ปล่อยเวลาเนิ่นนานล่วงเลยมานับหนึ่งเทอมการเรียนของลูกชาย
จึงมีโอกาสพาลูกชายสุดที่รักไปเที่ยว
แต่ก็ไม่วายที่จะต้องไปทำหลายสิ่งหลายอย่างพร้อมกันในการเดินทางครั้งนี้
ไปเที่ยว...งานแต่งงาน...เยี่ยมเพื่อน...เยี่ยมคลอด...
บางครั้งชีวิตของผมแยกไม่ได้ว่า...อะไรจำเป็นหรือไม่จำเป็น
แต่ก็ใช้ความรู้สึก...การรับรู้...หน้าที่...และการมีเหตุผล
เพื่อประกอบการตัดสินใจให้ชีวิตดำเนินต่อไป
และหลายสิ่งหลายอย่างที่มองย้อนหลังชีวิตที่ผ่านมา
พบว่า...เงื่อนไขแห่งการเวลา...เป็นสิ่งสำคัญ
ในการรับรู้....ที่ไม่เหมือนเดิม
เหมือนตอนเด็ก...
สนามฟุตบอลโรงเรียนของผม...ทำไมกว้างขวางใหญ่โตจัง...ตอนอยู่ประมาณปอสี่...คุณครูพละให้วิ่งรอบสนาม...ผมมองไปข้างหน้าอย่างปิดประตูที่จะมองเห็นเส้นชัย...ทั้ง ๆ แสงแดดส่องสว่างประกาย...พอเข้าโค้งสุดท้าย...เลือดกำเดาก็ไหล....ผมมองเห็นคุณครูบอกให้รีบวิ่งเข้า...และรอรับไปปฐมพยาบาล
คุณครูพละตอนนั้นตัวโตจังครับ...ผมเข้าแถวตอนกับเพื่อน ๆ ผมไม่กล้าเหลียวมอง และไม่กล้ากระดุดกระดิก นิ่งๆ เงียบๆ...กลัวสายนกกวีด...ตวัดเข้าแขนและขา...แต่ตอนนี้...เมื่อมาพบครู...ครูแก่ตัวไปมาก...แต่รู้สึกว่าครูใจดี
และเหมือนการท่องเที่ยวตอนเด็ก ๆ การออกไปฝึกงาน หรือการออกค่ายอาสาไปทำงานในหมู่บ้านกับเพื่อน ๆ ผมรู้สึกว่า...ผมมีความสุขจังเลย...ถึงแม้พวกเราไม่มีเงิน...ความเป็นอยู่...การกินก็ไม่สะดวกสบาย...เหมือนทุกวันนี้ที่พอมีเงินบ้าง...แต่ก็รู้สึกว่าตอนนั้น...มีความสุขเหลือเกิน...กับการโบกรถ....และการกินบะหมี่สำเร็จรูป
ทิมดาบมาสวนน้ำแห่งนี้...3 ครั้ง...ครั้งแรก....ใส่ชุดว่ายน้ำ แต่ไม่ยอมลงสระ ให้ผมอุ้มเดินรอบ ๆ บริเวณ และยอมให้เอาขาจุ่มลงน้ำ พร้อมรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ....ครั้งที่สอง...กล้าลงสระ แต่ไม่ไปไหนไกลจากอ้อมอกพ่อและแม่...ครั้งนี้...ว่ายน้ำไปไกล...ไม่ห่วงพ่อกับแม่แล้ว
ผมไม่ค่อยได้สั่งสอนลูกชายมากนัก...แต่อยากให้ลูกชายรับรู้ความรู้สึกของตนเองและผู้อื่น
ใช้ความรู้สึก...การรับรู้...หน้าที่...และการมีเหตุผล
เพื่อประกอบการตัดสินใจให้ชีวิตดำเนินต่อไป
ถ้าผมให้พรวิเศษกับลูกชายได้...ผมขอภาวนาว่า...
ขอให้โลกของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยคนที่เขาคิดถึงและรักตลอดเวลา...
ไม่มีความเห็น