พัฒนาการของลูกในการตั้งคำถามเพื่อคลายความวิตกกังวล

ลูกสาวอายุประมาณ  9 ปี ชื่อว่า ยูโร เป็นเด็กที่มีทักษะการใช้คำถาม ที่กล้าใช้ความต่อเนื่องของคำถามในการสืบเสาะ ซึ่งได้รับอิทธืพลจากผู้ที่เป็นบิดา โดยเขาสังเกตุข่าวทุก ๆ วัน ก็มีแต่เหตุการน้ำท่วม เขาสงสัยว่าน้ำปริมาณที่มากมายนั้นมาจากใหน ทั้ง ๆ ที่มาของน้ำมันไม่ใช่ทะเล... แปลกมาก

 ๑.ลูกถาม   น้ำที่มากเกิดจากอะไรค่ะ

๒.พ่อตอบง่าย ๆ  ว่าเกิดจากฝน

๓.เป็นฝนที่ตกจากท้องฟ้าใช่หรือไม่ (ประสบการณ์ : เขากำลังเข้าใจแล้วว่าฝนคือน้ำที่ตกจากที่สูง และที่สูงนั้นคือท้องฟ้า เพราะเขาเคยนำน้ำประปา ฉีดจากสายยางแล้วถามพ่อว่าแบบนี้เป็นฝนตกหรือไม่ พ่อเคยตอบว่า ไม่ใช่) คำถามจึงเป็นคำถามยืนยันประสบการณ์

๔. แล้วท้องฟ้ามีน้ำมากมายได้อย่างไร ... พ่อตอบว่า เกิดจากลมพัดเอามวลน้ำมหาศาลมาไงล่ะ

๕. มวลน้ำคืออะไรค่ะ... พ่อตอบว่า มวลน้ำคือน้ำที่ระเหยจากแหล่งน้ำต่างลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า

๖.ระเหยคืออะไรคะ... โดยปกติน้ำจะเป็นของเหลวไหลได้ เมื่อได้รับความร้อนถึงจุดที่มันจะต้องแปรสภาพเป็นไอน้ำ

๗. ไอน้ำคืออะไรค่ะ... ไอน้ำก็เป็นน้ำที่มีขนาดเล็ก ๆ มาก ๆ และมีพลังงานมากพอที่จะลอยขึ้นท้องฟ้าได้ไงล่ะ

๘.พลังงานอะไรค่ะ... พลังงานความร้อนที่ทำให้น้ำมีความเบาบางลงอย่างมากกว่ามวลอากาศที่อยู่รอบ ๆ ความเบาบางนี้แหล่ะที่พาให้ไอน้ำลอยตัวสูงขึ้น

๙.แล้วหนูเคยเห็นไอน้ำไหม... ลูกตอบ ไม่เคยค่ะ (พ่อพาไปที่ครัว ตักน้ำใส่กาต้มน้ำเก่า ๆ แล้วตั้งที่เตาแก๊ส เร่งความร้อนเต็มที่)

๑๐.พ่อต้มน้ำทำไม... พ่อกำลังที่จะให้ลูกดูไอน้ำไงล่ะ

๑๑.พ่อค่ะ ไม่เห็นมีอะไรเลย นอกจากเสียงน้ำกับเสียงของเตาแก๊ส ค่ะ... ช่วยพ่อปิดหน่าต่างหน่อยซิ แล้วหยิบไปฉายมาด้วย เอามาทำไมค่ะ... เดี๋ยวลูกจะได้เห็นสิ่งมหัศจรรย์...(พ่อนำไฟฉายส่องแสงไปยังปลายกาต้มน้ำจนพบลำแสงมีการกระเจิงของแสง)

๑๒.ลูกถามว่าอะอองเล็ก ๆ นั้นคืออะไรค่ะ... พ่อตอบว่า หยดน้ำ...

๑๓.ไหนพ่อบอกว่าจะทำไอน้ำให้ลูกดูไงค่ะ... ถูกต้องแล้ว ไอน้ำละอองเล็กมาก มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่ที่เราเห็นนั้นเป็นไอน้ำที่เปลี่ยนกลับมาเป็นหยดน้ำคืนแล้วไงล่ะ

๑๔. แต่หนูก็งง ว่าทะเลไม่มีเตาแก๊ส แล้วความร้อนที่มากจนทำให้น้ำทะเลเปลี่ยนเป็นไอน้ำละพ่อ... พ่อตอบว่า ดวงอาทิตย์ไงล่ะ... (โดยธรรมชาติเด็กจะเอาประสบการตรงของเตาแก๊สที่พ่อพิสูจน์นั้นมาเป็นตัวกลางตรรกะแห่งการเปรียบเทียบเพื่อนำหรือชักความรู้ใหม่ที่ได้)

๑๕.หนูเหนื่อแล้ว... แต่ก็สงสัยว่าน้ำลอยมายังฝั่งได้อย่างไร... ก็ลมไงเป็นเหตุที่นำมา

๑๖.ลมคืออะไรค่ะ ... ลมก็คือมวลอากาศที่เคลื่อนที่จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้

๑๗.แล้วมันเคลื่อนที่ได้อย่างไร... อากาศจะเคลื่อนที่จากบริเวณที่มีความดันอากาศสูงไปยังบริเวณที่มีความดันอากาศต่ำ ความดันอากาศในทางอุตุนิยมวิทยาเรียกว่า ความกดอากาศไง...

๑๘. อุตุ... ยม ยมม คืออะไรค่ะ ... พูดตามพ่อน่ะ อุ-ตุ-นิ-ยม-วิด-ทะ-ยา หมายถึงวิชาที่ว่าด้วยเรื่องน้ำฟ้าและบรรยากาศไง... งง

๑๙.เอาเป็นว่าลมทำให้เกิดฝนได้ใช่ไหมค่ะ... เก่งมากลูก ถูกต้องเลย

๒๐.นักวิทยาศาสตร์จึงสามารถคำนวณปริมาณน้ำฝนจากความเกี่ยวข้องของ อุณหภูมิ ความชื้น ลม ระยะทาง ความเร็ว และองค์ประกอบด้านดวงดาว ที่ทำให้มวลน้ำบนท้องฟ้าแปรเปลี่ยนไป จนสามารถที่จะพยากรณ์ล่วงหน้าได้ว่าฝนจะตกมากน้อยเพียงใด ปริมาณน้ำบนผิวดินก็จะสัมพันธ์กับการเกิดฝน ถ้าฝนตกติดต่อกันนาน ๆ ปริมาณน้ำที่ผิวดินก็จะมากตามไปด้วย น้ำที่ผิวดินที่มากก็จะไหลไปรวมกัน ณ บริเวณที่ต่ำกว่าเสมอ ไหลลงสู่แม่น้ำ และกลับคืนสูทะเลในที่สุด  กลายเป็นวนเวียนของน้ำที่เรียกว่า วัฎจักของน้ำในบรรยากาศของโลกนั่นไง...

๒๑. ฮ่า... รู้แล้ว... มันทำไมซับซ้อนจัง...