นักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ ...บันทึกลุงสมปอง 2


ถ้าเป็นนักมวยถือว่ายกนี้เสมอกัน หมอก็ทำอะไรโรคไม่ได้ โรคก็ทำอะไรหมอไม่ได้ หมอต้องรักษาผมตามอาการต่อ ทำอย่างก็ไม่ได้อีก

วันที่ 13 ก.ย. 53

ในสองสามวันนี้อาการทั่วไปค่อยดีเลย คือ กลางคืนนอนไม่หลับ ปวดทุรนทุรายในช่องท้อง มีการอาเจียนที่ไม่มีอะไรจะออกมานอกจากน้ำลายขุ่นๆ ใสๆ กลางวันปวดและสะอึกบางครั้ง 1 วัน 1 คืนก็ไม่หยุด ทำให้ทรมานมาก เดินเหิรลงจากบ้านไม่ได้ เดินได้เฉพาะบนบ้านเท่านั้น แต่การช่วยเหลือตนเอง เช่น ระบบขับถ่าย การอาบน้ำแต่งตัว ยังช่วยเหลือตนเองได้ตลอดเวลา

ผลดังกล่าวนี้ไมได้เกิดจากก้อนเนื้อมะเร็งเลย แต่เป็นความเจ็บปวดที่เกิดจากการบำบัดรักษาช่วงนี้ บรรเทาความเจ็บปวดด้วยยาแก้ปวดชนิดเม็ด

“นี่แหละวิบากกรรมของเรา”

 

14 ก.ย. 53

วันนี้เช้าได้โทรหาหมอยุทธยา ศิลปรัศมี เพื่อปรึกษาเรื่อการวางแผนรักษาตนเอง ขณะที่ไปพบคุณหมอที่หน่วยเคมีบำบัด  ซึ่งคุณหมอก็เห็นด้วยเกี่ยวกับข้อเสนอของผม เพราะคุณหมอนึกถึงสภาพร่างกายของผมได้ และได้ขอช่วยเรื่องของพี่มาลี ท่านก็รับปาก แต่เมื่อไหร่ไปหาพี่มาลีพี่ตอบก็ จ.ม. ถึงคณะผู้เชี่ยวชาญ ผมจึงหันไปขอช่วยท่าน น.พ.ประกรม วุฒิพงษ์ ท่านก็รับปากช่วยอย่างเต็มที่ โดยให้พี่มาลีไปพบท่าน ก็ปรากฎว่าทุกอย่างเรียบร้อย

คุณหมอยุทธนา แนะนำให้ผมทดลองใช้น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น วันละ 2 ช้อนโต๊ะ ผมก็รับปากทดลองดู

วันนี้ผมจึงใช้ยาดังนี้

-          ยาสมุนไพร คุณปู่เมฆามฆานุวงศ์ ซึ่งเป็นยาที่ผมปรุงเอง 1 ช้อนโต๊ะ (เช้า เที่ยง เย็น)

-          น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น เช้า 1ช้อนโต๊ะ เย็น 1 ช้อนโต๊ะ

-          ยาก่อนอาหาร

-          ยาหลังอาหาร

ผลของการใช้ยา 

-          นอนหลับระหว่างทุ่มครึ่งถึง 4 ทุ่ม

-          นอนไม่หลับต่อไปรู้สึกอึกอัดในท้องเล็กน้อย ปั่นป่วนในท้องประมาณเที่ยงคืน อาเจียน ประมาณ 10 นาที อาเจียนออกเป็นน้ำลายข้นๆ

-          หลังเที่ยงคืนถึงตี 3 ถ่ายท้อง 5 ครั้ง อุจจาระเริ่มเป็นอุจจาระมากขึ้น

-          ตั้งแต่จตี 3-5 ครึ่ง หลับได้สบาย

-          ตื่นขึ้นมาแล้วยังอ่อนเพลียอยู่

วันที่ 15 ก.ย. 53

-          วันนี้ตื่นตี 5 รู้สึกกระปรี้กระเปร่า รับประทานอาหารเช้าก็รับประทานได้ ทานยา

-          ยาก่อนของ รพ.

-          ยาสมุนไพรปรุงเอง

-          น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น 1 ช้อนโต๊ะ

อาหารเช้ามีโจ๊กตับ เลือกกินแต่ได้ 4-5 ช้อน หลังจากรับประทานอาหารแล้วร่างกายแสดงความอ่อนเพลียมากขึ้น ลุกขึ้นไม่ไหว แต่ต้องไป รพ.ตามนัดของผม เมื่อไปถึง รพ.ต้องนั่งรถเข็นช่วยเหลือตัวเองไม่ได้

เมื่อเข้าพบหมอตามนัด คุณหมอ ก็เปิดฐานข้อมูลจาก com แล้วแปลให้ผมฟังทีละบรรทัด ผมดู, ฟัง ผมก็เข้าใจตามที่หมอให้ผมฟังตรงกัน และเป็นที่ชื่นชมในตัวหมอมากๆ เพราะผมเชื่อใจที่หมอรักษาคน (หมอที่รักษาด้วยใจถึงใจ) สรุปว่าก้อนเนื้อของผมลดลงเพียง 1 ซม. ถ้าเป็นนักมวยถือว่ายกนี้เสมอกัน หมอก็ทำอะไรโรคไม่ได้ โรคก็ทำอะไรหมอไม่ได้ หมอต้องรักษาผมตามอาการต่อ ทำอย่างก็ไม่ได้อีก นอกจาก chemo บำบัดเท่านั้น ผมบอกหมอว่าหมออย่าทิ้งผมนะ ผมจะไม่ยอมทิ้งโรงพยาบาลนี้เด็ดขาด ผมคุยอยู่กับคุณหมอนานพอสมควร จึงออกพบพยาบาลตามกระบวนการของระบบการรักษา

เมื่อเสร็จสิ้นทางคุณหมออายุรกรรมแล้ว ผมก็ไปตามนัดของหมอรังสีรักษา เมื่อผมเข้าไปถึง ผมก็ไหว้คุณหมอ แล้วเปิดฉากคุยเรื่องที่ได้รู้ได้ดูได้เห็น แล้วสรุปกันมาแล้วให้คุณหมอฟัง ผมดูสีหน้าคุณหมอแล้วรู้สึกว่า คุณหมอไม่อยากได้ยินคำว่า คุณลุงสมปองตาย ผมก็บอกว่าไม่มีใครไม่ตายหรอกครับ คุณหมอก็เปิดฐานข้อมูลออกมาด้วย อ่านแล้วแปลที่ละบรรทัดเช่นเดียวกับคุณหมอจากหน่วยเคมีบำบัด แต่คุณหมอบอกจะตีความไปในทางบวก คือสรุปว่ารอบๆ ก้อนเนื้อมีเซลล์ตายทุกๆ ก้อน เมื่อเซลล์ตายนี้หมดก้อนเนื้อก็จะเล็กลง ผมก็ชักจะคล้อยตามพอสมควร

จากใจถึงใจ หลังจากคุยกันจากข้อมูลแล้ว ผมกับคุณหมอก็คุยกันแบบส่วนตัว

ประการแรกผมแจ้งให้ท่านทราบว่า ผมจะไปรักษากับคุณหมอที่จังหวัดสิงห์บุรี คุณหมอก็ตอบว่า ด้วยและยินดีที่จะให้ไป

ประการที่ 2 ผมถามว่าแล้วทำไมคุณหมอทำสีหน้าอย่างนั้น ซึ่งบ่งบอกว่าไม่สบายใจ มีความเมตตา กรุณา ต่อคนไข้สูงมาก จิตคุณหมอส่งออกมาได้ แต่คนที่รับการรักษารับการสื่อสารที่ออกมาจากคุณหมอเท่านั้น นี่แหละคุณหมอรักษาคน ผมคุยกันนานพอสมควรก็ออกมาพบพยาบาล แล้วให้ถอดท่ออาหารทางจมูกออก

คุณหมอที่ดีในอุดมคติของผมที่ผมถือว่าเป็นหมอรักษาคนและหมอพิชิตโรคคือ

“คุณหมอที่เก่งและมีความสามารถ ต้องเป็นคุณหมอที่เก่งทางวิทยาศาสตร์ คุณหมอที่ฉลาดต้องเก่งทางวิทยาศาสตร์มีทั้งศาสตร์และศิลป์”

เมื่อผมเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว ผมเริ่มแจ้งข่าวให้คนที่ผมเคารพนับถือทราบ ตลอดจนเพื่อนสนิททุกคนทราบทันที ท่านแรกที่ผมแจ้งคือ คุณหมอยุทธนา ศิลรัศมี ท่านศักรินทร์ สุวรรณโรจน์ อดีตรองอธิบดีกรมอาชีวะ ท่านที่ 3 คือ ท่านปรากรม วุฒิพงษ์ 3 ท่านี้ผมขอร้องให้ช่วยจัดการงานศพให้ผมด้วย ท่านก็รับปากทั้ง 3 ท่าน

กลับถึงบ้าน 5โมงกว่า ผมรู้สึกอ่อนเพลียมาก

รับประทานยาเช่นเดียวกับมื้อเช้า

อาหารปลาช่อนคลุกเกลือ ผมทานได้พอสมควร

กลางคืน

-          หลับหัวค่ำได้ 2 ชม. ตื่น 4 ทุ่มครึ่ง

-          อาการปวดท้องและอาเจียนมีเล็กน้อย

-          ถ่ายอุจจาระ 1 ครั้ง อุจจาระเป็นก้อน

ตื่นตอนตี 5 ครึ่ง รู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น แต่กำลังขายังไม่มี

หมายเลขบันทึก: 466613เขียนเมื่อ 30 ตุลาคม 2011 11:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 21:53 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท