งานศิลปหัตถกรรมนักเรียนครั้งที่ 61ที่ชุมพร


กระทรวงศึกษาธิการต้องเป็น Minnistry of Human Resource Development ในการจัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทำ

  

 

      

              ส่วนหนึ่ง  ของทีมงาน กศน. ที่ไปร่วมงาน

     วันที่ 8 ธันวาคม 2554 ที่ผ่านมา  มีพิธีเปิดงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนภาคใต้ ครั้งที่ 61ที่จังหวัดชุมพร มีรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน

 สำหรับกศน. มีรองเลขา ฯ วัชรินทร์ จำปี และทีมงาน กศน. ในจังหวัดภาคใต้ มาร่วมพิธีเปิดงานและร่วมประชุมวิชาการ หลักสูตรการเรียนการสอนพื่อการมีงานทำ  งานครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้นักเรียนได้แสดงออกซึ่งความรู้ความสามารถ ในด้านวิชาการ ศิลปะการแสดง และสิ่งประดิษฐ์ สุนทรียภาพด้านนาฏศิลป์ ดนตรีและกีฬา และทักษะด้านวิชาชีพ ในลักษณะการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระดับภาคใต้ ๑๔ จังหวัด ๓๖ เขตพื้นที่การศึกษา เป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ได้นำเสนอผลงานต่อสาธารณชน และเพื่อคัดเลือกนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา เป็นตัวแทนระดับภาคใต้เข้าแข่งขันระดับประเทศต่อไป 

     ในการประชุมวิชาการ ตอนเช้า  รศ. ดร.อำไพวรรณ ภราต์รนุวัฒน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ    และ  ดร.เบญจลักษณ์ น้ำฟ้า รองเลขาธิการสพฐ. นำเสนอนโยบายรัฐมนตรี และการนำนโยบายสู่การปฏิบัติ “หลักสูตรการเรียนการสอนเพื่อการมีงานทำ “ จำนวน 7  กลุ่มอาชีพ คือ

              1.1กลุ่มอาชีพเกษตรกรรม

              1.2 กลุ่มอาชีพอุตสาหกรรม

              1.3 กลุ่มอาชีพบริหารจัดการ

              1.4 กลุ่มอาชีพความคิดสร้างสรรค์

              1.5 กลุ่มอาชีพอาหาร

              1.6 กลุ่มอาชีพวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต

              1.7 กลุ่มอาชีพความเป็นเลิศทางการวิจัยและการถ่ายทอดความรู้ 

         และมีตัวแทนมหาวิทยาลัยและอาชีวศึกษานำเสนอผลการดำเนินงาน

กิจกรรมภาคบ่ายและภาคค่ำ

ประธาน คือ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ

                โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เน้นเรื่อง การเตรียมความพร้อมของประเทศไทยที่จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในปี 2558 นี้ ว่า  ประเทศไทยไม่ค่อยมีความพร้อมที่จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน เพราะเรายังไม่มีความรู้ความเข้าใจอย่างเพียงพอ ซึ่งประเด็นดังกล่าวนั้น ตนกังวลว่าจะทำให้กลายเป็นวิกฤตที่รุนแรงของประเทศ โดยเฉพาะรายการสินค้าและผลิตภัณฑ์ กว่า 8,000 รายการ ที่ประเทศไทยได้ตกลง ให้เป็นสินค้าที่ปลอดภาษี และหากอนาคตประเทศเพื่อนบ้านสามารผลิตพืชเกษตรได้โดยใช้ต้นทุนต่ำ และนำส่งเข้ามาขายในประเทศไทยอาจกระทบต่อการค้าขายในประเทศไทยได้ ซึ่งราการสินค้าดังกล่าวตนเสนอให้มีการทบทวน  และ เราอยู่ในสังคมที่ไม่รู้ตัวเราเลย ว่าตัวเรา บ้านเรา ดิน ภูมิอากาศ ดิน บ้านเราเป็นอย่างไร ไม่มีการวิเคราะห์ จึงเห็นแต่ไม่รู้ แล้วรู้ของต่างประเทศไทยหรือไม่ นั่นเป็นเพราะประเทศไทยสนใจแต่ตัวเองไม่เคยสนใจต่างประเทศ ไม่รู้ทั้งเขา ไม่รู้ทั้งเรา แล้วจะแข่งขันได้อย่างไร ในระบบของการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ  ต้องเป็นกระทรวงที่พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพ และต้องคิดนอกกรอบได้และการศึกษาเราต้องกำหนดใหม่ ว่าเราเรียนเพื่อเรียนรู้ และวางเป้าหมายที่ชัดเจน คือ ให้การศึกษาเพื่อพัฒนาประเทศ และก้าวไปสู่การมีงานทำ  โดย คนที่จบออกมาแล้วต้องมีงานทำ บนศักยภาพของประเทศ ภายใต้การแข่งขันกับทั่วโลก พอประเทศไทยเข้าสู่อาเซียน  การเดินทาง ท่องเที่ยว และการค้าขายจะทำได้ง่ายและสะดวกรวดเร็ว ประหนึ่งเป็นประเทศเดียวกัน หากไม่มีการเตรียมความพร้อม ประเทศไทยอาจเสียเปรียบ โดยเฉพาะด้านการใช้ภาษา และการศึกษาที่มุ่งสู่การพัฒนาอาชีพให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น  นอกจากนั้น  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ยังกล่าวถึง ยุทธศาสตร์การศึกษาเพื่อการมีงานทำว่า จะจำแนกตามอาชีพ 7 กลุ่ม ได้แก่ เกษตรกรรม อุตสาหกรรม  บริหารจัดการ ความคิดสร้างสรรค์ อาหาร วิทยาศาสตร์เพื่อชีวิตและกลุ่มอาชีพความเป็นเลิศทางการวิจัย ซึ่งจะต้องส่งเสริมการศึกษาเพื่อการมีงานทำ โดยเฉพาะโรงเรียนมัธยมศึกษาจะมีการแบ่งสายสามัญ ที่เน้นการจัดการเรียนการสอนภาควิชาการแบบปกติ เช่น โรงเรียนที่มีความเป็นเลิศทางด้านวิทยาศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์ เป็นต้น และสายปฏิบัติการ ที่เน้นสอนความเป็นเลิศด้านอาชีพ ขณะเดียวกัน จะคัดโรงเรียนสายปฏิบัติ เพื่อพัฒนาให้เป็นโรงเรียนหลักสูตรสายอาชีพเข้มข้น ให้กระจายอยู่ตามภูมิภาคต่างๆ ตามความเหมาะสม

     กลุ่ม 4 จังหวัด (สุราษฎร์ธานี/ชุมพร/นครศีธรรมราชและพัทลุง )นำเสนอแผนการพัฒนาขับเคลื่อน หลักสูตรการเรียนการสอนเพื่อการพัฒนาตามหัวข้อ ศักยภาพด้านพื้นที่/ด้านอาชีพในชุมชนและด้านสถานศึกษาที่เป็นเครือข่าย  และวิพากษ์โดยรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ 

      ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน์เลขาธิการ สพฐ. สรุปความคิดรวบยอดการจัดการเรียนการสอนเพื่อการมีงานทำ ตามกรอบหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2551 และกระทรวงศึกษาธิการต้องเป็น Minnistry of Human Resource Development และครูต้องต่อสู้เรื่องค่านิยมของผู้ปกครอง ว่าเด็กไม่จำเป็นต้องเรียนเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยทุกคน

   

            นักเรียนคนเก่งจากโรงเรียนอนุบาลตรัง กำลังแสดงความสามารถร้องเพลง

                        สากลต่อหน้าท่านรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ

หมายเลขบันทึก: 471022เขียนเมื่อ 12 ธันวาคม 2011 05:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 มิถุนายน 2012 18:16 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท