การไปจับภาพการจัดการความรู้ที่ อำเภอปาย จ.แม่ฮ่องสอน ได้พบกับชุมชนเรียนรู้ 3 แบบ 3 สไตล์ คือ
- ชุมชนจัดการท่องเที่ยวจีนยูนนานบ้านสันติชล
- กลุ่มสร้างสรรค์สื่อวิทยุชุมชนเพื่อคนเมืองปาย
- ศบอ.ปายกับการสร้างเสริมอาชีพแก้จนชุมชนเรียนรู้ ต.เวียงเหนือ
![]() |
![]() |
ที่บ้านสันติชล เป็นชุมชนจัดการตนเอง ที่สามารถลบภาพชุมชนที่น่ากลัวในอดีตให้กลายเป็นชุมชนท่องเที่ยวที่นำเสนอเอกลักษณ์ วัฒนธรรม ของชาวจีนยูนนานอันเป็นรากฐานของชุมชนมาเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยว และยังใช้กิจกรรมท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือของการพัฒนาชุมชนไปพร้อมกัน ทั้งด้านการฟื้นฟู อนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมจีนยูนนาน การพัฒนาอาชีพ ที่ส่งเสริมชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชุมชน ที่เป็นเช่นนี้ได้ เพราะ
- ชาวบ้านสันติชลมีเป้าหมายร่วมกันที่จะ สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของชุมชนที่เคยน่ากลัวให้กลายชุมชนสงบและปลอดภัย
- ชุมชนบ้านสันติชลมีผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ ทำหน้าที่เป็นทั้งผู้นำ ผู้ดูแล และผู้สนับสนุน รับฟังความคิดเห็น ยึดประโยชน์ของคนในชุมชนเป็นหลัก จึงพยายามเชื่อมโยงภายนอก หน่วยงานทหาร หน่วยราชการอื่น และหน่วยงานพัฒนาต่าง ๆ ที่จะทำให้บ้านสันติชล ประกาศตัวตนต่อภายนอกว่าเป็นชุมชนปลอดยาเสพติดและปลอดภัยสร้างความมั่นใจกับนักท่องเที่ยว ค้นหา ส่งเสริมศักยภาพเศรษฐกิจชุมชน เช่น การแปรรูปถั่วเหลือง
- มีโครงสร้างการจัดการภายในชุมชนที่เน้นการดูแลช่วยเหลือกัน ดังที่ คุณบุญหล่อ หล่ออริยวัฒน์ ผู้นำชุมชน กล่าวว่า “บ้านสันติชล” เหมือนครอบครัวใหญ่ 190 ครัวเรือน 1,070 คน ผู้นำชุมชนเปรียบเหมือนพ่อบ้านซึ่งอาจดูแลไม่ทั่วถึง จึงมีการคัดเลือก “ผู้ช่วยผู้นำ”มาเป็นหัวขบวนในการดูแลชุมชนในด้านต่าง ๆ อีก 4 คน เช่น ด้านสวัสดิการ ด้านความปลอดภัย เป็นต้น มีทีมคณะกรรมการหมู่บ้าน 13 คน ที่แต่ละคนก็จะดูแล 10 กว่าครอบครัว เป็นการดูแลและจัดการช่วยเหลือกันภายในชุมชนซึ่งพวกเขาบอกว่า “เราเป็นครอบครัวใหญ่ใครคนใดคนหนึ่งเดือดร้อนทุกคนก็เดือดร้อนด้วย” แสดงถึงความใส่ใจและมีความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกัน และช่วยเหลือกัน"
![]() |
แต่ละเดือนมีการรายงานผลความคืบหน้า การแก้ปัญหา หรือเสนอความต้องการของชุมชน ในเวทีประชุม สรุปร่วมกันแล้วกลับไปดำเนินการต่อเป็นวงจรต่อเนื่อง การประชุมแต่ละครั้งเป็นเวทีการมาพบปะ พูดคุย รายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานในด้านต่าง ๆ เหมือนกับการ update เรื่องราวของชุมชน ซึ่งทุกครั้งก็จะมีการบันทึกว่าคุยกันเรื่องอะไร ได้ผลสรุปอย่างไร และจะกลับไปทำอะไรต่อ
ที่สันติชลยังมีลานกลางบ้านหรือลานประชาคมที่คนในชุมชนจะมารวมตัวกันเพื่อให้ความเห็นในเรื่องต่าง ๆ ที่ต้องการข้อสรุปร่วมกัน นอกเหนือจากช่องทางผ่านกรรมการหมู่บ้านและผู้ช่วยผู้นำผู้นำและแกนนำชุมชนทำหน้าที่ออกไปเชื่อมโยงความร่วมมือจากภายนอก
- ยกระดับความรู้เก่า นำเข้าความรู้ใหม่ ประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาชุมชน
- การท่องเที่ยวชุมชนเกิดขึ้นจากการไปดูงานบ้านรักไทย แล้วเห็นนักท่องเที่ยวมาเยอะ ก็ไปถามว่านักท่องเที่ยวมาทำอะไร มาดูอะไรก็พบว่าเขามากินอาหารจีน ซื้อของที่ระลึก จึงสั่งมาชิมทุกอย่างหมด แล้วบอกว่าแบบนี้สันติชลน่าจะทำได้ จึงนำมาสู่การค้นหาองค์ความรู้ของชุมชน และพัฒนาจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ ทั้งการทำซุ้มประตูที่ใช้แรงงานกว่า 3 พันคนช่วยกันสร้างในเวลา 72 วัน (น่าเสียดายที่ถูกน้ำหลากเสียหายไปเมื่อปีก่อน) เพื่อพิสูจน์ตัวตน ธรรมชาติวิถีคนจีนยูนนาน และทำการเปิดประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่าบ้านสันติชลปลอดยาและปลอดภัย จากหมู่บ้านที่น่ากลัวที่สุดกลายมาเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวได้
- ไม่ได้หยุดเพียงเท่านั้นยังคิดและพัฒนาต่อเนื่องร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ สกว. สำนักงานภาค หน่วยประสานงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นแม่ฮ่องสอนที่ติดตามและพัฒนาโจทย์วิจัยเพื่อสร้างองค์ความรู้ที่เป็นความต้องการของชุมชน เช่น การแปรรูปถั่วเหลือง จากการนำมาทำเต้าหู้กินในครัวเรือน ก็แปรรูปและขายเป็นขนม ของฝาก การพัฒนาจุดแสดงวิถีวัฒนธรรมจีนยูนนาน เป็นลานประชาคม เวทีการแสดง และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของชุมชน และเป็นแหล่งท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวอีกด้วย
![]() |
![]() |
จะเห็นว่าชุมชนบ้านสันติชลสามารถเปลี่ยนแปลงได้เป็นผลสำเร็จมาจากความร่วมมือร่วมใจของคนในหมู่บ้านที่มีเป้าหมายร่วมกัน ดังที่ ผู้นำชุมชนกล่าวว่า บ้านสันติชล "ทำได้เพราะใจ" ดังที่ได้ตั้งปณิธานไว้ สิ่งที่ภูมิใจที่สุดคือ ชาวบ้านได้อยู่กันอย่างสงบ และเป็นหมู่บ้านที่ปลอดภัย สามารถสร้างอาชีพหลากหลายให้กับพี่น้องสันติชล ได้แก่ กลุ่มเลี้ยงไก่ ปลูกผัก เน้นผักปลอดสารพิษ เย็บปักถักร้อย สานรองเท้าจีน แปรรูปอาหาร เป็นต้น เห็นการเปลี่ยนแปลงในชุมชนที่มีการรวมกลุ่มกันทำกิจกรรมอาชีพมากขึ้นในชุมชน คนในชุมชนเอาใจใส่ซึ่งกันและกันมากขึ้น มีการฟื้นฟูชิงช้าจีนยูนนาน ดนตรียูนนาน และก็จัดให้มีการแสดงเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วย
เมื่อการท่องเที่ยวเป็นการจัดการของชุมชน สันติชลมีการจัดการดูแลนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัย นี่คือผลลัพธ์ที่มาจากการมีเป้าหมายร่วมกันและนำไปสู่การจัดการและเรียนรู้ร่วมกันในทุกเรื่องเพื่อให้อยู่อย่างมีคุณค่าและศักดิ์ศรีบนผืนแผ่นดินไทยเช่นเดียวกับคนไทยทั่วไป