มะเร็งปากมดลูก ดูดชีวิตหญิงไทย 14 คน/วัน


     อ่านจบรู้สึกเป็นห่วงผู้หญิง ที่มีโอกาสที่จะเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ ถึงแม้จะมีสามีเดียว การมีสามีเดียว ถ้าสามีดีไม่มีหญิงอื่นก็ดีไป แต่สามีไปมีหญิงอื่นโดยไม่ทราบก็มีมากอีกหรือทราบก็ทำอะไรไม่ได้  หรือก่อนแต่งงาน สามีผ่านผู้หญิงอื่นมาแล้วก่อนแต่ง เชื้อที่ชื่อว่า ไวรัสเอชพีวี อยู่ในตัวผู้ชายที่จะแต่งงานด้วยก็ไม่ทราบอีก เพราะไม่ได้มีการตรวจให้ทราบได้  หรือผู้ชายจะกล้าบอกผู้หญิงที่จะแต่งด้วยไหม  หากทราบแล้วจะแต่งด้วยไหม? แต่งแล้วอนาคตอาจจะต้องเป็นมะเร็งปากมดลูก  หรือผู้ชายที่นอกใจภรรยานำเชื้อมาให้ภรรยาจนเกิด มะเร็งปากมดลูก 
      ความเสี่ยงของผู้หญิงดูจะมีหลายอย่างมาก อาจได้รับเชื้อมาโดยไม่รู้ตัวเลย   เมื่ออ่านหรือคิดๆดูแล้ว  การเกิดมะเร็งปากมดลูกกับผู้หญิงก็มาจากผู้ชาย  แล้วผู้ชายกี่คนกันที่จะทราบว่า คือต้นเหตุให้ผู้หญิงมีโรคร้าย คือ โรคมะเร็งปากมดลูก ซึ่งน่าจะมีการบอกกล่าวให้ผู้ชายทราบด้วย ไม่ใช่บอกสอน อบรมให้กับผู้หญิงเท่านั้น ว่าโรคปากมะเร็งปากมดลูก ที่ผู้หญิงเป็นนั้นมาจากผู้ชายๆ ควรจะป้องกันระวังช่วยผู้หญิงอย่างไรได้บ้าง  หรือ สอนบอกกล่าวเด็กผู้หญิงไว้ด้วยเลยว่าหากมีเพศสัมพันธ์เร็ว และผ่านผู้ชายหลายคน อนาคตเสี่ยงการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้ ในแต่ละโรงเรียนที่สอนหรือผู้ปกครองสอนลูกสาวก็ต้องเอ่ยเรื่องมะเร็งด้วย ว่าเป็นแล้ว เจ็บปวดทรมานอย่างไร ? จะต้องรักษาอย่างไร?  ฯ และถ้าเป็นไปได้ หากมีลูกสาวเมือถึงวัยที่ฉีดวัคซีนป้องกันได้ ก็ควรให้ลูกฉีดวัคซีน
 
   ข้อมูลที่อ่านแล้วนำมาฝากมีดังนี้
     ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับมะเร็งปากมดลูกยังคงเป็นเรื่องที่หยุดให้ข้อมูลข่าวสารไม่ได้ เพราะการเกิดโรคยังคงมีให้เห็นอยู่เสมอๆ ล่าสุด ผศ.นพ. พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ สูตินรีแพทย์ ร่วมให้ความรู้ถึงอันตรายของมะเร็งปากมดลูกแก่นักศึกษาพยาบาล ณ วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก ในงานเสวนา "มะเร็งปากมดลูก รู้ทันป้องกันได้ " โดยโครงการผู้หญิงปกป้องผู้หญิงจากภัยมะเร็งปากมดลูก จัดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ว่า แม้มีโรคร้ายมากมายที่มากับน้ำท่วม แต่ยังมีอีกหลายโรคที่ไม่ได้มากับน้ำท่วมและไม่ควรมองข้าม   
      หนึ่งในนั้นคือ โรคมะเร็งปากมดลูกซึ่งเป็นมะเร็งที่ทำให้ผู้หญิงไทยเสียชีวิตมากที่สุด จากสถิติพบว่าทุกวันมีผู้หญิงไทยเสียชีวิตถึง 14 คน หรือในขณะที่น้ำท่วมกรุงเทพฯ 30 วัน มีผู้หญิงไทยเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปากมดลูกสูงถึง 420 คน จึงอยากให้ผู้หญิงทุกคนลุกขึ้นมาป้องกันตัวเองจากมะเร็งปากมดลูกตั้งแต่วันนี้
    สาเหตุการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก ผศ.นพ. พันธ์ศักดิ์ เผยว่า ร้อยละ 99 มาจากการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี ทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งการใช้ถุงยางอนามัยป้องกันไม่ได้ 100% เนื่องจากเชื้อชนิดนี้ติดต่อได้จากการสัมผัสผิวหนังภายนอก ผู้หญิงทุกคนที่มีเพศสัมพันธ์ จึงถือเป็นกลุ่มเสี่ยง
    รวมถึง ผู้มีสามีเดียว ซึ่งเป็นที่น่าวิตกว่า ปัจจุบันผู้หญิงไทยเริ่มมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก อายุต่ำกว่าชาวตะวันตก ในอดีตผู้หญิงไทยเริ่มมีเพศสัมพันธ์เมื่ออายุ 16 ปีเด็กฝรั่งเริ่มมีตั้งแต่ 13 ปี  แต่ปัจจุบัน สลับกัน ผู้หญิงไทยเริ่มมีตั้งแต่ 13 ปี ขณะเด็กฝรั่งเริ่มมี ตอน 16 ปี อีกทั้งผู้หญิงส่วนใหญ่มีความเชื่อว่า " เมื่อรักกันได้ มีเพศสัมพันธ์ได้ ก็เลิกได้ และหารักใหม่ได้เช่นกัน " ทำให้ผู้หญิงไทยมีความเสี่ยง และเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกสูงขึ้นเรื่อยๆ
     การมีเพศสัมพันธ์ ครั้งเดียวก็เสี่ยงรับเชื้อเอชพีวี ฉะนั้นการเรียนรู้ที่จะดูแลตัวเองให้ห่างไกลมะเร็งปากมดลูก หรือลดโอกาสเสี่ยงจาก การติดเชื้อ เอชพีวี เป็นเรื่องสำคัญของผู้หญิง การหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆได้แก่ งดการมีเพศสัมพันธ์ การมีคู่นอนหลายคน การมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ตั้งแต่อายุยังน้อย หากไม่สามารถเลี่ยงได้ ต้องรู้จักป้องกันตัวเอง
    ซึ่งดีที่สุดควรทำ 2 วิธี คือ
   - การตรวจคัดกรอง(แพ็ปสเมียร์) คือ ตรวจดูเซลล์ปากมดลูกซึ่งอาจมีความผิดปกติจากการติดเชื้อเอชพีวีมาจากอดีต หากตรวจพบต้องรีบรักษา ก่อนเซลล์ที่ผิดปกติจะเปลี่ยนเป็นเซลล์มะเร็ง และ
   -  การฉีดวัคซีนเอชพีวี ป้องกันไม่ให้เชื้อเอชพีวีเข้าสู่เซลล์ปากมดลูก เป็นการป้องกันเพื่ออนาคต เพื่อกระตุ้นให้ร่างกาย สร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันการติดเชื้อเอชพีวี ชนิดก่อมะเร็งสายพันธุ์ 16 และ 18 ซึ่งเป็นสาเหตุร้อยละ 70 ของเชื้อเอชพีวีทำให้เกิด "มะเร็งปากมดลูก"
  "มะเร็งปากมดลูกไม่แสดงอาการจนกว่าจะถึงระยะลุกลาม และผู้หญิงไม่สามารถตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยตัวเองเหมือนมะเร็งเต้านม เมื่อไม่มีอาการหรือสัญญาณอันตรายใดๆ ทำให้ผู้หญิงส่วนใหญ่ชะล่าใจ ละเลยการตรวจโรค รวมถึงอายที่จะไปตรวจ ส่งผลให้มะเร็งปากมดลูก มีอัตราการเสียชีวิตสูงสุดของมะเร็งในสตรี มากกว่ามะเร็งเต้านม ที่แม้จะพบผู้ป่วยมาก แต่อัตราการเสียชีวิตน้อยกว่ามะเร็งปากมดลูก การตรวจ แพ็ปสเมียร์ อย่างสม่ำเสมอร่วมกับฉีดวัคซีนจึงมีความจำเป็นสำหรับผู้หญิงทุกคน ถึงแม้จะมีสุขภาพที่แข็งแรงก็ตาม เริ่มป้องกันเสียตั้งแต่วันนี้เพื่อตัวคุณ และคนที่คุณรักจะได้ไม่ต้องกลายเป็นหนึ่งในสถิติของผู้ป่วยหรือผู้เสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูก " ผศ.นพ. พันธ์ศักดิ์ กล่าว

 

ขอบคุณข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ ด้วยความปรารถนาดี  กานดา แสนมณี

 

หมายเลขบันทึก: 470998เขียนเมื่อ 11 ธันวาคม 2011 20:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 เมษายน 2012 13:01 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

มาเยี่ยมด้วยความคิดถึงค่ะ ขอบคุณที่แบ่งปันสาระน่ารู้เช่นนีิ้ค่ะ

ดูเหมือนว่าวิธีที่ดีที่สุดที่จะหลีกเลี่ยงจากโรคร้ายนี้ได้(อีกทางทางหนึ่ง)

ก็คือ การอยู่เป็นโสดตลอดชีวิตนะครับ 555

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท