220.ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธน่าจะรัก “พระเจ้าอยู่หัว” มากกว่าใครเพื่อน


          ผมและชาวมุสลิมมีข้อทางศาสนา จำกัดหลายอย่าง ที่จะแสดงออกว่ารัก ในหลวง อย่างที่คนทั่วไปแสดงออก  การเชื่อในพระเจ้าองค์เดียว การมาเคารพรูปเคารพ คือข้อจำกัดในการแสดงออก ซึ่งดูๆไปก็เหมือนกับว่ามุสลิมไทยไม่ค่อยรักในหลวง

           การแสดงออกซึ่งความรักสูงสุดของคนไทย โดยความเชื่อและประเพณีแล้ว เบาสุดคือการไหว้ ไปจนถึงการกราบ ท่าของการทำความเครพนี้น่าจะมีอิทธิพลมาจากพุทธศาสนาเป็นหลัก ตรงนี้คือประเด็น คนในศาสนาอื่นอาจจะไม่ค่อยมีปัญหามากนัก กฎการตกศาสนาไม่ได้เข้มมาก อย่างศาสนาอิสลาม

           มุสลิมที่เคร่งมากๆบางคนจึงไม่ยอมนำแม้แต่รูปใครๆก็ตามเข้าบ้านตัวเอง ในเรื่องนี้มีหลักฐานจากศาสนาเป็นข้ออ้างอิงเช่นกัน ฉะนั้นรูปแบบการเคารพคนกลุ่มนี้จึงไม่ทำเด็ดขาด แม้แต่จะยกมือไหว้ใคร เพราะเขากลัวจะตกศาสนานั้นเอง ยิ่งรูปแบบการไหว้ด้วยแล้วพวกเขาจะระวังมาก ด้วยเหตุว่าการไหว้เป็นรูปแบบที่มีที่มาจากศาสนา จึงทำไม่ได้จริงๆ การเลียนแบบพิธีกรรมศาสนาอื่นเป็นเหตุที่ทำให้ตกศาสนา ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจตรงนี้ด้วย นี่คือข้อจำกัดของมุสลิม

           ไม่ใช่มุสลิมไม่รัก หรือขาดมรรยาท เพียงเราต้องเข้าใจข้อจำกัดนี้ก่อน ท่านลืมไปแล้วหรือว่าคำว่า “เข้าใจ”ใครเป็นผู้แนะนำ ก็ในหลวง ไง “เข้าใจ เข้าถึง....” ผมถึงบอกแล้วว่าหากคนไทยเข้าใจอย่างในหลวง ปัญหาเรื่องชนกลุ่มน้อย ปัญหาความเชื่อ ไม่เกิดแน่

             อย่างการเลือกที่รังมักที่ชัง พระองค์ท่านไม่เคยแสดงออกให้เห็นในเรื่องนี้เลย พบคนแก่มอมแมม แต่งกายรุ่มร่าม เราไม่เคยเห็นพระองค์แสดงการรังเกียจแม้แต่น้อย ในทางตรงกันข้ามทรงเข้าไปทักทายไตร่ถามแบบไม่ถือพระองค์ ภาพแบบนี้เราเห็นบ่อย

              จริงๆแล้วผมไม่อยากจะนำความรัก ไม่รักไปเปรียบกับนักการเมืองหรอก แต่เพื่อให้เห็นภาพบางภาพให้ชัดเจนขึ้น นักการเมืองบางคนถ้าเราไม่เลือกเขา เขาพูดชัดเลยว่า “เขาก็ไม่ช่วยเรา”

               แต่ในหลวง ไม่.. ขนาดมุสลิมแสดงออกแบบมีข้อจำกัด  หรือบางคนไม่แสดงออกเลย ความรักที่ในหลวงมี จะเสมอเท่าเทียมกัน

               ความเชื่อคนไทยต่อระบบพระมหากษัตริย์ มีมานานแบบฝั่งรากลึก เป็นชีวิตจิตใจ ความรักเหนือคำบรรยาย น่าจะเรียกว่านี่คือเสน่ห์ของคนไทย ต่อมาเมื่ออิทธิพลพุทธศาสนาเข้ามา ความรักยิ่งทวีคูณ เพราะอะไร ???

               ผมเห็นว่าอิทธิพลที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 มันไม่มีอะไรมาก น่าจะเกิดจากที่มีคนไทยหลายคนได้ไปศึกษาต่างประเทศ จึงนำแนวคิดทั้งเรื่องการเมือง การปกครอง รวมทั้งเรื่องเศษรฐกิจแบบตะวันตกมาใช้ จากนั้นก็พลัดเปลี่ยนกันแสวงหาอำนาจและผลประโยชน์ ต้องยอมรับว่า เมื่อไปศึกษาที่ตะวันตกนานๆ ศาสนาก็พลอยเบาๆเมื่อเบาความในศาสนา ท่านก็ลองนึกภาพต่อไปก็แล้วกัน...ถ้านึกไม่ออกก็ดูจากเหตุการณ์ประเทศไทยในปัจจุบัน แม้แต่พระสงฆ์ก็ออกมาวุ่นวายกับทางการเมืองแบบไม่ใช่กิจสงฆ์ บางครั้งยังนึกไม่ออกเลยว่าพระสงฆ์หรือเปล่า

               ในเมื่อศาสนาพุทธไม่ค่อยมีข้อจำกัดในการแสดงออกถึงความเคารพมากนัก การแสดงความรักต่อพระมหากษัตริย์ ต้องมากกว่าคนที่นับถือศาสนาอื่นอยู่แล้ว ผมมีเหตุผลที่นอกจากว่าพระมหากษัตริย์ทรงเป็นผู้มีคุณธรรม ความยุติธรรมแล้ว เหตุผลที่ผมจะกล่าวต่อไปนี้ผมอยากให้พี่น้องชาวพุทธตระหนัก

                ประการแรก ระบบพระมหาษัตริย์ เป็นระบบเดียวที่ยืนคู่โลกนี้มาช้านาน  นานมากกว่าศาสนาพุทธ และเคียงคู่ศาสนาพุทธมาโดยตลอด

             ประการต่อมา พระพุทธเจ้าคือพระโอรสของพระมหากษัตริย์ ที่ยอมสละความสุขส่วนพระองค์เพื่อแสวงหา การพ้นทุกข์ให้กับประชาชน

             พระเจ้าสุทโธทนะ โคตมะ (King Suddhodana)กับพระอัครมเหสีนามว่า สิริมหามายา เจ้าหญิงศากยวงศ์จากนครเทวทหะ คือพระราชบิดาและพระราชมารดา พระราชโอรสอคือ “สิทธัตถะ” ซึ่งต่อมาตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

            พระเจ้าสุทโธทนะเป็นกษัตริย์ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของคุณธรรมและยึดมั่นในราชประเพณีอย่างเคร่งครัดในการปกครองบ้านเมือง ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุขตลอดรัชสมัยของพระองค์ ทรงมุ่งหวังที่จะให้พระโอรสโดยเฉพาะสิทธัตถะได้รับเลือกจากสภาศากยะให้เป็น ราชาสืบต่อจากตน แต่เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกผนวช และพอทราบว่า เจ้าชายสิทธัตถะได้บรรลุสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว จึงเชิญพระศาสดากลับมาที่กรุงกบิลพัสดุ์

           เมื่อพระบรมศาสดาที่เสด็จมายังกรุงกบิลพัสดุ์คราวนี้ พระเจ้าสุทโธทนะได้สดับรับฟังพระธรรมเทศนา ทรงเกิดความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา บรรลุพระโสดาบันเป็นอุบาสกพุทธบริษัทและเสด็จสวรรคตเมื่อพระพุทธเจ้าประกาศศาสนาได้ 5 ปีพอดี

 

ภาพวาดพุทธประวัติ: พระเจ้าสุทโธทนะทรงอุ้มเจ้าชายสิทธัตถะ(พระราชโอรส) ให้กาฬเทวินดาบสทำนายมหาบุรุษลักษณะของพระราชกุมาร

          ในปีที่ ๕  นับตั้งแต่ตรัสรู้เป็นต้นมา  กำหนดเวลานี้ว่าตามปฐมสมโพธิ  พระพุทธเจ้าเสด็จประทับอยู่ที่ป่ามหาวัน   ใกล้กรุงไพศาลี  ได้ทรงทราบข่าวว่าพระเจ้าสุทโธทนะพุทธบิดาทรงประชวรหนักด้วย พระโรคชรา  ทรงปรารถนาจะได้เฝ้าพระพุทธเจ้า  ตลอดถึงพระภิกษุสงฆ์ที่เป็นเจ้าศากยะและเป็นพระญาติ อีกหลายรูปที่เสด็จออกบวชตามพระพุทธเจ้า  เช่น  พระอานนท์  พระนันทะ  และสามเณรราหุลผู้เป็นหลาน

          พระพุทธเจ้าจึงรับสั่งพระอานนท์ให้แจ้งข่าวพระสงฆ์     ถึงเรื่องที่พระองค์จะเสด็จกรุงกบิลพัสดุ์อีกวาระหนึ่งการเสด็จกรุงกบิลพัสดุ์ของพระพุทธเจ้า     เพื่อทรงเยี่ยมพุทธบิดาที่กำลังทรงประชวรครั้งนี้  ดูเหมือนจะเป็นครั้งสุดท้าย

          เมื่อเสด็จถึงกรุงกบิลพัสดุ์ได้เสด็จเข้าเยี่ยมพุทธบิดา ซึ่งมีพระอาการเพียบหนักแล้ว  ทรงแสดงธรรมโปรดพุทธบิดาด้วยเรื่องความเป็นอนิจจังของสังขาร ปฐมสมโพธิบันทึกพระธรรมเทศนาของพระพุทธเจ้าครั้งนี้ไว้ตอนหนึ่งว่า

"ดูกรบพิตร      อันว่าชีวิตแห่งมนุษย์ทั้งหลายนี้น้อยนักดำรงอยู่    โดยพลันบ่มิได้ยั่งยืนอยู่ช้า ครุวนาดุจสายฟ้าแลบอันปรากฎมิได้นาน..."

           พระเจ้าสุทโธทนะซึ่งทรงสำเร็จอนาคามิผลอยู่ก่อนแล้ว  ได้สดับพระธรรมเทศนา  ตั้งแต่ต้น จนจบก็ได้สำเร็จอรหันต์ในบั้นปลายแห่งพระชนม์ชีพ  หลังจากนั้นอีก  ๗  วันก็สิ้นพระชนม์ (ปรินิพพาน)

พระพุทธเจ้าเสด็จสรงน้ำพระศพพุทธบิดา  และถวายพระเพลิงพร้อมด้วยพระสงฆ์พระประยูรญาติศากยะทั้งมวลจนเสร็จสิ้น

          จะเห็นได้ว่าศาสนาพุทธกับระบบพระมหากษัตริย์ อยู่คู่กันตั้งแต่ความเป็นกษัตริย์และความเป็นพระพุทธเจ้า ผมถามพี่น้องชาวพุทธว่า ถ้าท่านไม่รักสถาบันพระมหากษัตริย์ จะให้คิดกับท่านเช่นไรดี

         ต้องขอโทษขออภัยด้วยที่ผมเป็นมุสลิม บังอาจมาสั่งสอนแนะนำท่านทั้งหลาย ก็เป็นห่วงนะครับ

ท่านที่อยู่ใกล้เคียงขอเชิญนะครับ

-พระมหาจิมก่าย ตะรุวรรณ รองผู้อำนวยการโรงเรียนบาลีเตรียมอุดมศึกษา มหาจุฬาลงการณ์ราชวิทยาลัย,กองงานเลขาเจ้าคณะภาค 10,กองงานพระธรรมทูตฝ่ายต่างประเทศ

-บาทหลวงวิชัย  โภคทวี ผู้อำนวยการศูนย์สันติธรรมวิปัสนา

-อ.มุฮัมมัดซีรอยุดดีน นิมา นักวิชาการผู้เชียวชาญศาสนาอิสลาม

หมายเลขบันทึก: 471029เขียนเมื่อ 12 ธันวาคม 2011 08:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 15:52 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

วาเด็ง ปูเต๊ะ  ชายชราชาวมุสลิม  วัย  ๙๕ ปี  ผู้เป็น "พระ
สหายแห่งสายบุรี"  ที่มีความจงรักภักดีต่อในหลวงไม่เสื่อมคลาย  ลงนามถวายพระพรในหลวง..(ภาพจากหนังสือพิมพ์)

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท