จะเป็นข้าราชการต้องสอบ, ศาสนพิธีสำหรับครูและผู้บริหาร จบ


ประเด็นที่น่าสนใจในการประเคนพระ และการสวดมนต์ไหว้พระและพิธีสงฆ์ในชีวิตประจำวัน, จะเป็นข้าราชการประจำ กศน.ตำบล คน กศน.ต้องช่วยกันให้ พ.ร.บ.การศึกษาตลอดชีวิตผ่าน

สัปดาห์นี้มีเรื่องที่คิดว่าน่าสนใจ ขอเลือกมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 2 เรื่อง ดังนี้

 

         1.  สัปดาหที่แล้ว กศน.อ.ผักไห่ยังปิดทำการเพราะน้ำท่วม ( เพิ่งเปิดทำการเมื่อ 1 พ.ย.54  ตอนนี้เทศบาลได้ซ่อมคันกั้นและสูบน้ำออกให้ จึงเข้าไปที่อาคารสำนักงานได้ )    ผมจึงมีเวลาเรียนวิชา “ศาสนพิธีสำหรับครูและผู้บริหาร” ทางเว็บไซต์ GURU Online ต่อ ในบทที่ 4 เรื่อง “การประเคนพระ” และบทที่ 5 ( จบ ) เรื่อง “การสวดมนต์ไหว้พระและพิธีสงฆ์ในชีวิตประจำวัน”    มีประเด็นที่น่าสนใจ เช่น

             บทที่ 4  การประเคนพระ

             วิธีประเคน  

             ชาย  นั่งคุกเข่าหรือยืนตามความเหมาะสมแก่สถานการณ์ ยกสิ่งของด้วยมือทั้งสองข้างให้พ้นจากพื้น ส่งถวายถึงมือพระ ไม่เสือกไสไป

             หญิง  นั่งท่าราบหรือท่าเทพธิดา  หรือยืนตามความเหมาะสมแก่สถานการณ์ ยกสิ่งของด้วยมือทั้งสองข้าง สังเกตว่าพระจับชายผ้าที่ทอดรับประเคนอยู่จึงจะวางสิ่งของนั้นลงบนผ้าที่รับประเคน ( ใช้บาตรหรือจานรับก็ได้ )   ภัตตาหารทุกชนิดที่ประเคนแล้วหากฆราวาสไปจับต้องอีกถือว่าขาดประเคน จะต้องประเคนใหม่

             เมื่อประเคนเสร็จแล้ว ทั้งหญิงและชาย ต้องน้อมตัวยกมือไหว้ 1 ครั้ง โดยให้นิ้วหัวแม่มือจรดระหว่างคิ้ว และน้อมตัวลงค่อนข้างมากเป็นอันเสร็จพิธีการประเคนพระ   เมื่อประเคนเสร็จจะลาพระ  ถ้านั่งกับพื้นให้กราบเบญจางคประดิษฐ์  3  ครั้ง

             ( ขึ้นชื่อว่าอาหารทุกอย่างพระจะหยิบฉันเองโดยไม่มีผู้ประเคนไม่ได้ ถ้าทำต้องอาบัติ )

             ข้อพึงระวัง
             - อาหารคาวหวาน หรือเครื่องไทยธรรมประเภทอาหารคาวหวานทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นอาหารสด ผลไม้ อาหารแห้งเช่น ข้าวสาร น้ำตาล อาหารเครื่องกระป๋อง เช่น นม กาแฟ   สิ่งของเหล่านี้ต้องถวายภายในเวลาเที่ยงเท่านั้น ถ้าเลยเที่ยงวันไปแล้ว พระรับประเคนไม่ได้ ต้องอาบัติโทษตามพระวินัย ถ้าจะถวายหลังเที่ยงแล้วทำได้โดยเพียงแต่แจ้งให้พระภิกษุทราบ ไม่ต้องมีการประเคน แล้วนำสิ่งของไปมอบกับผู้ดูแลพระเพื่อนำถวายท่านในวันต่อไป

             - ของใช้ต่าง ๆ ไม่ต้องประเคน เพียงแต่วางมอบเท่านั้น เช่น กระโถน แก้วน้ำ ช้อนซ่อม จานหรือชามเปล่า
             - น้ำผลไม้ที่ผลมีขนาดใหญ่กว่าผลมะตูมทุกชนิด ไม่ควรนำไปประเคนพระในเวลาเลยเที่ยง เช่นน้ำมะพร้าว   นอกจากนี้ในเวลาเลยเที่ยง พระในนิกายธรรมยุตจะไม่ฉันน้ำบางประเภท ผู้ถวายจึงไม่ควรนำไปประเคนท่าน เช่น นมสด นมเปรี้ยว น้ำเต้าหู้  เป็นต้น
             - เนื้อดิบ เช่น หอยนางรม กุ้งแช่น้ำปลา เป็นต้น  ห้ามนำไปประเคน ถ้าภิกษุฉัน ต้องอาบัติ
             - ผลไม้ที่มีเมล็ดอยู่ข้างใน อาจนำไปเพาะขึ้นเป็นต้นได้ เช่น มะม่วง เงาะ หรือเง่าที่ปลูกขึ้น เช่น เผือก มัน เป็นต้น  ถ้าจะนำมาถวายพระควรปอกเปลือก แคะเมล็ดออกเสียก่อน

 

             บทที่ 5  การสวดมนต์ไหว้พระและพิธีสงฆ์ในชีวิตประจำวัน  ( บทสุดท้าย )

             วิธีอาราธนาศีล
             - ถ้าเป็นพิธีสวดมนต์เย็น  ให้อาราธนาศีล อาราธนาพระปริตร

             - ถ้าเป็นพิธีเลี้ยงพระ พิธีถวายทานทุกอย่าง ให้อาราธนาศีล
             - ถ้าเป็นพิธีเทศน์
                ถ้าเทศน์ต่อจากสวดมนต์ ตอนสวดมนต์ไม่ต้องอาราธนาศีล แต่เริ่มต้นด้วยการอาราธนาพระปริตร  ตอนพระขึ้นเทศน์ อาราธนาศีล รับศีล แล้วอาราธนาธรรม
                ถ้าพิธีสวดมนต์กับพิธีเทศน์ไม่ได้ต่อเนื่องกัน ให้ถือว่าเป็นคนละพิธี ตอนสวดมนต์ก็อาราธนาศีลและอาราธนาพระปริตร ตอนเทศน์ก็เริ่มต้นด้วยการอาราธนาศีลก่อน จบรับศีลแล้วอาราธนาธรรม

             - พิธีสวดศพต่าง ๆ เช่นสวดแจง สวดพระอภิธรรม เป็นต้น ถ้าไม่มีพิธีอื่นนำหน้าให้อาราธนาศีลก่อน ถ้ามีพิธีอื่นนำหน้าแล้วไม่ต้องอาราธนาศีล

             ( ในงานบำเพ็ญบุญทั่วไป และงานมงคล พอพระเริ่มสวดมงคลสูตรขึ้นบท “อเสวนา”  เจ้าภาพจะเข้าไปจุดเทียนน้ำมนต์ที่บาตรหรือครอบน้ำมนต์หน้าพระ แล้วประเคนบาตรหรือครอบน้ำมนต์นั้นต่อประธานสงฆ์เพื่อให้ท่านทำน้ำมนต์ต่อไป ประเคนแล้วกราบ 3 ครั้ง

               เมื่อพระสวดมนต์จบ หากมีการเทศน์ต่อ ประธานในพิธีจะจุดเทียนบูชาธรรมวางไว้ทางขวามือของธรรมมาสน์ พิธีกรกล่าวอาราธนาธรรม ต่อจากนั้นพระจะเทศน์ทุกคนฟังเทศน์โดยนั่งประนมมือ เมื่อพระเทศน์จบเจ้าภาพจะประเคนจตุปัจจัย เครื่องไทยธรรม ต่อจากนั้นพระสงฆ์จะอนุโมทนา ขณะที่พระว่าบท “ยถาวาริวหา……”  เจ้าภาพจะเริ่มกรวดน้ำ ให้กรวดน้ำให้เสร็จก่อนจบบทยถาที่คำว่า “……มณิโชติรโส ยถา” เจ้าภาพวางภาชนะสำหรับกรวดน้ำลง พอพระขึ้นบท “สัพพีตีโย วิวัชชันตุ……” ทุกคนประนมมือขึ้นพร้อมกันเพื่อรับพร จนพระสวดจบทุกคนถ้านั่งกับพื้นให้กราบพระพร้อมกัน 3 ครั้งด้วยเบญจางคประดิษฐ์ เป็นอันเสร็จพิธี )

 

             คำอาราธนาศีล 

             มะยัง  ภันเต  วิสุง วิสุง  รักขะณัตถายะ ติสะระเณนะ  สะหะ  ปัญจะสีลานิ  ยาจามะ ,
             ทุติยัมปิ  มะยัง  ภันเต  วิสุง วิสุง  รักขะณัตถายะ ติสะระเณนะ  สะหะ  ปัญจะสีลานิ  ยาจาม,
             ตะติยัมปิ  มะยัง  ภันเต  วิสุง วิสุง  รักขะณัตถายะ ติสะระเณนะ  สะหะ  ปัญจะสีลานิ  ยาจามะ,
             คำแปล
             ข้าแต่ท่านผู้เจริญ,  ข้าพเจ้าทั้งหลาย, ขอศีล 5 พร้อมทั้งไตรสรณคมน์เพื่อรักษา 

             แม้ครั้งที่ 2 ……….,
             แม้ครั้งที่ 3 …………..
             ( ถ้าคนเดียวให้เปลี่ยนคำว่า “มะยัง” เป็น “อะหัง” “ยาจามะ” เป็น “ยาจามิ”    ถ้า ศีล 8 ( ศีลอุโบสถ ) ให้เปลี่ยน “ปัญจะ” เป็น “อัฏฐะ”
             คำอาราธนาธรรม   ( ใช้อาราธนาพระแสดงธรรมและสวดงานอวมงคล เช่นงานศพ เป็นต้น )
             พรัหมา  จะ  โลกาธิปะติ , สะหัมปะติ,

             กัตอัญชลี  อันธิวะรัง  อะยาจะถะ,
             สันตีธะ  สัตตาปปะระชักขะชาติกา,
             เทเสตุ  ธัมมัง  อะนุกัมปิมัง  ปะชัง ฯ
             คำแปล
            
ท้าวสหัมบดี  ผู้เป็นอธิบดีแห่งโลก,  ได้ประคองอัญชลี,  ทูลวิงวอนพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐว่า,  สัตว์ผู้มีธุลีในดวงตาน้อยมีอยู่ในโลก,  ขอพระคุณเจ้าโปรดแสดงธรรมอนุเคราะห์ด้วยเถิด
             คำอาราธนาพระปริตร   ใช้อาราธนาพระเจริญพระพุทธมนต์ในงานมงคลต่าง ๆ  ( ปริตร คือเครื่องป้องกันภัยทุกชนิด )
             วิปัตติปะฏิพาหายะ      สัพพะสัมปัตติสิทธิยา
             สัพพะทุกขะวินาสายะ  ปะริตตัง  พรูถะ  มังคะลัง
             วิปัตติปะฏิพาหายะ      สัพพะสัมปัตติสิทธิยา
             สัพพะภะยะวินาสายะ  ปะริตตัง  พรูถะ  มังคะลัง
             วิปัตติปะฏิพาหายะ     สัพพะสัมปัตติสิทธิยา
             สัพพะโรคะวินาสายะ ปะริตตัง  พรูถะ  มังคะลัง
             คำแปล
             ขอพระคุณเจ้าโปรดสวดพระปริตรอันเป็นมงคล,  เพื่อป้องกันความวิบัติ,  เพื่อสำเร็จสมบัติทุกประการ,  เพื่อให้ทุกข์ ภัย โรค อันตรายใด ๆ ทุกชนิด,  จงพินาศสูญไป

             การบูชาพระ

             การบูชาพระเมื่อตื่นนอน ก่อนเดินทางออกจากบ้าน ก่อนนอน ทุกวันพระหรือวันธรรมสวณะ ในคราวที่เดือดร้อนใจ หรือก่อนที่จะประกอบกิจการที่สำคัญ หรือการตัดสินใจในเรื่องสำคัญต่าง ๆ   จะมีการบูชาพระรัตนตรัย  ทั้งเป็นกิจวัตร และเป็นกรณีพิเศษ โดย   อาบน้ำแต่งกายให้สะอาดเรียบร้อยก่อน  
             เรื่องการจุดธูปเทียนเพื่อบูชาพระ ปัจจุบันมีธูปเทียนไฟฟ้าเพื่อความสะดวกและปลอดภัยจากอัคคีภัยในกรณีหลงลืมไม่ได้ดับธูปเทียนหลังจากบูชาพระแล้ว ซึ่งมีผู้สงสัยว่าถูกต้องหรือไม่นั้น   การบูชาด้วยไฟเป็นคติของพราหมณ์แต่โบราณ พระพุทธเจ้าจึงอนุโลมให้ใช้ไฟในการบูชา   สามารถใช้ธูปเทียนไฟฟ้าตามความเหมาะสม หากอยู่ในภาวะรีบเร่งจะไปทำงานเกรงจะหลงลืมและเกิดอันตราย ให้ใช้สิบนิ้วพนมต่างธูปเทียนและดอกไม้ก็ยังได้

             วิธีปฏิบัติในการกรวดน้ำ

             1)  การกรวดน้ำ อุทิศส่วนกุศล  ใช้ทั้งในงานมงคลและงานอวมงคล คือเมื่อมีการทำบุญเลี้ยงพระ ในงานใดก็ตาม จะมีการกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลเสมอ และแม้ไม่มีงานพิธีใด ๆ เมื่อเราบำเพ็ญทานเช่นการตักบาตรพระสงฆ์ เมื่อเสร็จจากการทำบุญตักบาตรก็ควรที่จะกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้แก่ญาติมิตรผู้ล่วงลับ ตลอดจนสรรพสัตว์ทั้งหลาย
             2)  น้ำที่ใช้กรวด ต้องเป็นน้ำใส สะอาด บริสุทธิ์ ไม่มีสิ่งเจือปน เปรียบเสมือนน้ำใจอันบริสุทธิ์
             3)  ถ้าผู้กรวดน้ำนั่งอยู่กับพื้นควรนั่งพับเพียบจับภาชนะสำหรับกรวดด้วยมือทั้งสอง แล้วรินน้ำให้ไหลลงเป็นสาย ไม่นิยมใช้นิ้วมือรองรับสายน้ำนั้นอีก ยกเว้นถ้าภาชนะกรวดน้ำปากกว้าง เช่นเป็นแก้วหรือขันน้ำ ให้ใช้นิ้วซ้ายแตะปากภาชนะให้น้ำไหลลงเป็นสายทีละน้อยโดยไม่ขาดตอน ขณะรินน้ำให้สำรวมใจอุทิศส่วนกุศลแก่ญาติผู้ล่วงลับสั้น ๆ ว่า “อิทัง  เม  ญาตีนัง  โหตุ  สุขิตา  โหนตุ  ญาตะโย” แปลว่า “ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอญาติทั้งหลายของข้าพเจ้าจงมีความสุข” โดยนิยมเอ่ยชื่อ นามสกุลของญาติผู้ล่วงลับที่ประสงค์จะอุทิศส่วนกุศลไปให้ด้วย   หากจำภาษาบาลีไม่ได้จะกรวดน้ำเป็นภาษาไทยก็ได้   ผู้ร่วมพิธีที่ไม่ได้ใช้ภาชนะกรวดน้ำเพราะมีจำนวนไม่เพียงพอสำหรับแขกทุกคน ให้กรวดน้ำแผ่ส่วนกุศลโดยอธิษฐานในใจสั้น ๆ
              4)  การกรวดน้ำจะรินลงบนพื้นดินโดยตรงก็ได้ ถ้าอยู่บนศาลาหรือสถานที่ที่ใช้ภาชนะอื่นรองรับน้ำกรวดไว้ หลังจากเสร็จพิธีให้นำน้ำไปเทลงที่กลางแจ้ง หรือพื้นดินที่สะอาด หรือเทรดต้นไม้นอกอาคาร ขณะเทน้ำให้อธิษฐานฝากแม่พระธรณีเป็นสักขีพยานในการทำบุญอุทิศส่วนกุศลครั้งนั้น
             การกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลจะได้บุญอีกข้อหนึ่งคือ ปัตติทานมัย นับว่าเป็นบุญกุศลเพิ่มพูนทวียิ่งขึ้น ผู้ฉลาดจึงควรกระทำเพราะจะยิ่งทำให้จิตใจเกิดปีติ   บุญเป็นสิ่งที่ยิ่งแบ่งยิ่งมาก เปรียบเหมือนแสงเทียนถ้าจุดต่อ ๆ กันไปยิ่งจุดมากเล่มเพียงใด ก็จะยิ่งเกิดแสงสว่างมากขึ้นไม่หมดไปเหมือนกับการแบ่งปันสิ่งของอื่น   การกรวดน้ำจะเป็นการแบ่งหรืออุทิศส่วนกุศลไปให้คนตายหรือคนที่ล่วงลับ  ถ้าจะแบ่งบุญให้คนที่มีชีวิตอยู่ทำได้โดยบอกข่าวให้เขาทราบถึงบุญกุศลที่เราได้ทำมา ถ้าเขาอนุโมทนาเขาก็จะได้รับส่วนแบ่งแห่งบุญนั้นทันที


             ครูและผู้บริหารสถานศึกษาในฐานะผู้นำของชุมชนหากมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องศาสนพิธี สามารถปฏิบัติ และให้คำแนะนำแก่ผู้อื่นได้  ย่อมเป็นแบบอย่างที่ดีในสังคมไทย


 

         2.  เมื่อวันที่ 28 ต.ค. ในการประชุมผู้บริหาร กศน. และ 30 ต.ค.54 ในการประชุมครูอาสาสมัครฯ ที่โรงแรมแอมบาสเดอร์ซิตี้ จอมเทียน  ท่านเลขาธิการ กศน. ประเสริฐ บุญเรือง พูดในการประชุมผู้บริหาร กศน.เมื่อ 28 ต.ค. ว่า ให้ชาว กศน.ทุกคนร่วมใจช่วยกันผลักดัน พ.ร.บ. การศึกษาตลอดชีวิต ที่สอดแทรกสาระให้ กศน.ตำบลเป็นสถานศึกษา ซึ่งจะทำให้ กศน.มีสถานศึกษาเกือบหมื่นแห่ง สิ่งที่จะตามมาคือมีข้าราชการประจำ กศน.ตำบล ที่คน กศน.ก็ต้องมาสอบแข่งกันเข้าลู่นี้อีกที
             ส่วนการประชุมครูอาสาฯเมื่อ 30 ต.ค.  ครูอาสาฯ จ.พระนครศรีอยุธยา ส่วนใหญ่ ไม่สามารถเดินทางไปเข้าอบรมครั้งนี้ได้เพราะน้ำท่วม  มีผู้ที่ไปเข้าอบรมเช่น ครูประยงค์ อ.บางละมุง, ครูขวัญเรือน อ.ภาชี และคนอื่น เล่าประเด็นการอบรมว่า
             - เป็นการตำหนิอย่างสุภาพ ที่ ครูอาสาฯกลุ่มหนึ่งไปเข้าพบ รมต.ศธ. เรื่องบทบาทครูอาสาฯและขอให้ครูอาสาฯเป็นข้าราชการโดยการประเมินฯแทนการสอบ    ท่านเลขาธิการ กศน.ให้ครูอาสาฯบางคนแสดงความเห็น  และท่านบอกว่าเราอยู่ภายใต้กฎหมาย จะเรียกร้องตามใจไม่ได้ (ท่านเลขาฯ ไม่เคยทอดทิ้งครูอาสาฯ )  จะเป็นข้าราชการต้องสอบ แต่อาจสามารถขอประเมินคัดเลือกในส่วนของกลุ่มที่มีอายุราชการ 10 ปีขึ้นไป    บทบาทครูอาสาฯทำหน้าที่ในสำนักงาน กศน.อำเภอ และทำหน้าที่ผู้ตรวจการ (นิเทศ) กศน.ตำบล เช่นนิเทศติดตามการจัดการศึกษาอาชีพแบบใหม่ให้มีงานทำ ให้ครูอาสาฯประสานงานจัดตั้งศูนย์พัฒนาอาชีพชุมชน  โดยจะคัดเลือกผู้ที่ทำงานดี อำเภอละ 3 คน ไปศึกษาดูงานต่างประเทศ   
             - แต่ครูอาสาฯก็ต้องสอนขั้นพื้นฐานภาคเรียนละ 30 คนด้วย เพราะกำหนดไว้ในการจ้างให้มีตำแหน่งครูอาสาฯ  ( จะทำหนังสือเน้นย้ำเรื่องบทบาทหน้าที่ครูอาสาฯ อีกครั้ง )
             - ขอให้ครูอาสาฯ ทุกคนช่วยผลักดัน พรบ.การศึกษาตลอดชีวิต ให้ผ่านให้ได้
             - การไปช่วยเหลือน้ำท่วม เช่น ที่หน้ากระทรวงฯ หน้าทำเนียบฯ รับเพิ่มอีก ต้องการผลัดเปลี่ยนคนเก่าไปพักบ้าง แต่ละคนได้ค่าที่พักวันละ 800 บาท เบี้ยเลี้ยงวันละ 240 บาท ใครอาสาให้ส่งรายชื่อผ่านจังหวัด ( ส่วนกลางทำเสื้อสีชมพู เขียนคำว่าอาสาสมัคร กศน.ด้านหลัง แจกคนละ 2 ตัว )
             - พนักงานราชการ อายุ 60 ปี ไม่จำเป็นต้องเกษียณ สามารถทำสัญญาจ้างต่อได้ครั้งละ 4 ปี

             ( สำหรับความคิดเห็นส่วนตัวผม คิดว่า การประเมินคัดเลือกแทนการสอบ จะมีปัญหาวิ่งเต้นเส้นสายมาก ผู้ที่ไปเรียกร้องให้ประเมินฯแทนการสอบเองก็อาจจะไม่ผ่านการประเมินฯ และจะมีปัญหาร้องเรียนฟ้องร้องตามมามากมายวุ่นวาย   แม้แต่ สพฐ.ขณะนี้ยังสั่งยกเครื่องการสอบบรรจุทั้งหมดโดยให้ส่วนกลางออกข้อสอบแทนเขตพื้นที่ฯ เพราะมีปัญหามาก )

 
หมายเลขบันทึก: 467055เขียนเมื่อ 3 พฤศจิกายน 2011 09:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 14:13 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (22)

ขอบพระคุณ อ.เอกชัย มากครับ แล้วที่ว่าจะปรับเป็นนักจัดการศึกษา โดยไม่ต้องสอนสายสามัญ หายไปไหนแล้วครับเพราะทำงาน สนง.ด้วยและออกสอนอีก อำเภอหนึ่งก็มีครูอาสาไม่กี่คนงาน สนง.ก็มีงานมากเช่น วัสดุ การเงิน สายอาชีพ งานแผน ฯลฯ

แล้วต้องมาทำแผนการสอนทำงานสายสามัญอีก(ผมไม่ได้กลัวเหนื่อยแต่ผมว่ามันมากไปหน่อยครับ)

ขอขอบคุณ อ.เอกชัยมากนะค่ะ ได้ความรู้ศาสนพิธีสำหรับครูและผู้บริหารมากค่ะ

เพราะบางครั้งยังมีการเข้าใจผิดอยู่ ทำให้มีความรู้มากขึ้นค่ะ

ยินดีแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันนะครับ Ico48 Ico48

ตอบครูปัด   เห็นว่า กศน.พยายามขอปรับครูอาสาฯเป็นนักจัดการศึกษาแล้ว แต่ไม่สำเร็จ เพราะ ก.พ.ร.บอกว่าพนักงานราชการไม่มีระเบียบให้โอนย้าย แต่ให้จ้างตามโครงการ/ภาระงาน ถ้าโครงการ/ภาระงาน/บทบาทหน้าที่ใด ไม่ต้องมีแล้ว ก็ให้เลิกจ้างครับ    การสอบเป็นพนักงานราชการแต่ละตำแหน่งจะมีการสอบวิชาเฉพาะตำแหน่งที่แตกต่างกัน ถ้าตอนสอบ ๆ เกี่ยวกับงานครูอาสาฯ สอบได้แล้วจะเปลี่ยนเป็นตำแหน่งอื่นไม่ได้เพราะข้อสอบต่างกัน ต้องใช้วิธีลาออกจากตำแหน่งครูอาสาฯแล้วสอบตำแหน่งนักจัดการศึกษาใหม่ซึ่งต้องเริ่มต้นเงินเดือนใหม่ด้วย เลยต้องสะดุดหยุดไป
         ที่ว่างานมากนั้น เดิมใครทำบ้างล่ะครับ ก็ต้องช่วยกันทำแบ่งกันทำ ครูอาสาฯน้อยก็ต้องให้บุคลากรตำแหน่งอื่นทำด้วย

  • พี่เอกครับ
  • ละเอียดมากๆ
  • ขอให้ครูที่อ่านสอบ
  • สอบผ่านทุกๆคนครับ

เรียนอ.เอก

ในฐานะครูกศน.ตำบล อำเภอหนึ่ง ในอำเภอมีครูอาสา 4 ท่าน หน้าที่ครูอาสาทำงานอำเภอ หน้าที่ครูกศน.ตำบล (ขอบอกแบบไม่เป็นทางการนะคะ) สอน งานอาชีพ เศรษฐกิจพอเพียง ธุรการ พัสดุ ภารโรง สรุปสั้นๆ ทำงานทุกอย่างในตำบล แต่ไม่พอ 5 ส .ในอำเภอ เรียกครูกศน.ตำบลเข้าไปทำ ครุอาสานั่งทำงานตัวเองปล่อยครูกศน.ตำบลทำ เบิกพัสดุ วิทยากรอาชีพของตำบล ครูตำบลทำเอง ครุอาสามีหน้าที่ตรวจคำผิด วงคำผิด ตีกลับให้ไปแก้ไข งานส่งเสริมการอ่านกิจกรรมของเจ้าหน้าที่ห้องสมุด ครูกศน.ตำบล (บางคน) ต้องรับผิดชอบ สรุปกิจกรรม ทำรูปเล่ม งาน sar หน้าที่ครูอาสา แต่ไม่ยอมทำ สุดท้ายครูกศน.ตำบล (บางคน) ถูกเรียกเข้ามาช่วยกันทำ บอกตรงๆ ว่าครูกศน.ตำบลเหนื่อยมากๆ ไหนจะงานตัวเองในตำบล ไหนจะถูกเรียกเข้าอำเภอมารับมอบงานของอำเภอ อยากให้มีการชี้แจงบทบาทของครูอาสาให้ชัดแจ้ง และก็ทำจริงๆ และผอ.อำเภอก็ต้องเด็ดขาดกว่านี้ไม่งั้นครุอาสา (บางคน) ก็จะไม่เข้าใจบทบาทของตัวเองจึงคิดว่าตัวเองไม่มีบทบาท ไม่รู้จะทำอะไร และท่านผอ.ก็อย่าเอาแต่งาน โดยไม่มองภาระหน้าที่ของครูตำบลด้วยเช่นกัน คนเรามีเวลาเท่ากัน 24 ชั่วโมง แต่อย่าให้ครูกศน.ตำบลเขาแบกงานกลับไปทำยิ่งกว่าโรงงานนรกเลย.. (รึรู้ว่าครูกศน.ตำบลเขาเก่งเลยใช้ให้คุ้ม ให้หนัก ^_^)

เรียน อ.เอกชัย ที่เคารพ

เห็นด้วยทุกข้อความ เพราะทุกท่านก็มีเหตุผลต่างกันออกไป สำหรับท่านเลขาฯ ก็พยายามแ้ล้วครับ...ที่จะช่วยบุคลากรใต้บังคับบัญชา เชื่อว่าทีมของเรา(กศน.)จะต้องเดินไปได้ จะแบบไหนอย่างไร ค่อยว่ากัน แต่เป้าหมายทุกคนเหมือนกัน คือ ความมั่นคงของอาชีพที่ทำอยู่ ผมเคารพและให้เกียรติในข้อคิดเห็นทุกท่าน เพราะที่ท่านพูดมาถูกหมด

ขอบคุณครับ

ถึงยามค่ำน้ำกระฉอกระลอกคลื่น

สะดุ้งตื่นเหว่ว้าน้ำตาไหล

ในคืนเปลี่ยวเดี๋ยวนี้ไม่มีใคร

แฝงพิษภัยไร้หวังให้กังวล

 

ตอบ ครูกศน. #2558470
         ผมว่าอยู่ที่ผู้บริหารครับ เราคงทำอะไรไม่ได้มาก คิดแง่บวกซะว่าทำงานมากก็ประสบการณ์มาก จะเป็นผู้ชำนาญการ อีกหน่อยเปลี่ยนผู้บริหารเราอาจรุ่งโรจน์ คิดแง่ดีก็จะช่วยให้เราสุขไม่ทุกข์

ตอบ ครูประยงค์ บางละมุง
         ผมก็คิดว่า ผู้บริหารเขาก็ดูแลอยู่แล้ว อะไรที่เขาช่วยได้เขาก็ช่วยเต็มที่แน่ แต่ต้องเข้าใจว่าบางอย่างมันอยู่นอกเหนืออำนาจเรา นอกเหนืออำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯด้วยซ้ำ

ขอบคุณท่าน ผอ. Ico48 ที่มาเยี่ยมให้กำลังใจครับ

ขอบคุณครับอาจารย์ Ico48
เห็นคนอื่นเขาเดือดร้อนเรื่องน้ำท่วมแล้ว ผมไม่กล้าบ่นเลย เพราะผมไม่ต้องไปนอนบนหลังคา ไม่ต้องอพยพ แค่เดินทางลำบากลำบนทุลักทุเลเท่านั้นเอง

อาจารย์เอกชัย คะ เวลาเราเอาดอกไม้ใส่แจกันที่ศาลพระภูมิ หรือจุดธูปที่ศาลพระภูมิตอนเย็น เราต้องกล่าวสวดอย่างไรคะ ที่บ้านตั้งศาลพระภูมิแต่ยังกล่าวสวดไม่เป็นค่ะ ขอบคุณค่ะ

หึหึ... Ico48 เห็นผมเป็นผู้รู้ไปซะแล้ว
คำบูชาพระภูมิด้วยดอกไม้ธูปเทียนหรือพวงมาลัย

นะโม 3 จบ ตามด้วย "ภุมมัสสะหมิง ทิสาภาเค สันติ ภุมมา มะหิทธิกา เตปิ อัมเห อะนุรักขันตุ อาโรคะเยนะ สุเขนะ จะ
"

ขอบคุณค่ะ อ.เอก หนูรู้ว่าถามแล้วไม่ผิดหวังแน่ๆ ค่ะ ขอรบกวนถามอีกนิดนะคะ รวมถึงการถวายอาหาร หรือผลไม้ด้วยหรือเปล่าคะ แล้วถ้าเป็นศาลเจ้าที่(ศาลตายาย) ใช้เหมือนกันหรือเปล่าค่ะ เพิ่งมีครอบครัวใหม่เลยไม่ค่อยรู้เรื่อง อยากบูชาให้ถูกต้อง ปกติแค่ถวายและยกมือไหว้เฉยๆ ค่ะ

ไม่เหมือนกันครับ Ico48 อาหารและผลไม้เป็นเครื่องสังเวย ต่างจากดอกไม้ธุปเทียนหรือพวงมาลัย

คำถวายเครื่องสังเวยพระภูมิเจ้าที่
"นะโม เม พระภูมิเทวานัง ธูปะทีปะ จะ ปุปผัง สักการะ วันทานัง สูปะพะยัญชะนะสัมปันนัง โภชะนานัง สาลีนัง สะปะริวารัง อุทะกังวะรัง อาคัจฉันตุ ปะริภุญชันตุ สัพพะทา หิตายะ สุขายะ สันติเทวา มะหิทธิกา เตปิ  อัมเห อะนุรักขันตุ อาโรคะเยนะ สุเขนะ จะ"

คำลาเครื่องสังเวยพระภูมิเจ้าที่
"
อายันตุ โภนโต อิธะ ทานะสีละ เนกขัมมะปัญญา สะหะวิริยะ ขันตี สัจจาธิฏฐานะ เมตตุเปกขายุทธายะโว ทิสสาวินะติ อะเสสะโต"

คำบูชาศาลเจ้าที่ (ศาลตายาย)
"ปุระพะทิพพะยะวิญญังอารักขัง นะมามิหัง ปุระพะทิพพะยะวิญญังเมตตัง กะโรมิ รักขัง ภะวันตุเม"

ตอบ ครู กศน.ผมทราบว่า ครู กศน.ตำบลเหนื่อยมากครับและก็เก่งมากครับ แต่ก็อย่างที่ อ.เอกชัย ว่าครับแล้วแต่ ผู้บริหารแต่ระอำเภอ บางอำเภอ ครู กศน.ตำบลก็หนัก บางอำเภอครูอาสาก็หนัก ที่กล่าวมาทั้งหมดผมไม่ได้ว่าใครทุกวันนี้ผมทำงานก็ไม่ได้คิดที่จะต้องเป็นข้าราชการทำงานขอให้ได้เงินเดือนเท่าที่ควรจะได้และให้มีการขึ้นเงินเดือนเท่าที่รัฐกำหนดให้ผมก็พอใจแล้วถ้าผมต้องการอะไรมากมายผมคงลาออกไปแล้วคงไม่ทำงาน กศน.มา 14 ปีแล้วเริ่มจากเงินเดือน 6000 ปัจจุบัน 11500 บาท

ขอบคุณ อ.เอก ค่ะ ที่ให้ความรู้ หนูจะได้นำไปปฏิบัติให้ถูกต้องเสียที

ท่าน อ.เอกชัยค่ะ จากการที่ไปประชุมในวันที่ 30 ต.ค. 54 นั้น ทำให้ทราบถึงเหตุผลและเรื่องราวที่เกิดขึ้นใน กศน.แต่ละแห่ง เกิดขึ้นจากการคำพูดของผู้บริหารที่พูดกับครูอาสาสมัครซึ่งจากที่สอบถามมามีดังนี้ค่ะ

1. ครูอาสาสมัครเตรียมตัวสอบใหม่นะเพราะเค้าจะตัดตำแหน่งครูอาสาไม่ให้มีครูอาสาอีกต่อไปแล้ว

2. ครูอาสาเดี๋ยวนี้เค้าให้ทำอะไรหรือ ต่อไปครูอาสาจะสูญพันธ์แล้วเพราะจะไม่มีการเรียกตำแหน่งเพิ่มลาออก/อื่นๆ ก็จะตัดไปเลย

3. ครู กศน.ตำบลเดี่ยวนี้เจ้านายให้ความสำคัญมากนะ ถ้าผ่านการอบรมเข้มแล้วคงจะบรรจุให้แน่นอนเลยเหมือนรุ่นของผมก็ทำแบบนี้

4. ครูอาสาเค้าจะจ้างถึงแค่ปี 55 เท่านั้นนะเพราะได้ทำสัญญากับสำนักงบประมาณไว้เท่านี้

5. ครูอาสาสอนผู้ไม่รู้หนังสือ และประถม เป้าหมายมีมาก แต่ผลการจบมีน้อยเจ้านายเค้าเห็นแล้วมันเปรียบเทียบกันไม่ได้เลยกับครู กศน.ตำบลที่มีเป้านักศึกษามาก และการจบก็มากต้องเข้าใจข้นี้ด้วยนะ ครูอาสาจะเรียกร้องอะไรต้องดูผลงานของตัวเองด้วย

6. ครูอาสาไม่รู้จักตนเอง ก็รู้อยู่ว่าผู้ใหญ่ไม่ชอบยังจะทำเรื่องให้ท่านเกียจมากขึ้นไปอีก

อ.เอกชัยคะ นี่เป็นแค่ตัวอย่างที่ดิฉันได้สอบถามเพื่อนครูอาสาที่ประชุมร่วมกัน ไม่ได้คิดหรือพูดเองแต่อย่างใดทุกคำพูดล้วนออกจากปากผู้บริหารและถูกถ่ายทอดจากครูอาสา ซึ่งมีคำพูดอกมากมายที่ไม่ได้นำมาบอกเล่าให้เข้าใจกันในที่นี้ ทุกคำพูดล้วนแล้วแต่บั่นทอนจิตใจของครูอาสา ทำให้ครูอาสาขาดที่พึ่งที่เข้าใจขาดความมั่นคง ขาดขวัญและกำลังใจ แต่พวกเราก็ยังมุ่งมั่นที่จะทำงานให้ดีที่สุด จริงๆแล้วครูอาสาทุกคนรู้ถึงบทบาทหน้าที่ของตนเองเป็นอย่างดีและได้ตั้งใจปฏิบัติงานอย่างตั้งใจเสมอมา เราส่วนใหญ่ไม่คิดเรียกร้องให้ปรับเราเป็นข้าราชการ เราแค่อยากให้ผู้ใหญ่ที่มีแต่ความรักและความเมตตากับครูอาสาด้วย การที่น้องได้ปรับเป็นพนักงานราชการพวกเราต่างยินดี แต่เหตุที่เกิดขึ้นเนื่องจากผู้บริหารส่วนใหญ่ปฏิบัติต่อครูอาสาดั่งการเหยียบครูอาสาเชิดชู ครู กศน.ตำบล จริงหรือไม่คะ แล้วท่านผู้ใหญ่ที่อยู่เบื้องบนเคยได้ยินคำพูดเหล่านี้หรือไม่คะ วันนั้นก็อยากจะชี้แจงมาก แต่ก็กลัวอยู่ในใจของผู้ใหญ่นะค่ะ

ผมมั่นใจว่าผู้ใหญ่เบื้องบนไม่เคยคิดลดความสำคัญของตำแหน่งใด บุคลากรทุกประเภททุกตำแหน่งมีความสำคัญทั้งนั้น สำหรับผู้บริหารระดับอำเภอ "บางคน" ไม่แน่ ( แต่หลังจากกลุ่มครูอาสาฯข้ามหัวไปพบ รมต.แล้ว ท่านเลขาฯอาจมีเคืองนิดๆ หึหึ )
         แต่ละแห่งไม่เหมือนกันครับ บางแห่งครูอาสาฯกับผู้บริหารก็เข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยส่งเสริมสนับสนุนกัน

         ส่วนเรื่องที่ส่วนกลางอยากเปลี่ยนตำแหน่งครูอาสาฯเป็นตำแหน่งอื่นนั้น จริงครับ ( ให้มีบทบาทหน้าที่เหมือนข้าราชการ ) โดยการเปลี่ยนตำแหน่งนี้จะต้องไม่กระทบกับครูอาสาฯแต่อย่างใด จะเปลี่ยนโดยที่ครูอาสาฯแต่ละคนพึงพอใจ ซึ่งติดขัดที่ข้อกำหนดกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ยังทำไมได้ ไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนช่วงต่อสัญญาปี 2556-2559 ได้หรือเปล่า

  • สวัสดีค่ะอาจารย์เอกชัย หายไปนานเลยค่ะเพราะที่บ้านประสบปํญหาน้ำท่วมบ้านถึงระดับหน้าต่างบ้านเลย ต้องย้่ายแม่ที่เดินไม่ได้ไปอยู่หอพักน้า
  • แล้วที่บ้านอาจารย์เอกเป็นอย่างไงบ้างค่ะน้ำเลิกท่วมหรือยังค่ะ
  • เสียดายมากเลยค่ะทำผลงานส่งประกวดไม่ทันเพราะเอกสารที่เตรียมไว้อยู่ที่ กศน.ตำบล ถูกน้ำท่วมหมดภายใน ๑ คืน

บ้านผมอยู่ริมแม่น้ำน้อย ใต้ถุนสูง สูงกว่าบ้านคนอื่นเขา บ้านข้างๆน้ำท่วมทั้งสองข้าง แต่บ้านผมน้ำท่วมไม่ถึงพื้นบ้าน เหลืออยู่คืบนึง
         วันนี้ ( 15 พ.ย.54 ) น้ำในแม่น้ำน้อยเพิ่งลดไปแค่ 33 ซ.ม. ถนนในหมู่บ้านยังมีน้ำท่วมสูง ผมยังต้องท่องน้ำไปยังที่จอดรถไว้นอกหมู่บ้านอยู่ครับ Ico48

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท