ร้องเพลงกล่อมลูก...สื่อสายใยรักสายใยแห่งความผูกพัน


น้องแคนก็ยังไม่หลับ จนผมขึ้นไปนอนกอด สักพักหนึ่งผมก็เลยถามว่าให้พ่อร้องเพลงกล่อมไม๊ เขาก็ยิ้มแล้วก็พยักหน้ารับ ผมกล่อมได้แค่2-3 เพลงเขาก็หลับได้อย่างง่าย ก็คงเป็นความเคยชินสมัยยังเล็กๆผมจะนอนพร้อมๆกับเขาและร้องเพลงกล่อมเด็กกล่อมเขาเกือบทุกคืน

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าลูกชายคนโตของผม(น้องแคนอายุ9ขวบ) ไม่ยอมนอนบอกว่าวันนี้จะนอนกับพ่อรอจนห้าทุ่มกว่าพ่อจะเสร็จงานขึ้นไปนอนด้วย น้องแคนก็ยังไม่หลับ จนผมขึ้นไปนอนกอด สักพักหนึ่งผมก็เลยถามว่าให้พ่อร้องเพลงกล่อมไม๊ เขาก็ยิ้มแล้วก็พยักหน้ารับ ผมกล่อมได้แค่2-3 เพลงเขาก็หลับได้อย่างง่าย ก็คงเป็นความเคยชินสมัยยังเล็กๆผมจะนอนพร้อมๆกับเขาและร้องเพลงกล่อมเด็กกล่อมเขาเกือบทุกคืนจนโตขึ้นมีน้องสาวอีกคน(น้องขิม)ก็ยังคงร้องเพลงกล่อมอยู่ทั้งสองคนพอมีเจ้าขลุ่ย คนเล็กนี่ก็ร้องเพลงกล่อมน้อยลงพร้อมกับภาระงานที่มากขึ้น ทำให้เจ้าคนเล็กไม่ค่อยได้ฟังพ่อกล่อมก่อนนอนนัก แต่พอมาเริ่มร้องกล่อมเขาก็ชอบเช่นกัน บางวันเวลากลับไปทานข้าวกลางวันที่บ้าน พี่สองคนไปโรงเรียนเขาอยู่กับย่าผมกลับไปกินข้าวกลางวันที่บ้านก็จะได้เล่นพูดคุยกับเขาและก็ได้ร้องเพลงกล่อมเขาในตอนกลางวันเขาก็ชอบเหมือนกัน จะนอนดูดนมเพลินไปเลย  เพลงกล่อมเด็กที่ผมใช้กล่อมลูกก็เป็นเพลงพื้นๆทั่วไปที่ใช้กันเช่นเพลงจันทร์เจ้า (ที่ลูกๆฟังเมื่อไหร่ก็ไม่เบื่อ ไม่หลับก็ไม่เลิกร้องกันล่ะ) เพลงโยกเยก นกขมิ้นเหลืองอ่อน แม่กาเหว่าเอย บางวันก็ร้องบทกลอนสมัยผมเรียนตอนประถมที่ยังจำได้คือนโม ข้าจะไหว้...บางครั้งก็ใช้กลอนผู้ใหญ่หาผ้าใหม่ให้สะใภ้ใช้คล้องคอ แต่ก็มีอยู่บทหนึ่งซึ่งผมชอบแต่จำได้ไม่หมดคือวิชาเหมือนสินค้า อันมีค่าอยู่เมืองไกล จะร้องกล่อมแบบขาดหายไปบางท่อน พยายามหาหนังสืออ่านก็ไม่เจอ พอดีเมื่อตอนต้นเดือนได้รับหนังสือProductivity worldของสถาบันเพิ่มผลผลิต ฉบับที่ 57 กรกฎา-สิงหาคม48 ในบทบรรณาธิการเขียนหัวข้อว่าอยู่อย่างตั้งสติ แล้วตอนท้ายได้นำกลอนบทนี้มาลงบางส่วน ทำให้ผมสามารถเติม(เกือบ)เต็มได้เลย ก็จะถือโอกาสยกมาเลยนะครับเผื่อใครจะช่วยเติมหรือเอาไปใช้สอนลูกหลานก็ได้ จริงๆแล้วไม่ใช่กลอน แต่น่าจะเป็นกาพย์ยานี11 มากกว่า ผิดถูกผู้รู้ช่วยแก้ไขด้วยนะครับ

วิชาเหมือนสินค้า     อันมีค่าอยู่แดนไกล

ต้องยากลำบากไป    จึงจะได้สินค้ามา

จงตั้งเอากายเจ้า       เป็นสำเภาอันโสภา

ความเพียรคือโยธา    .........................

สติเป็นหางเสือ        ถือท้ายเรือไว้ให้เที่ยง

ถือไว้อย่าให้เอียง      ตัดแล่นเลี่ยงข้ามคงคา

ปัญญาเป็นกล้องแก้ว   ส่องดูแถวแนวหินผา

เจ้าจงเอาหูตา         เป็นล้าต้าฟังดูลม

ขี้เกียจคือปลาร้าย     จะทำลายให้เรือจม

เอาใจเป็นปืนคม      ยิงระดมให้จมไป

ครับ ก็ยังหายไปวรรคหนึ่ง แต่ก็ถือว่าใกล้สมบูรณ์แล้วครับ การกล่อมลูกนอนทำให้ลูกจะรู้สึกผูกพันกับผมมาก และเวลาเราแนะนำหรือสอนเขาก็จะสนใจและที่เห็นได้ชัดอันหนึ่งคือเขามีจินตนาการที่ดีมาก ช่างสังเกต ปั้นรุป วาดรูปเก่ง เก็บรายละเอียดในรูปอย่างน่าทึ่ง ทั้งๆที่ผมวาดรูประบายสีแทบไม่เป็นเลย แต่ถ้าเป็นเรื่องเจ้าบทเจ้ากลอนละก็พอไหว มีเรื่องที่น่าแปลกอย่างหนึ่งคือลูกผมสามคนเกิดวันที่วันเดียวกันคือ วันที่ 3 แต่คนละเดือนคือร้อน(เมษายน) ฝน(สิงหาคม)และหนาว(ธันวาคม) เป็นบ้านสามฤดูเลย โดยที่คลอดปกติไม่ได้ผ่าตัดและก็คลอดที่โรงพยาบาลที่ผมทำงานอยู่ทั้งสามคน ผมทำคลอดเองทุกคน ผมจึงได้สัมผัสลูกเป็นคนที่สองรองจากแม่ของเขา สำหรับบทกล่อมลูกท่กล่าวมาข้างต้นจะหาเนื้อได้ง่าย วันหลังถ้าผมไม่รู้จะเขียนอะไรก็อาจจะเอามาเขียนแก้เหงาก็ได้ครับ

หมายเลขบันทึก: 4709เขียนเมื่อ 29 กันยายน 2005 23:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 22:06 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

ลองดูนะครับ..แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าถูกต้องตามต้นฉบับหรือเปล่าครับ....

ชั้น ประถมปีที่ ๖
๏ ๏ วิชาเหมือนสินค้า ๏ ๏

วิชาเหมือนสินค้า อันมีค่าอยู่เมืองไกล
ต้องยากลำบากไป จึงจะได้สินค้ามา
จงตั้งเอากายเจ้า เป็นสำเภาอันโสภา
ความเพียรเป็นโยธา แขนซ้ายขวาเป็นเสาใบ
นิ้วเป็นสายระยาง สองเท้าต่างสมอใหญ่
ปากเป็นนายงานไป อัชฌาศัยเป็นเสบียง
สติเป็นหางเสือ ถือท้ายเรือไว้ให้เที่ยง
ถือไว้อย่าให้เอียง แล่นเลาะเลี่ยงข้ามคงคา
ปัญญาเป็นกล้องแก้ว ส่องดูแถวแนวหินผา
เจ้าจงเอาหูตา เป็นล้าต้าฟังดูลม
** ขี้เกียจคือปลาร้าย จะทำลายให้เรือจม
เอาใจเป็นปืนคม ยิงระดมให้จมไป**
จึงจะได้สินค้ามา คือวิชาอันพิศมัย
จงหมั่นมั่นหมายใจ อย่าได้คร้านการวิชา.....

แถมอีกบทนะครับ  บทนี้ผมชอบมาก

๏ ๏ กฤษณาสอนน้อง ๏ ๏
ของ - สมเด็จกรมพระยาปรมานุชิตชิโนรส

๏ พฤษภกาสร............................อีกกุญชรอันปลดปลง
โททนต์เสน่ห์คง.........................สำคัญหมายในกายมี
๏ นรชาติวางวาย........................มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
สถิตทั่วแต่ชั่วดี...........................ประดับไว้ในโลกา


เพิมเติมของฝากสำหรับลูกคุณหมอครับ

จากหนังสือเรียน   ชั้น ประถมปีที่ ๑


๏ ๏ เด็กน้อย ๏ ๏
(ร้องลำฝรั่งรำเท้า)

เด็กเอ๋ย เด็กน้อย
ความรู้ เรายังด้อย เร่งศึกษา
เมื่อเติบใหญ่ เราจะได้ มีวิชา
เป็นเครื่องหา เลี้ยงชีพ สำหรับตน
ได้ประโยชน์ หลายสถาน เพราะการเรียน
จงพากเพียร ไปเถิด จะเกิดผล
ถึงลำบาก ตรากตรำ ก็จำทน
เกิดเป็นคน ควรหมั่น ขยันเอย......


๏ ๏ แมวเหมียว แยกเขี้ยวยิงฟัน ๏ ๏
(ร้องลำแขกบรเทศ)
-นายทัด เปรียญ - แต่ง

แมวเอ๋ย แมวเหมียว
รูปร่าง ประเปรียว เป็นหนักหนา
ร้องเรียก เหมียวเหมียว ประเดี๋ยวก็มา
เคล้าแข้ง เคล้าขา น่าเอ็นดู
รู้จัก เอารัก เข้าต่อตั้ง
ค่ำค่ำ ซ้ำนั่ง ระวังหนู
ควรนับว่ามัน กตัญญู
พอดู อย่างไว้ ใส่ใจเอย......

๏ ๏ ตั้งไข่ล้มต้มไข่กิน ๏ ๏
(ร้องลำลมพัดชายเขา)

-สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ- ทรงนิพนธ์

ตั้งเอ๋ยตั้งไข่
จะตั้งใย ไข่กลม ก็ล้มสิ้น
ถึงว่า ไข่ล้ม จะต้มกิน
ถ้าตกดิน เสียก็อด หมดฝีมือ
ตั้งใจ เรานี้ จะดีกว่า
อุตส่าห์ อ่านเขียน เรียนหนังสือ
ทั้งวิชา สารพัด เพียรหัดปรือ
อย่าดึงดื้อ ตั้งไข่ ร่ำไรเอย.......


๏ ๏ นกขมิ้นเหลืองอ่อน ๏ ๏
(ร้องลำพัดชา)
-หลวงพลโยธานุโยค(นก) - แต่ง

ปักเอ๋ย ปักษิน
นกขมิ้น เรื่อเรือง เหลืองอ่อน
ถึงเวลา หากิน ก็บินจร
ครั้นสายัณห์ ผันร่อน มานอนรัง
ความเคยคุ้น สกุณา อุตสาหะ
ไม่เลยละ พุ่มไม้ ที่ใจหวัง
เพราะพากเพียร ชอบที่ มีกำลัง
เป็นที่ตั้ง ตนรอด ตลอดเอย.......

๏ ๏ จิงโจ้โล้สำเภา ๏ ๏
(ร้องลำมอญรำดาบ)
-หลวงวิจิตรวาทการ- แต่ง

จิงเอ๋ยจิงโจ้
เล่นโล้ ในลำ สำเภาใหญ่
เพื่อออกแรง ออกกำลัง โดยตั้งใจ
ที่จะให้ เข้มแข็ง และอดทน
เรานักเรียน ต้องไม่คร้าน การกีฬา
เรื่อง พลศึกษา ต้องฝึกฝน
ให้แข็งแรง ถ้วนทั่ว ทุกตัวคน
เพื่อเป็นคุณ แก่ตน และชาติเอย.......

  เรียนท่านอาจารย์ ทั้งสอง ผมดีใจมากที่ท่านได้นำบทกลอนของเด็กน้อยมา ลปรร เป็นคติที่ดีมากๆครับ จะขออนุญาติ นำไปสอดแทรกสอนให้ นักศึกษาแพทย์ ท่านรับทราบครับ

 และมีกลอน หนึ่งบท มาให้อ่านเล่นครับ

   "ในวัยเยาว์ คิดว่า เวลามาก

       ยามลำบาก อยากให้ เวลาหาย
  
          ครั้นเติบใหญ่ ใช้เวลา น่าเสียดาย
   
             ไม่ขวยขวาย ให้เวลา คุ้มค่าจริง"
    JJ
ขอบคุณคุณธวัชมากครับ มีอีกหลายบทที่ผมต้องใช้การอ่านให้ลูกฟังเพราะจำเนื้อได้ แต่ข้อเสียของการอ่านคือต้องเปิดไฟทำให้เด็กไม่ค่อยหลับ ถ้าจำเนื้อได้จะปิดไฟและเด็กจะใช้หูฟังใช้ใจคิดจะกระตุ้นจินตนาการได้กว่า ผมจึงชอบร้องเพลงกล่อมลูก แต่ภรรยาผมเขาชอบอ่านนิทานให้ฟังก่อนนอน  สำหรับผู้อ่านท่านอื่นๆที่มีเพลงกล่อมลูกที่หาเนื้อได้ยากหรือมีที่ประทับใจก็เชิญชวนมาร่วมแลกเปลี่ยนกันนะครับ

ประทับใจมากค่ะไม่ค่อยเคยเห็น ผู้ชายที่ละเอียดอ่อนและให้เวลากับลูกได้อบอุ่นปานนี้ ขอให้ชายไทยได้แบบอย่างอันงดงามนี้ ปัญหาสังคมคงลดลงเยอะค่ะ 

ตัดแล่นเลียงข้ามคงคา

วิชาเหมือนสินค้า อันมีค่าอยู่เมืองไกล

ต้องยากลำบากไป จึงจะได้สินค้ามา

จงตั้งเอากายเจ้า เป็นสำเภาอันโสภา

ความเพียรเป็นโยธา แขนซ้ายขวาเป็นเสาใบ

นิ้วเป็นสายระยาง สองเท้าต่างสมอใหญ่

ปากเป็นนายงานไป อัชฌาศัยเป็นเสบียง

สติเป็นหางเสือ ถือท้ายเรือไว้ให้เที่ยง

ถือไว้อย่าให้เอียง แล่นเลาะเลี่ยงข้ามคงคา

ปัญญาเป็นกล้องแก้ว ส่องดูแถวแนวหินผา

เจ้าจงเอาหูตา เป็นล้าต้าฟังดูลม

** ขี้เกียจคือปลาร้าย จะทำลายให้เรือจม

เอาใจเป็นปืนคม ยิงระดมให้จมไป**

จึงจะได้สินค้ามา คือวิชาอันพิศมัย

จงหมั่นมั่นหมายใจ อย่าได้คร้านการวิชา....

อาขยานบทนี้ แต่งโดย บราเดอร์ ฮีแลร์ หรือ ฟ. ฮีแลร์ นักบวชชาวฝรั่งเศส ที่เป็นปราชญ์ แต่งหนังสือดรุณศึกษาให้เด็กไทยได้เรียนครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท