18 ก.ย.53
วันนี้หลังจากสวดมนต์ไหว้พระแล้วลุกขึ้นทำกายบริหารได้ 2-3 ท่า แล้วเข้าไปปลุกภรรยาบอกว่าต้องการอาหารเช้า แล้วภรรยาก็จัดให้ตามที่บอก ผมทานหมดเลย หลังจากนั้นก็ทานอาหารตามเวลาที่กำหนดไว้ เขียนหนังสือได้มาก
วันนี้เวลาประมาณ 11 โมงกว่าๆ ก็ต้องเข้าห้องน้ำปรากฎระบบขับถ่ายทำงานได้ดีมากขึ้น
ตกบ่ายน้องชายกับภรรยามาเยี่ยม ผมเริ่มมีพลังกายเพิ่มขึ้น ต่อมาหลานที่เป็นพยาบาลมาเยี่ยม แล้วคุยกันถึงเรื่องโรคมะเร็งที่ผมเป็น แล้วเรามาคุยแลกเปลี่ยนความรู้กันนานพอสมควร ผมรู้สึกหิว
เย็นนี้ผมรับประทานยา
- ยาที่ผมปรุงเอง
- ยาก่อนอาหารของ รพ.
- น้ำมั้นมะพร้าวสกัดเย็น
อาหารมื่อเย็นวันนี้มี น้ำพริกปลาและผักต้ม ผมรับประทานได้มากว่าทุกๆ มื้อที่ผ่านมา
คืนนี้ตื่น 2 ครั้ง เข้าห้องส้วม 2 ครั้ง อุจจาระเหมือนคนปกติ
อาการปวดไม่มี มีแต่อาการตึงหน้าท้อง จึงทำให้การหลับคืนนี้ลดไปประมาณ 2 ชม.
ตื่นตี 4 ครึ่ง สวดมนต์ไหว้พระ
19 ก.ย. 2553
วันนี้หลังจากตื่นนอนแล้ว ก็เขียนหนังสือ โดยเขียนได้บ้างหยุดบ้างแล้วนอนต่อ
อาหารเช้าวันนี้ เริ่มทดลองกินข้าวต้มปรากฎว่า ทาน 1 ถ้วย หลังจากอาหารเช้าแล้ว วันนี้ผมนอนตั้งแต่ 8 โมงกว่าๆ ตื่น 11 โมงครึ่ง เที่ยงกินข้าวต้มได้อีกพอสมควร ระบบขับถ่ายวันนี้ถ่ายหมดไปแล้ว 4 ครั้ง แต่ช่วงบ่ายผมรู้สึกหงุดหงิดผิดปกติ เรี่ยวแรงตามหัวเข่าหายไปหมด ช่วงนี่อารมณ์เสียบ่อย ตกเย็นภรรยาจัดข้าวต้มให้อีกก็ทานหมดอีก วันนี้ขอตัวนอนตั้งแต่ก่อน 6 โมง ตื่นขึ้นมา 2 ทุ่มกว่าๆ คืนนี้หลับเป็นช่วงๆ แต่รวมเวลาก็มากพอสมควร ครั้งสุดท้ายตื่นตี 5 ครึ่ง พยายามจะนอนต่อแต่เห็นว่าถึงเวลาตื่นแล้วจึงลุกขึ้นทำภารกิจ แล้วมาเขียนหนังสือ ตี 5 ครึ่ง สวดมนต์
สรุปคืนนี้
- อาการปวดท้อง แน่นท้องลดลง
- นอนหลับได้มากกว่าคืนก่อน
20 ก.ย. 2553
วันนี้เริ่มเขียนหนังสือตั้งแต่ 6 โมงเช้า จนถึง 8 โมง มีเรี่ยวแรงมากกว่าเมื่อวาน อาหารก็เป็นข้าวต้ม ทานได้เพิ่มขึ้นมากกว่ามื้อก่อนๆ กลางวันนอนหลับเป็นช่วงๆ
มื้อเที่ยงและมื้อเย็นเป็นข้าวต้มในปริมาณมากพอสมควร แต่วันนี้มีข้อเสียอย่างหนึ่ง ระบบย่อยอาหารกำลังปรับตัว เพราะข้าวไม่ได้ตกท้องประมาณ 30 วันกว่าๆ วันนี้ทำให้รู้สึกไม่สบายท้อง กลางคืนตื่นเป็นช่วงๆ แต่คืนนี้หลังจากตี 5 ไปแล้วไม่สามารถลุกขึ้นสวดมนต์ได้ เพราะจิตใจอยากนอนหลับ ก็ปล่อยไปตามเรื่องตามราว วันนี้จึงตื่นประมาณ 7 โมงครึ่ง
…
การบันทึกของลุงสิ้นสุดที่วันที่ 20 กันยายน หลังจากนั้นลุงอ่อนเพลียมาก และไม่สามารถเขียนเล่าประสบการณ์ได้อีก อย่างไรก็ตาม ลุงก็ยังคงเป็นนักสู้ที่ยืนหยัดต่อสู้กับมะเร็งอย่างมีสติจนวินาทีสุดท้าย ครั้งสุดท้ายของการเยี่ยม ลุงบอกว่ามะเร็งเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัว ตอนนี้เรียกว่าเป็นการสู้แบบที่แข่งชนิดหายใจรดต้นคอกันเลย...
ลุงสมปองเสียชีวิตอย่างสงบ ณ โรงพยาบาลใกล้บ้าน
ไม่มีความเห็น