การวิเคราะห์ข้อมูลการทดสอบบทเรียนโปรแกรม
ในการวิเคราะห์บทเรียนโปรแกรมนั้น มีข้อมูลมากมายหลายชนิดที่ผู้วิเคราะห์จะต้องนำมาพิจารณาเป็นต้นว่า ข้อมูลจากการทดสอบก่อนเรียน ข้อมูลจากการทดสอบหลังเรียน ข้อมูลที่ได้จากการเรียนกับบทเรียน ข้อมูลต่างๆ เหล่านี้เป็นประโยชน์ต่อผู้วิเคราะห์ข้อมูลในการนำผลมาใช้เพื่อพิจารณาปรับปรุงแก้ไขให้บทเรียนได้เข้าเกณฑ์หรือเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดถ้าตั้งเกณฑ์มาตรฐาน 90/90 แนวทางที่จะนำข้อมูลมาวิเคราะห์พิจารณาจากเกณฑ์ดังต่อไปนี้
ถ้าผู้วิเคราะห์ข้อมูลถือเกณฑ์มาตรฐานว่า 90 ตัวแรก คือ จำนวนนักเรียนที่ทำบทเรียนโปรแกรมได้ถูก 90 เฟรมใน 100 เฟรม ข้อมูลที่ผู้วิเคราะห์จะต้องนำมาพิจารณา คือ ผลที่ผู้เรียนกับบทเรียนโปรแกรมและตัดสินใจตอบ เลือกคำตอบหรือเขียนคำตอบในครั้งแรกแล้วถูกบันทึกไว้ในการเรียนในแต่ละเฟรม เมื่อนำมาวิเคราะห์แล้วพบว่าในเฟรมใดที่มีผู้เรียนเลือกตอบหรือเขียนตอบผิด จะต้องนำเกณฑ์นั้นมาพิจารณาแก้ไขปรับปรุงโดยพิจารณาจากข้อความและสิ่งเร้าว่ามีส่วนใดที่อาจจะทำให้เกิดการเข้าใจผิดปรับปรุงและแก้ไขเฉพาะเฟรมที่เกณฑ์ไม่เข้ามาตรฐานและนำเฟรมดังกล่าวไปทดสอบใหม่โดยวิธีการในแบบเดิม จนกว่าผลของการวิเคราะห์จะเข้าเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ 90 คนใน 100 คน ที่ทำเฟรมนั้นได้ถูกต้อง เมื่อวิเคราะห์เฟรมในบทเรียนแล้ว มีอีกองค์ประกอบหนึ่งที่ผู้วิเคราะห์จะต้องนำมาวิเคราะห์ในการกำหนดเกณฑ์มาตรฐาน คือ 90 ในตัวที่ 2 ใน 90 ตัวแรกนั้น เราวิเคราะห์คุณภาพของเฟรมแต่ละเฟรมใน 90 ตัวที่ 2 เราวิเคราะห์คุณภาพผู้เรียน ฉะนั้นในการวิเคราะห์ผู้เรียนค่อนข้างจะยุ่งยากซับซ้อนเพราะมีองค์ประกอบมากมายหลายชนิดตั้งแต่พื้นฐานลักษณะสังคมหรือสิ่งแวดล้อม ที่เราจะเลือกและนำมาเป็นผู้เรียนเพื่อใช้ผลและนำมาตั้งเกณฑ์มาตรฐานดังกล่าว
ดังนั้นเกณฑ์ 90 ตัวหลังนี้ผู้สร้างบทเรียนโปรแกรมจึงมักจะถือเอานักเรียนกลุ่มเก่ง กลุ่มปานกลาง และกลุ่มต่ำกว่าเกณฑ์ ในสภาพแวดล้อมที่สร้างบทเรียนนั้นขึ้นมา โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงเกณฑ์เฉลี่ยของตัวแทนของนักเรียนส่วนใหญ่เป็นบรรทัดฐานในการพิจารณาจากแนวทางดังกล่าวผู้สร้างจะต้องนำผลการเรียนของนักเรียนที่เป็นตัวแทนที่ได้คะแนนการเรียนตามที่ถูกบันทึกไว้ต่ำกว่า 90 หรือต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด และจะต้องเป็นจำนวนที่มากกว่าร้อยละ 10 มาพูดคุยปรึกษาเกี่ยวกับเฟรมที่ทำผิดทั้งหมดและดำเนินการแก้ไขปรับปรุงเฟรมอีกครั้งหนึ่งและนำกลับไปให้เรียนใหม่หรือทำการทดสอบกับกลุ่มใหม่จนกว่าจะได้ตามเกณฑ์ ฉะนั้นในเกณฑ์มาตรฐานของบทเรียนโปรแกรมจึงอาจจะกล่าวได้ว่าเกณฑ์ดังกล่าวนั้นเป็นทั้งเกณฑ์ที่แสดงคุณภาพของบทเรียนโปรแกรมและเกณฑ์ที่แสดงผลสัมฤทธิ์หรือคุณภาพของผู้เรียนหลังจากที่ได้เรียนกับบทเรียนโปรแกรมแล้ว
ในอีกกรณีหนึ่งของการตั้งเกณฑ์มาตรฐานที่ผู้วิเคราะห์ถือเอาผลการทดสอบตามแบบประเมินผล และถือเอาจำนวนผู้ทดสอบเป็นตัวกำหนดเกณฑ์มาตรฐานดังกล่าว แนวทางในการวิเคราะห์ก็อาจจะดำเนินการได้ดังนี้ ในกรณีที่ตั้งเกณฑ์มาตรฐาน 90/90 เช่นเดียวกัน
90 ตัวแรก หมายถึง จำนวนข้อสอบที่นักเรียนแต่ละคนทำถูก หรือจะพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ เมื่อเรียนจากบทเรียนจบลงนักเรียนแต่ละคนจะต้องทำข้อสอบหรือแบบวัดประเมินผลได้ถูกต้องอย่างน้อย 90 ข้อใน 100 ข้อ ถ้าหากมีผู้เรียนแม้เพียงคนเดียวทำแบบวัดประเมินผลได้ต่ำกว่าเกณฑ์ดังกล่าว ผู้สร้างและผู้วิเคราะห์จะต้องนำมาพิจารณาหาข้อมูลเพื่อปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้ผู้ทดสอบเพิ่มสัมฤทธิ์ผลจนกระทั่งเข้าสู่เกณฑ์มาตรฐาน ถึงแม้ว่าผู้สร้างผู้วิเคราะห์จะต้องย้อนกลับไปพิจารณาบทเรียนแบบโปรแกรมอันเป็นจุดเริ่มต้นใหม่อีกก็ตาม
90 ตัวที่สอง ของการตั้งเกณฑ์มาตรฐานที่อาศัยแบบวัดและประเมินผลเป็นตัวตั้งเกณฑ์นั้น หมายถึง ข้อทดสอบหรือแบบวัดและประเมินผลแต่ละข้อจะต้องมีผู้ตอบถูกอย่างน้อย 90 คนใน 100 คน ฉะนั้นจะต้องดำเนินการวิเคราะห์ข้อทดสอบ ถ้ามีข้อใดที่มีผู้ตอบผิดเกินกว่า 10% จะต้องนำมาแก้ไขปรับปรุง พิจารณาทั้งตัวบทเรียน กิจกรรมในบทเรียน ข้อทดสอบที่สร้างขึ้นตามวัตถุประสงค์นั้นๆ
ฉะนั้นเกณฑ์มาตรฐานในประเด็นที่สองจึงเป็นเกณฑ์มาตรฐานที่วัดคุณภาพของผู้เรียนว่าสัมฤทธิ์ผลหรือบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้หรือไม่ และในขณะเดียวกันการวิเคราะห์ดังกล่าวก็จะเป็นตัวชี้วัดคุณภาพของแบบวัดและประเมินผล คุณภาพของบทเรียนแบบโปรแกรม และคุณภาพของกิจกรรมที่กำหนดให้เป็นสิ่งเร้าและการสนองตอบไปพร้อมกันด้วย
สำหรับการวิเคราะห์โดยคิดจากช่วงคะแนน จากการทดสอบก่อนเรียนและทดสอบหลังเรียน ว่าผู้เรียนโดยเฉลี่ยมีพัฒนาการถึงเกณฑ์ที่ตั้งไว้หรือไม่ ก็ใช้วิธีการวิเคราะห์และการปรับปรุงแก้ไขในแบบเดียวกัน
ข้อมูลอีกอย่างหนึ่งที่ผู้สร้างบทเรียนโปรแกรมจะต้องนำมาพิจารณาก็คือ ช่วงของคะแนนหรือพิสัย (Range) ของคะแนนระหว่างคนที่ได้คะแนนต่ำสุดและสูงสุดเป็นเท่าใด ผู้สร้างสามารถสังเกตได้จากคะแนนการทดสอบ นอกจากนี้ผู้สร้างต้องคำนวณหาค่าเฉลี่ยของคะแนนที่ผู้เรียนทำได้ และค่าเฉลี่ยของเวลาที่ใช้ในการเรียนกับบทเรียนโปรแกรมและต้องพิจารณาถึงเวลาที่ผู้เรียนใช้บทเรียนโปรแกรมน้อยที่สุดและมากที่สุดด้วย
บทเรียนโปรแกรมที่สร้างขึ้นนั้น กว่าจะนำมาตั้งเกณฑ์มาตรฐานได้ จะต้องผ่านการทดสอบหลายครั้งหลายหน และในการทดสอบแต่ละครั้ง ผู้สร้างและผู้วิเคราะห์จะได้ข้อมูลทางสถิติเพิ่มขึ้น ฉะนั้นในการทดสอบบทเรียนและการประเมินผลจากการเรียนกับบทเรียนโปรแกรม จำเป็นจะต้องเก็บข้อมูลที่จะใช้เป็นประโยชน์ในการวิเคราะห์อาจเก็บดังนี้
ตัวอย่างแบบฟอร์มการบันทึกแบบประเมินผลการเรียนจากบทเรียนโปรแกรม
บทเรียนโปรแกรมเรื่อง………..วันที่….เดือน……………พ.ศ. …….
จำนวนนักเรียนที่เรียนบทเรียนโปรแกรมและทดสอบจำนวน………คน คะแนนเฉลี่ยของการทดสอบก่อนเรียน…...…คะแนน
พิสัยจาก……………………………ถึง……………………………………
คะแนนเฉลี่ยของการทดสอบหลังเรียน…………………..คะแนน
พิสัยจาก……………………ถึง……………………
เฉลี่ยเวลาในการทำข้อสอบ………… นาที
พิสัยจาก………………ถึง………………………
การวิเคราะห์ข้อสอบเป็นรายข้อ
ข้อที่ |
จำนวนผู้ตอบถูก |
คิดเป็นร้อยละ |
จำนวนผู้ตอบผิด |
คิดเป็นร้อยละ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ตัวอย่างแบบฟอร์มการบันทึกผลการเรียนและการประกอบกิจกรรมในบทเรียนโปรแกรมเรื่อง………………… วันที่….. เดือน………… พ.ศ. …………
จำนวนนักเรียนที่เรียนกับบทเรียนโปรแกรมจำนวน………. คน เฉลี่ยเวลาในการเรียนกับบทเรียนโปรแกรม………… นาที
พิสัยจาก………………………ถึง………………………………
การวิเคราะห์การเรียนกับบทเรียนโปรแกรมแต่ละเฟรม
เฟรมที่ |
จำนวนผู้ทำถูก |
คิดเป็นร้อยละ |
จำนวนผู้ทำผิด |
คิดเป็นร้อยละ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
แบบฟอร์มการวิเคราะห์การเรียนกับบทเรียนโปรแกรมจากตัวอย่างข้างบนจะช่วยให้ผู้วิเคราะห์ได้ข้อมูลรายละเอียดของแต่ละเฟรมว่าเฟรมใดมีนักเรียนทำผิดมากน้อยเท่าใด
ตัวอย่างการวิเคราะห์ผู้เรียนและวิเคราะห์การเรียนกับบทเรียนโปรแกรมในแต่ละเฟรม
เฟรมที่
นักเรียนคนที่ |
นักเรียนที่ทำผิดในเฟรมที่ |
|||||||||||||||
1 |
2 |
3 |
4 |
5 |
6 |
7 |
8 |
9 |
10 |
11 |
12 |
13 |
14 |
15 |
16 |
|
1 |
|
|
|
|
|
|
X |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
2 |
X |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
3 |
|
|
|
|
|
|
|
|
X |
|
|
|
|
|
|
|
4 |
|
|
|
X |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
5 |
|
|
|
|
X |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
การวิเคราะห์ตามแบบฟอร์มข้างต้นนี้จะให้ทราบ ทั้งจำนวนร้อยละของผู้ที่ทำผิดในแต่ละเฟรม และจำนวนร้อยละของเฟรมที่แต่ละคนทำผิด
ขั้นการวิเคราะห์บทเรียนโปรแกรมนั้น ผู้สร้างบทเรียนโปรแกรมวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงบทเรียนหรือปรับปรุงเฟรมต่าง ๆ ในบทเรียนโปรแกรม ซึ่งเราเรียกว่า Frame Analysis และวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงการประเมินผลการทดสอบเมื่อเรียนจากบทเรียนโปรแกรมจบแล้ว ซึ่งเรียกว่า Test Analysis และในการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ก็เพื่อตั้งเกณฑ์มาตรฐานและช่วยให้ผู้เรียนกับบทเรียนโปรแกรมบรรลุผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
เอกสารอ้างอิง
วิเชียร ชิวพิมาย. บทเรียนแบบโปรแกรม. ขอนแก่น : คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 2544.
ไม่มีความเห็น