คืนวันศุกร์กลับไปนอนบ้านที่พยุหะ หลังจากพาลูกมานอนบ้านที่รพ.เพราะต้องหอบกันมาเรียนพิเศษ ก็ไปกัน 2 คนแม่ลูก เพราะบิดาเธอไปอยู่เวร ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น มีแต่ข่าวว่าระวังอาจมีน้ำท่วมเพราะน้ำที่เจ้าพระยาสูงมากแล้ว ก็ยังไม่นึกอะไร แต่ที่บ้านก็เตรียมก่อกำแพงอิฐบล็อคไว้แล้วที่รั้วหน้าบ้านสูงซัก 4 ก้อน ในรั้วบ้าน 3 ก้อนได้ ก็เออ!! ขำขำกัน พอตี 1 กำลังหลับสบายกันเชียว
เสียงตามสายหมู่บ้านก็ประกาศ " ขอให้ทุกบ้านเตรียมพร้อมป้องกันน้ำท่วมด้วยเพราะตอนนี้เทศบาลคุมสถานการณ์ไม่ได้แล้ว จะหยุดการสูบน้ำแล้ว ให้ดูแลยกของและนำรถออกจากบ้านกันด้วย "
ก็ยังเฉย เพราะบ้านเราก็มีการเตรียมพร้อมไว้แล้ว ซักพักน้องชายมาเรียกซ้ำอีก "พี่กบไม่เอารถออกรึไง น้ำมาแล้วนะ"
ก็เลยงัวเงียออกไปดู เออ! จริงแหะมาประมาณครึ่งน่องแล้ว ก็ยังยืนชั่งใจว่าจะเอารถออกดีรึไม่ดี เพราะรถเราสูงไม่น่ามีปัญหา ซักพักรถเทศบาลขับมาประกาศซ้ำอีกว่า "ตอนนี้เพิ่งหยุดสูบแค่ 2 ตัวนะครับ อีกระยะจะหยุดสูบทั้ง 4 ตัว ระดับน้ำแถวนี้น่าจะสูงประมาณเมตรนึง"
งานนี้แต่ละบ้านเริ่มขยับกันมากขึ้น ขับรถตามกันไปหาที่ปลอดภัยจอดในชุดนอนตามอัธยาศัย ตอนนั้นก็ประมาณจะตี 2 แล้ว คิดสภาพเถอะ เราก็กะว่าได้ทำเลเหมาะแล้ว เพราะจอดต่อเศรษฐีพยุหะที่ขับ BMW มาจอดปิดหน้าไว้ให้ 2 คัน ไงรถเราก็เป็นคันที่ 3 ล่ะว่ะ ปลอดภัยๆ ก็กลับมากะว่าจะนอนต่อ แม่ และน้าๆ ก็มากระตุกต่อมกังวลต่ออีกว่าจะเดี๋ยวสาวกอหญ้าจะลำบาก ก็เลยปลุกลูกกลางดึกกลับบ้านที่รพ.กันตอนตี 2 กว่าๆ ขับรถกลับมาทั้งชุดนอนทั้งแม่ลูก ...อะโหชีวิตสนุกจริงๆเลย ก็จบเรื่องไป
แต่จริงๆแล้วไม่เป็นแค่นั้น เพราะน้ำกระหนำ ซ้ำเติมตลอดเวลา เช้าวันรุ่งขึ้นแม่โทรมาให้ไปหาซื้อไดโว่ด่วน 2 ตัว(ของบ้านนิด 1 ตัว)ก็เลยไปหาซื้อที่เมคโครที่น้ำท่วมอยู่เหมือนกัน ก็ปรากฏว่าทั้งไดโว่ทั้งรองเท้าบูทไม่มีขายซักอย่าง ต้องขับไปหาซื้อในเมือง ก็ได้มา 2 ตัว แล้วก็โทรไปเลื่อนวันเรียนพิเศษของลูกออกไปก่อน พอไปรวมกันที่บ้านก็มีไดโว่ 3 ตัว ตัวเก่าที่ใช้เมื่อครั้งก่อน 1 ตัว ตัวใหม่วันนี้ 1 ตัว แล้วช่างที่มารับเหมา (เผอิญกำลังต่อเติมห้องครัวที่บ้านใหม่)ไปเอาที่บ้านมาให้ใช้อีก 1 ตัว เพราะที่บ้านแถวย่านมัทรี เค้าไม่ต้องใช้แล้ว น้ำท่วมหลังคาบ้านเรียบร้อยไปแล้ว ก็ขนของ กั้นเพิ่มเติมแล้วก็สูบน้ำออก จากสถานการณ์ก็น่าจะควบคุมได้
ที่ไหนได้น้ำยังเหมือนเดิม แถมยังดูจะเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อยๆ เมื่อวันที่ 1 ก็ ครบ 2 อาทิตย์พอดีปรากฏว่าตอนนี้ที่บ้านมีการเปลี่ยนแปลงทันสมัยไปแล้ว
แต่อยากบอกว่าอารมณ์คนที่บ้านน้ำท่วมอยากจะฝากบอกพวกที่น้ำไม่ท่วมว่า "อย่าทักทายเค้าว่ามีความสุขเชียว "
เพราะวันก่อนแม่บอกว่าแม่กำลังพายเรือไปทิ้งขยะ ยายคนนั้นใครก็ไม่รู้ มีการบอกว่า "ท่าทางมีความสุขนะคะคุณยาย"
แม่บอกว่า แม่นะไม่มองหน้าเลย แล้วอยากจะด่า แหม!! งานนี้แม่หนูเปรี้ยว อารมณ์เดียวกันกับลูกเลย เพราะพอเดินลุยน้ำมาเจอพวกที่น้ำไม่ท่วมแล้ว พวกนี้ทำเป็นยิ้มแย้ม มีความสุข เล่นน้ำกัน มันเกิดอารมณ์แบบว่า "ชั้นล่ะหมั่นไส้ ไม่ท่วมมั้งแล้วไป หึ!!!" ก็ขำขำกันไปนะคะ ตามภาษาคนบ้านน้ำท่วมเรื้อรัง ดีที่ไฟฟ้ายังดี น้ำประปายังไหล แต่ลำบากมากเรื่องห้องน้ำนี่ล่ะ ต้องไปเข้าบ้านน้า ส้วมเอ่อล้นกันไม่สงสารเจ้าของบ้านเลย...
ข้อนี้น่าคิดครับ
ปลากับลูกน้ำเป็นเพื่อนกัน ไม่มีการกินลูกน้ำช่วยเลย ยุงเริ่มชุกชุมมาก
คนไทย..ได้เรียนรู้กันอีก
โดยเฉพาะ.เรียนรู้ใจ