อ่านข่าวพบอาจารย์และนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี สาขาวิชาเทคโนโลยีไปฟ้า คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม จัดทีมออกไปช่วยเหลือซ่อมแซมอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ถูกน้ำท่วมให้กับชาวบ้านเป็นรายชุมชน/หมู่บ้าน โดยประชาสัมพันธ์บอกล่วงหน้าว่าจะไปวันใด แล้วให้แต่ละบ้านนำอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ถูกน้ำท่วมมากองรวมกันเป็นจุด แล้วคณะนักศึกษาก็จะพากันไปซ่อมให้(ฟรี) อ่านแล้วก็ชื่นใจ
เลยอยากเสนอแนะทางกระทรวงศึกษาธิการ ว่า ไม่น่าจะปล่อยให้แต่ละสถาบันทำงานกันอย่างโดดเดี่ยว แต่น่าจะทำเป็นนโยบายระดับกระทรวง โดยให้มีโครงการทำนองนี้ อย่างเป็นระบบคลอบคลุมทุกพื้นที่ หลังน้ำลด โดยประสานงานกับสถาบันที่เปิดสอนสาขาอาชีวศึกษาทุกแห่งทั่วประเทศ ทั้งระดับมหาวิทยาลัย(อุดมศึกษา)และระดับ ปวช.,ปวส.(อาชีวศึกษา) รวมทั้งสถาบันอาชีวศึกษาเอกชน ให้จัดทำmapping รับผิดชอบดูแลแต่ละตำบล/หมู่บ้าน/อบต./เทศบาล/แขวง/เขตฯลฯ อย่างเป็นระบบเครือข่ายเป็นสาขา/แผนกที่จะให้บริการทุกสาขา ไม่ใช่เพียงสาขาไฟฟ้า อีเลคโทรนิคอย่างเดียว แม้แต่ด้านเกษตร หรือด้านอื่นๆที่จำเป็นก็สามารถทำได้ เพื่อจะได้จัดอาจารย์และนักศึกษาไปช่วยเหลือดูแล ซ่อมแซม ให้ความรู้แก่ชาวบ้านหลังน้ำลดได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ
โดยให้มีระบบเครือข่ายประชาสัมพันธ์ผ่านจังหวัด/อำเภอ/หมู่บ้าน/ อปท.ให้มีส่วนช่วยประสานงานไปแต่ละชุมชน/อปท. ในหมู่บ้านต่างๆเขาจะมีคณะกรรมการหมู่บ้าน ก็ประสานงานผ่านคณะกรรมการหรือแกนนำของเขาอีกทางหนึ่งด้วย
รวมทั้งประสานงานร้านค้าอุปกรณ์ต่างๆ(ถ้าจำเป็นต้องเปลี่ยน)เพื่อสะดวกต่อการจัดซื้อ/หาในแต่ละชุมชนด้วย
ผมคิดว่าถ้ากระทรวงศึกษาธิการและสถาบันที่ผลิตนักเรียนนักศึกษาสายอาชีพลงไปทำงานด้วยจิตอาสาเช่นนี้ ก็จะเป็นการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง จะเพิ่มสมรรถนะให้นักศึกษาทั้งด้านความรู้และด้านจิตใจ ซึ่งเป็นการจัดการศึกษาเพื่อชีวิตและสังคมอย่างแท้จริง
ถ้าทำได้จริงคงดีไม่น้อยค่ะ
ใช่แล้ว.. แม้แต่สายอุตสาหกรรมบริการฯของคุณขจิตก็ช่วยได้ ถึงจะเกิดวิกฤติ เราก็สามารถพลิกเป็นโอกาสในการพัฒนาจิตสำนึกของคนไทยในเรื่องการมีจิตอาสา จิตสาธารณะ ฯลฯ ขึ้นมาได้ครับ
จิตอาสา ช่วยพัฒนาชีวิตและสังคมอย่างแท้จริงค่ะ