คนไทยไม่ ทิ้งกัน”


คนไทยไม่ ทิ้งกัน”  แม้รัฐบาลจะทิ้งเราก็ตาม   สงกรานต์  กันแก้ว

แม้ว่าขณะนี้ประเทศไทยจะอยู่ในช่วงปลายฝน อีกไม่กี่อึดใจก็จะเข้าสู่หน้าหนาว แต่ขณะนี้ทั่วทุกภาคของประเทศไทยก็ยังชุ่มฉ่ำไปด้วยปริมาณฝน โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคกลาง รวมไปถึงภาคอีสานบางส่วน จะมากหรือน้อยก็คงดูกันด้วยปริมาณน้ำที่ท่วมในแต่ละพื้นที่
จากการสรุปตัวเลขของศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัยและดินโคลนถล่ม พบว่า มีจังหวัดที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยในขณะนี้ประมาณ 26 จังหวัด มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 112 ราย และมีผู้สูญหาย 2 ราย
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ออกมาประเมินความเสียหายในเบื้องต้นว่า ภาคเกษตรกรรมอาจมีมูลค่าความเสียหายสูงถึง 20,000 ล้านบาท และหากมองไปที่ช่วงไตรมาสที่ 3 ภาคเกษตรกรรมจะมีมูลค่าความเสียหายอยู่ที่ประมาณ 8,000 ล้านบาท ซึ่งจากความเสียหายที่เกิดขึ้นดังกล่าวจะส่งผลให้ราคาสินค้าเกษตรมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ และต่อเนื่องไปจนถึงครึ่งแรกของปี 2555
หลังจากน้ำเหนือได้เริ่มไหลลงสู่ที่ราบลุ่มภาคกลาง ส่งผลให้ขณะนี้หลายจังหวัดในภาคกลางเริ่มได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำล้นตลิ่ง และจากปริมาณน้ำที่มีมาก ส่งผลให้หลายพื้นที่ถูกน้ำกัดเซาะและดินพังถล่มสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนประชาชน หลายพื้นที่เริ่มถูกตัดขาด  และได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ น้อยมาก
แม้ว่าขณะนี้จะมีหลายหน่วยงานเริ่มหลั่งไหลความช่วยเหลือไปให้กับผู้ประสบภัย แต่เนื่องจากความช่วยเหลือส่วนใหญ่จะเกาะกลุ่มและถูกส่งไปในพื้นที่ที่ออกสื่อ จึงทำให้อีกหลายพื้นที่ที่สื่อและหน่วยงานราชการเข้าไปไม่ถึงยังคงตั้งหน้าตั้งตารอคอยความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นเงินบริจาคหรือจะเป็นข้าวของเครื่องใช้
จากเม็ดเงินที่รัฐบาลได้จัดงาน “รวมพลังไทย ช่วยภัยน้ำท่วม” ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เพื่อนำเม็ดเงินที่ได้รับบริจาคมาช่วยเหลือผู้ประสบภัยนั้น ล่าสุดมียอดเงินบริจาคกว่า 363 ล้านบาท นี่ยังไม่นับรวมภาคเอกชนที่เปิดบัญชีรับบริจาคอีกหลายธนาคาร และถ้าหากนำเม็ดเงินดังกล่าวมารวมกับงบที่ ครม.อนุมัติอีกกว่า 800 ล้านบาท ถือว่าสูงมากพอควร
เม็ดเงินของภาครัฐทั้งที่ ครม.อนุมัติและเงินที่ได้รับบริจาคกว่า  1,000 ล้านบาท หากเป็นงบที่สามารถจับต้องได้จริง ไม่ตกหล่นไปอยู่ในกระเป๋าใคร เหลือเป็นเม็ดเงินแต่เพียงตัวเลขที่เขียนและแสดงออกมา ประชาชนชาวไทยคงจะได้เงินมาซับน้ำตา คลายความเครียดกันได้บ้าง
ไม่ว่าเม็ดเงินที่ได้รับการอนุมัติมาจะไหลไปที่ไหน หรือเข้ากระเป๋าใคร ที่แน่ๆ และประชาชนที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วมต้องได้ นั่นก็คือเงินให้ความช่วยเหลือหลังคาเรือนละ 5,000 บาท และ 2,000 บาทต่อไร่ สำหรับพื้นที่การเกษตรที่ได้รับน้ำท่วม
ล่าสุด นายวิบูยล์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย ได้ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ส่งข้อมูลให้กับธนาคารออมสิน ซึ่งทำหน้าที่จ่ายเงินให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นมีครัวเรือนที่ประสบภัยทั้งสิ้นประมาณ 107,122 ครัวเรือน รวมเม็ดเงินที่ต้องจ่ายให้กับครัวเรือนที่ประสบภัยทั้งสิ้น 535,610,000 ล้านบาท
เหตุการณ์อุทกภัยน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ คงถือเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ความใส่ใจของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ว่าจะใส่ใจประชาชนเหมือนกับที่ประชาชนค่อนประเทศใส่ใจและให้ความไว้วางใจเข้ามาบริหารประเทศหรือไม่ เพราะตอนนี้เริ่มมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์บางส่วนแล้วว่า รัฐบาลหมางเมินไม่ใส่ใจประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนเท่าที่ควร
ขณะที่ประชาชนในประเทศกำลังได้รับความเดือดร้อน แต่ท่านนายกฯ ก็เดินสายรายงานตัวกับการเป็นผู้นำประเทศคนใหม่ และที่น่าจับตามองมากที่สุดในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็คงจะหนีไม่พ้นการเดินทางไปเยือนประเทศกัมพูชา ที่สวนทางกันไปมากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร  ผู้เป็นพี่ชาย ซึ่งผู้นำประเทศแสนจะต้อนรับขับสู้ ช่วงนั้นประเทศไทยเองก็แสนจะเงียบเหงา หากมองเจาะไปที่กลุ่มคนเสื้อแดง เนื่องจากบรรดาแกนนำทั้งหลายขอฮอลิเดย์เฉพาะกิจเดินทางไปยังประเทศกัมพูชากันทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ก็ยังนึกอุ่นใจ ไม่ว่าเกิดปัญหาใดทั้งในและนอกประเทศ พี่น้องไทยก็หันหน้ามาช่วยเหลือกัน พึ่งหากันเอง เรียกได้ว่า “คนไทยไม่ ทิ้งกัน” แม้รัฐบาลจะทิ้งเราก็ตาม.

คำสำคัญ (Tags): #kmanw
หมายเลขบันทึก: 470372เขียนเมื่อ 5 ธันวาคม 2011 19:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 22:50 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท