การเข้มงวดกวดขันกับลูกมากเกินไป แย่พอๆกับการตามใจจนลูกเสียเด็ก พ่อแม่ที่เข้มงวดกับลูกมาก ส่วนใหญ่มักจะคาดหวังให้ลูกทำตามคำสั่งของตนเองแต่โดยดี ไม่มีข้อโต้แย้ง และชอบให้เป็นเด็กว่านอนสอนง่าย เชื่อฟังทุกๆเรื่อง และถ้าเด็กอธิบายเหตุผลของเขา ผู้ใหญ่จะบอกว่า "เป็นเด็กอย่าเถียงผู้ใหญ่ ไม่ดี ไม่น่ารัก" หลายๆครั้งที่พ่อแม่หลงลืมไปว่า ลูกๆก็มีความคิดเหมือนกัน
เราต้องให้โอกาสและยอมรับฟังความคิดของลูก แม้ว่าอาจจะดูไม่สมเหตุสมผล แต่มันจะเป็นการดีมาก ถ้าหากเราสอนให้ลูกรู้จักการคิด การแสดงออก ความคิดจะไม่ถูกจำกัด เด็กจะรู้ว่าไม่ได้ถูกต่อต้าน
แต่ในความเป็นจริง พ่อแม่จะต้องมีการกำหนดขอบเขตและกติกาของการอยู่ร่วมกัน ทั้งแบบยืดหยุ่นและแบบจริงจัง และกติกานั้นต้องมีการยอมรับทั้งสองฝ่ายนะคะ เช่น ลูกต้องทำการบ้านด้วยตนเองให้เสร็จก่อนจึงดูทีวีได้ แปรงฟันก่อนจึงรับประทานอาหารได้ รักษาคำสัญญาที่มีต่อกันอย่างจริงจัง
เด็กๆไม่ชอบการบังคับ หรือข่มขู่ บรรยากาศที่เป็นมิตร และต้องมีสติให้มากสำหรับคนที่เป็นพ่อแม่ เพราะลูกสามารถเรียนรู้พ่อแม่ในทุกๆประเด็นเพื่อให้เกิดการยอมรับในสิ่งที่เขาทำ ดังนั้น หากเรื่องบางเรื่องที่ต้องเข้มงวด เพราะมันเป็นอันตรายถึงชีวิต ก็ไม่สามารถยืดหยุ่นได้ เช่น การข้ามถนนคนเดียว การเล่นของมีคม เป็นต้น
การแก้ไขความเข้มงวดกับลูก ด้วยการร่วมสร้างกติกาให้เกิดการยอมรับ ตั้งแต่เด็กๆ จะเป็นสิ่งดีดีที่เกิดขึ้นในครอบครัวของเรานะคะ เพราะฉะนั้นความรักเพียงอย่างเดียวไม่พอนะคะ การเลี้ยงลูกอย่างไม่ตามใจ จนลูกเสียคน ก็ต้องพิจารณาด้วยคะ
การไปด้วยกันแบบเข้าใจน่ะ อ่านดูแล้วก็คิดว่าพ่อแม่รักลูกกันทั้งนั้น คงแล้วแต่สไตล์กระมัง
การเลี้ยงลูกไม่มีรูปแบบที่ชัดเจนหรอกค่ะ ข้อคิดเห็น คือ พ่อแม่ควรมีวิธีการที่ใหม่ๆ ไว้จัดการกับความคิดของตัวเอง และลูก เพราะเด็กที่สามารถคิดอะไรได้เอง ยอมรับในเหตุผลและกติกาของครอบครัว เมื่อเติบโตขึ้น เด็กน่าจะมีความรับผิดชอบและเชื่อมั่นในตนเองค่ะ