ความเหงา… ที่เกิดจากน้ำท่วม
สภาวะน้ำท่วมปีนี้ สาหัสสากรรจ์ ปานใด พวกเราทุกคนคงได้รับรู้กันดีในรูปแบบสื่อต่างๆ ได้ยินได้ฟังอยู่ทุกวัน
สำหรับผมแล้วถึงแม้ว่าตอนนี้น้องน้ำยังหลากมาไม่ถึง (ปัจจุบันผมพำนักอยู่ที่สมุทรสาคร) ซึ่งเป็นปราการด่านสุดท้าย ที่มีสิทธิ์ที่จะท่วม (หรืออาจจะไม่ท่วม)
แต่จากการได้รับฟังข่าว และประเมินสถานการณ์ อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผมต้องตัดสินใจ ให้ภรรยาและแมวเหมียวจำนวน 13 ตัว สัตว์เลี้ยงของผมไปลี้ภัยอยู่ในที่ที่ปลอดภัย ก่อนน้องน้ำจะมาถึง เป้าหมายคือบ้านเกิดของภรรยา โนนเสลา อ. ภูเขียว จ. ชัยภูมิ
รวมทั้งรถยนต์ ซึ่งเป็นแข้งและขา ของเราก็เกรงว่าถ้าน้ำมาก็จะจมไปด้วย ก็เอาไปจอดทิ้งไว้ที่บ้านเกิด ในวันที่ได้กลับไปหาลูกสาวคนเดียว ซึ่งเรียนอยู่ที่ จ. สุรินทร์
จากนั้นก็เดินทางกลับมาแต่ตัว เพื่อกลับมาทำงานประจำที่ในปัจจุบันยังดำเนินการผลิตอยู่ได้ตามปกติ การกลับมาอยู่บ้านคนเดียว... มันทำให้ผมได้รับรู้ถึงความเหงา...
ที่ต้องนอนคนเดียว...กินคนเดียว ถึงแม้ว่าจะหาอะไรทำเช่นท่องอินเทอร์เนต ฟังเพลง ดู ทีวี เขียนหนังสือ แต่ลึกๆมันก็ไม่อาจทำให้ผมหายเหงาได้ ...
อาจเป็นเพราะว่าผมคงไม่ชินกับการอยู่คนเดียวมานานหลายปี เลยทำให้เข้าใจใครหลายๆคนมากขึ้นที่เขาบอกว่าเขาเหงานั้นมันเป็นเยี่ยงนี้นี่เอง...
ผมได้แต่หวังว่าน้องน้ำมันจะผ่านมาถึงและลงทะเลไปในเร็ววัน รอมาจนเบื่อแล้ว (ฮ่าๆๆๆ) รวมทั้งพัดพาความเหงาของผมทิ้งลงทะเลไปด้วย...
คิดถึงเจ้าแมวเหมียวจังครับ
มีผู้ทำผลงานวิจัยเกี่ยวกับประโยชน์ของบล็อกต่อการศึกษาหรือไม่ครับ
อยากทราบความเคลื่อนไหวทางด้านนี้
ดีใจด้วยครับ ที่ทุกคนปลอดภัยและน้ำไม่ท่วม แต่เหงาบ้างก็ช่างมันเถอะ หาอะไรทำเดี๋ยวก็หาย ไปช่วยคนที่จมน้ำก็ได้เป็นกำลังใจให้ครับ
เรียน อ. โสภณ บอกตามตรงไม่ทราบจริงๆครับว่ามีใครบ้าง และใครทำตรงจุดนี้บ้างวานบอกทีครับ
วันพรุ่งนี้วันอาทิตย์ จะรวมตัวกับเพื่อนๆไปช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมครับ อ. สันติสุข
ไปคลายเงาที่กองทัพบก และช่อง 3 มาครับ
อันนี้ ช่อง 3ครับ ที่อาคารมาลีนนท์
เป็นกำลังใจให้ค่ะ ขอให้ผ่านพ้นไปด้วยดีนะคะ
ขอบคุณครับพี่ใหญ่