AI แบบครูพักลักจำ,การเรียนรู้แบบไม่เป็นทางการ


การเรียนการสอนแบบไม่เป็นทางการเด็กจะสามารถเรียนรู้และจดจำได้ดี เพราะสนุกและไม่เบื่อหน่าย

 ปีนี้การเข้าสังเกตการณ์สอนของแม่ใหญ่  เปลี่ยนไปจากเดิม     ไม่ได้เข้าไปนิเทศเพื่อหาข้อบกพร่อง เพื่อนำมาแก้ไข    แต่เป็นการเข้าไปดูสิ่งที่ครูคิดว่าตัวเองทำได้ดีที่สุด และให้มานำเสนอ   เพื่อที่แม่ใหญ่จะได้นำสิ่งดีดีนั้น  ไปเผยแพร่ให้ครูอื่นๆได้รับรู้ด้วย    ถือเป็นตัวอย่างที่ดี   ให้ครูอื่นๆนำไปปฏิบัติต่อไป  โดยแม่ใหญ่เองก็ดำเนินการ ตามตำราของ ดร.ภิญโญ  เรื่อง AI  ( Appreciative Inquiry)ที่แม่ใหญ่ได้ศึกษาจากการอ่านหนังสือของอาจารย์ 

ผิดถูกประการใด  อาจารย์คงจะมา comment ให้เอง    การทำแบบนี้  เรียกว่า  เป็นการ discover(ค้นพบ) สิ่งดีดี  และนำมาเป็น dream (วาดฝัน) ที่จะ ให้ห้องเรียนทุกห้องมีอะไรดีดีแบบนี้บ้าง    เสร็จแล้ว  แม่ใหญ่นำมาสิ่งที่เห็น  มา  design (ออกแบบ)ด้วยการเขียนสิ่งดีดีนั้น เป็นขั้นเป็นตอน   แล้วนำ มาเขียนลงไว้ใน  blog   ใน webboard ใน facebook และนำไปติดบอร์ดของโรงเรียน  เพื่อ นำไปสู่ destiny (สิ่งที่คาดหวัง ปาฏิหาริย์  หรือโชคชะตา )    ให้เกิดขึ้นในองค์กรต่อๆไป

วันนี้วันที่ 24 พฤศจิกายน 2554   ได้เข้าไปสังเกตการณ์ห้อง  KG 3 A    ซึ่งคุณครูนุชเป็นผู้ขอให้แม่ใหญ่เข้าไปดู เกี่ยวกับเรื่อง “ความต่อเนื่องในการสอนแบบบูรณาการ” ในช่วงเวลา 9.00-10.00   ซึ่งแม่ใหญ่ จะแสดงให้เห็นเป็นขั้นตอนว่า คุณครูนุชสามารถ บูรณาการสอน วิชาต่างๆได้อย่างไรบ้าง ในช่วงเวลา เพียงชั่วโมงเดียว

9.00    เด็กเข้ามาในห้องเรียน   เอาของเก็บเข้าที่  บางคนไปเข้าห้องน้ำ คนที่ทำธุระส่วนตัวเสร็จมานั่งล้อมวงกลมกับพื้น   พร้อมกับคุณครู  และท่องกลอน “นับ 1 ฉันรออยู่จ้ะ......นับสอง 2 ฉันรออยู่จ้ะ....เป็นจังหวะ  แล้ว  จบลงที่  นับ10 ฉันไม่รอแล้วนะจ๊ะ”  นับสิบจบทุกคนก็มานั่งเข้าที่ ได้พอดี ( ได้ระเบียบวินัย  รู้หน้าที่   ได้ท่องกลอนเข้าจังหวะ นับเลข 1-10 ได้คณิตศาสตร์)

9.05 ครูใช้เสียงเบาๆนำเด็กท่องกลอน  “เด็กเอ๋ยเด็กน้อย   ความรู้เรายังด้อยเร่งศึกษา    เมื่อเติบใหญ่เราจะได้มีวิชา ............เกิดเป็นคนควรหมั่นขยันเอย  (ได้ฝึกท่องจำ  สร้างโปรแกรมในสมองเด็ก  ให้ซึมซับในเรื่องรักการเรียน )

9.08  ครูกล่าวคำสวัสดีกับเด็กๆ และเด็กสวัสดีครู  แล้วเด็กสวัสดีกับเพื่อนทางซ้าย และทางขวา  โดยการเอ่ยชื่อของเพื่อนๆด้วย (ได้เรื่องสังคม  รู้จักเพื่อน เกิดมนุษยสัมพันธ์)

9.10  กิจกรรม ส่งแก้วน้ำ(ใจ) ด้วยสติ   ครูบอกว่าวันคี่ ส่งทางซ้าย วันคู่ส่งทางขวา  ส่งเสร็จจับมือกับเพื่อนไว้ รอจนเพื่อนส่งครบทั้งวง (เรียนรู้เลขคู่ เลขคี่   ซ้าย ขวา ความตั้งใจ มีสมาธิ   เมื่อส่งแล้วจับมือเพื่อนไว้  ได้สัมผัสกับเพื่อนเงียบๆ และป้องกันไม่ให้เด็ก ที่ค่อนข้างซุกซน   ไปสนใจอย่างอื่น  ในระหว่างที่รอเพื่อนให้ส่งแก้วน้ำจนครบรอบวง ) หลังจากส่งแก้วน้ำให้เพื่อนรอบวง  คุณครูเลือกเด็กคนหนึ่งให้เอาน้ำไปเทให้พี่ต้นไม้ ( เพื่อให้พี่ต้นไม้เจริญเติบโต)  ครูถือโอกาสให้เหตุผลว่า ที่เลือกน้องคนนี้ไปรดต้นไม้เพราะเดี๋ยวนี้น้องเขามาโรงเรียนแต่เช้า  ไม่มาสายอีก  จึงให้เป็นคนไปรดต้นไม้ในวันนี้  (แก้ไขพฤติกรรมและเสริมแรงทางบวกให้กับเด็กคนนั้น)

9.15  หมดช่วงกิจกรรมวงกลม  ครูเปลี่ยนให้เด็ก เข้าไปนั่งเก้าอี้ที่จัดไว้แล้ว  ด้วยการเรียกชื่อเด็กทีละคน  โดยพูดถึงความดีของเด็กคนนั้นสั้นๆ แล้วมากอดกับครูก่อนไปนั่งรอเพื่อน    กิจกรรมนี้กินเวลาเกือบสิบนาที  แต่เป็นสิบนาทีที่มีความหมาย  เพราะเด็กรอคอยครูเรียกชื่อ  เพื่อจะได้เข้าไปกอดกับคุณครูก่อนไปนั่งโต๊ะ  คนไหนมีความดีที่คุณครูกล่าวชม  ก็จะเดินตัวพอง ภูมิใจในวันนั้น ( ครูไม่ได้ชมทุกคน  แต่เลือกชมคนที่ทำดีชัดเจนในแต่ละวัน  กิจกรรมนี้ทำให้เด็กรู้จักอดทนรอคอย  ภูมิใจในตัวเอง  เข้าไปนั่งทีอย่างมีระเบียบ ไม่ส่งเสียงดัง ได้กอดกับคุณครู  พยายามทำดี เพื่อให้คุณครูกล่าวชม  เข้าใจว่าคุณครูทำกิจกรรมนี้ทุกวัน)

9.25   กิจกรรม เรียนรู้จากปฏิทิน   ครูถามว่าเมื่อวานนี้วันอะไร   วันที่เท่าไหร่   วันนี้จะเป็นวันอะไรและเป็นวันที่เท่าไหร่   ขณะที่ถาม  คุณครูเขียนบนกระดานด้วยว่า วันนี้เป็นวันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ.2554  เวลาเขียน  ครูสะกดไปด้วยทีละตัวอักษร    เด็กบางคนเริ่มสะกดตามครูได้   (ภาษาไทย)  และใช้สื่อปฏิทิน ที่คุณครูทำไว้ใช้สอนเป็นประจำทุกวัน    ด้านหลังตัวเลขเป็นอนุกรมรูปภาพ  เพื่อให้เด็กหัด เรียงลำดับ   และเพื่อให้เด็กคาดเดาได้ว่า  วันต่อไปจะเป็นอะไร  (คณิตศาสตร์) ครูเขียนตัวเลข  24 อารบิค  ตัวเลข ๒๔ เลขไทย  เขียน ตัวสะกด ยี่สิบสี่ และทำสัญลักษณ์ เป็นจุดกลมๆ ยี่สิบสี่จุด  ให้เด็กนับ   เพื่อให้เด็กเรียนรู้ว่า  การที่จะแสดงตัวเลขนั้นแสดงได้ด้วยสัญลักษณ์หลายๆแบบ ให้เห็นทั้งเป็นรูปธรรมและนามธรรม  ครูยังเพิ่มเติม แนวคิดของการบวก  การเพิ่มด้วยการเขียนว่า  เมื่อวานวันที่ 23  เ   พิ่มอีก 1 วัน จึงเป็น 23+1= 24  (กิจกรรมนี้กินเวลา 15 นาที แต่เด็กได้เรียนรู้มากมายอย่างไหลลื่นจริงๆ)

ก่อนที่จะออกจากกิจกรรม ครูทบทวน  ด้วยการให้เด็กอ่านบนกระดานพร้อมกัน ตามที่ครูชี้เป็นคำๆไป  แล้วเรียกเด็กที่ครูคิดว่ายังอ่านไม่ค่อยได้  ให้อ่านบ้าง เมื่อเด็กอ่านได้ ก็เสริมแรงด้วยการติดสติ๊กเกอร์รูปดาวที่แผงชื่อของเด็ก บนแผ่นป้ายเสริมแรง   ที่มีชื่อว่าแผ่นป้าย    How many stars do you have? ) แผ่นป้ายนี้เป็นป้ายที่กระตุ้นให้เด็กที่ไม่ค่อยกล้าแสดงออก  ได้แสดงออกมากขึ้น  เพื่อเพิ่มความมั่นใจที่ละเล็กละน้อย

9.45  กิจกรรม “เชคจำนวนนักเรียน”   ครูเขียนคำว่า เด็กหญิง  และเด็กชาย บนกระดาน  ให้เด็กสองคนมาวาดรูปเด็กหญิง และเด็กชาย ที่ด้านล่างคำที่ครูเขียน    และให้เด็กอีกสองคน นับว่า วันนี้เด็กชายมากี่คน  ขึ้นมาเขียนจำนวนได้ 12 คน  เด็กหญิงอีกคนก็ออกมานับแล้วขึ้นมาเขียน  วันนี้นับเด็กหญิงได้ 12 คน เหมือนกัน    ครูสอนเรื่อง เครื่องหมาย มากกว่า น้อยกว่า และเท่ากับ  โดยให้เด็กออกมาเติมเครื่องหมายว่าวันนี้ เด็กชายกับเด็กหญิงใครมามากกว่ากันน้อยกว่ากัน  หรือเท่ากัน  แล้วสรุปด้วยการบวกจำนวนนักเรียน 12+12 ให้เด็กดู   โดยวางโจทย์บนกระดานในแนวตั้ง    สอนให้เด็กบวกจากหลักหน่วยก่อนจึงบวกหลักสิบ  เด็กๆก็ทำได้  สรุปว่าวันนี้มีนักเรียนมา 24 คน (เรียนรู้คณิตศาสตร์อย่างไม่รู้ตัว)

9.50  เชคสภาพอากาศประจำวัน  ด้วยการตั้งคำถามว่า วันนี้ท้องฟ้าเป็นสีอะไร  ดวงอาทิตย์ขึ้นไหม  หนาวไหมร้อนไหม สรุปว่า  วันนี้อากาศเป็นอย่างไร เด็กสรุปว่า วันนี้ อากาศดี (เป็นการสอนให้สังเกต ให้เชคความรู้สึก และให้สรุปได้ด้วยตนเอง)

9.55  กิจกรรมเข้าจังหวะ  ให้เด็กลุกจากโต๊ะ มา เล่นเกมส์ไม้กระดานกระดก โดยจับคู่กัน    คนหนึ่งยืน คนหนึ่งนั่งสลับกัน ครูใช้ แทมบูลินให้จังหวะ  เด็กเล่นสองสามรอบ  พอยืดเส้นยืดสาย   หลังจากนั่งมาเกือบครึ่งชั่วโมง  (เด็กสนุกสนาน  รู้จักฟังจังหวะ แบ่งหน้าที่กันนั่งและยืนอย่างถูกต้อง  ได้มิติสัมพันธ์  ตาดูหูฟัง ตามจังหวะที่ครูเคาะ และข้อสำคัญสนุก )

10.00 ครูบอกให้เด็กกลับมานั่งล้อมวงเหมือนเดิม   โดยให้หันไปทางเดียวกัน  ให้นวดไหล่ให้เพื่อน  แล้วให้กลับหลังหัน  นวดให้เพื่อนอีกคนหนึ่ง  เอานิ้วเขียนหลังเพื่อนเป็นตัว L O V E และเป็นรูปหัวใจ  ออกเสียงคำว่า Love   c]h;  เล่น brain gym เอามือซ้ายจับหู มือขวาจับจมูกสลับไปมา    แล้วครูให้เด็กดูนาฬิกา ถามว่า What time is it  เด็กตอบว่า  It is ten o’clock  เป็นอันว่าจบช่วงเช้า เด็กออกไปล้างมือเข้าห้องน้ำ และดื่มนม (ได้เรื่องอ่านเวลา  ได้เรื่องการฟังคำถามและการตอบเป็นภาษาอังกฤษ)

เสียดายที่วันนี้ไม่ได้เอากล้องถ่ายรูปเข้าไปถ่ายกิจกรรมต่างๆ ในห้องเรียน   อ่านแล้ว รู้สึกอัศจรรย์ใจเหมือนแม่ใหญ่ไหมคะว่า  ในเวลาหนึ่งชั่วโมงครูนุชสอนเด็กได้มากมายจริงๆ  ล้วนแล้วแต่เป็นพื้นฐานที่เด็กๆจะได้นำไปใช้ในชีวิตประจำวันทั้งสิ้น   แม่ใหญ่ภูมิใจในครูนุชมากนะ ขอปรบมือดังๆ   และหวังว่าครูอื่นๆคงได้ไอเดียเอาไปปรับใช้ในห้องของตัวเองบ้างนะคะ

หมายเลขบันทึก: 469221เขียนเมื่อ 24 พฤศจิกายน 2011 12:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 23:58 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

สวัสดีครับ

คุณครูแม่ใหญ่ เห็นเรื่องดีๆ ในนี้เพียบเลยนะครับ..

เห็นการเสริมความรู้ของคุณครูแก่เด็กๆ...

ผมขชอบตรงที่คุณครูเรียกชื่อเด็ก และกล่าวชมเด็กความดีของเด็กนะครับ หมายถึงว่า คุณครูท่านนี้กำลังทำสิ่งที่เรียกว่าเป็นจิตวิทยาบวก (Positive Psychology) ในรูปแบบการประเมิน (Appreciative Evaluation) เลยครับ..

ตรงนี้ KM อาจทำได้ง่ายๆโดย พิพม์หน้านี้ ที่เป็นข้อสังเกตของคุณครูแม่ใหญ่ ให้คุณครูท่านอื่นๆดู จัดเป็นวงเล็กๆก็ได้ นั่งล้อมลงกัน..แล้วถามว่าที่อ่านมา "ชอบตรงจุดไหน"

เช่นถ้าชอบแบบเดียวกับที่ผมชอบ คืออ่านชื่อแล้วชมเด็ก..ก็ลองไปทำดูเลย..ยั่งงี้นะครับ..

หรืออาจถามว่า..มีเทคนิคที่น่าสนใจแบบอื่นๆ ที่พอเทียบเคียงได้ไหม..ช่วยเล่าหน่อย..

เมื่อเล่าแล้ว อาจลองเอาไปทำดูแล้วเอามาเล่าสู่กันฟังครับ

ที่สำคัฐที่คุณแม่ใหญ่พูดว่า "เด็กได้เรียนรู้อย่างมากมายแบบลื่นไหลนั้น" แสดงว่าเด็กกำลังเข้าสู่ "ภาวะลื่นไหล (Flow)"

Flow เป็นภาวะที่ถือว่าทำให้คนเกิดการเรียนรู้ มากที่สุด..ทำให้เกิดการเติบโตได้ดีที่สุด..

นี่แสดงว่ามีอะไรดีๆซ่อนเร้นอยู่ในกิจกรรมของคุณครูครับ...

Flow เป็นทฤษฎีจิตวิทยาบวกที่สำคัญมากๆครับ..ที่สุดเลยมาจากหนังสือ Flow: The Psychology of Optimal Experience ครับ..

คนจะเกิดภาวะ Flow ก็ต่อเมื่ออยู่ในภาวะ ที่ทักษะและความท้าทายสมดุลย์กัน..นั่นหมายถึงคุณครูท่านนี้รู้ทฤษฎี Flow โดยธรรมชาติครับ...

น่าสนใจนะครับ...

ผมเขียนเรื่อง The Flow Theory ไว้ที่นี่ครับ

http://www.gotoknow.org/blogs/posts/468809

เห็นแล้วน่าต่อยอดนะครับ..ผมว่าเด่นมากๆครับ กับคุณครูที่นี่..

ขอบคุณอาจารย์เป็นอย่างสูงนะคะ ที่ให้คำแนะนำ ได้บอกคณะครูแล้วว่าจะเชิญอาจารย์มาบรรยายเรื่อง AI ให้คุณครูฟังในช่วงการประชุมประจำเดือน ไว้จะติดต่ออาจารย์โดยตรงอีกครั้งหลังปีใหม่ค่ะ

AI ได้ทุกเรื่องได้ทุกที่

การเรียนรู้ ที่ลื่นไหลด้วยใจพร้อมเรียนรู้ สอนโดยไมาสอน บอกโดยไม่บอก

บอกจริงๆ

ขอบคุณอาจารย์ทั้งสอง ที่นำสิ่งดีๆออกมาอวดกัน

(เคยคิดท้อถอย กับพัทลุง เพราะตั้งวงต่อสู้คัดค้านร้านค้า ห้างใหญ่ๆ สุดท้ายก็พ่ายแพ้

แต่พออาจารย์ ภิญญโญ จุดประกายเรื่อง ซุบเปอร์ชิพ ที่ภูเก็ต...ความดี คิดออก คิดเห็นช่องทาง เห็นของดีๆสิ่งดีๆที่มีอยู่ ตั้งวงคุยได้ความคิด สู่การสร้างเมืองลุงให้น่าอยู่ ตามวิสัยทัศน์ จังหวัด)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท