 1 มกราคม 2555 แก่ เด็กชายสมบูรณ์ ริมพู และเด็กหญิงกิติยา ริมพู
จึงเรียนมาเพื่อทราบและโปรดพิจารณา พร้อมทั้งขอขอบพระคุณมาด้วย ณ โอกาสนี้
ขอแสดงความนับถือ
(นางสาวพวงรัตน์ ปฐมสิริรักษ์)
นักกฎหมายประจำโครงการบางกอกคลินิก
เพื่อให้คำปรึกษากฎหมายด้านสถานะและสิทธิของบุคคล
คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
โทรศัพท์ : 081-4334xxx , 086-4753xxx, โทรสาร : 02-224-942 , อีเมล : [email protected]