บ้านของขวัญจากหมอโรคจิต


มาสร้างบ้านให้ผู้ป่วยโรคสมอง และจิตประสาทกันเถอะ

บ้าน...ของขวัญจากหมอโรคจิต

 

            ใครๆก็รู้จักฉันจากความแปลกจนออกจะประหลาด หลายคนตัดสินใจที่จะหันหนีจากความไม่เข้าพวกของฉัน หลายคนเฝ้ามองความเคลื่อนไหวของฉันอย่างระวังเพราะกลัวว่าความแปลกของฉันจะเข้าไปปนเปื้อน แต่เหนือสิ่งอื่นใดฉันอิ่มเอมใจที่สองมือของฉันมีไว้เพื่อสร้างสรรค์ สองตาของฉันมีไว้เพื่อมองหาคนที่ต้องการความเมตตา และหนึ่งปากของฉันมีเอาไว้เพื่อพูดถึงความมีคุณค่าของพวกเขา อย่างไม่ท้อถอย ไม่อับอาย และอย่างเต็มภาคภูมิ

          ฉันชื่อปริยสุทธิ์ ชื่อของฉันประกอบจากอักษรและสระที่เป็นกาลกิณีทุกตัว และฉันก็ได้ดีจากกาลกิณีเหล่านี้จนไม่รู้ว่ามงคลและกาลกิณีแบ่งแยกกันตรงไหน แต่ฉันดีใจที่ฉันสร้างบ้านได้และมอบบ้านเป็นของขวัญกับคนไข้ที่ไม่เคยมีบ้านมาเป็นเวลานานได้ด้วยมือฉันเอง

          ๑๐ ปีกับการเป็นจิตแพทย์ ฉันเฝ้ามองปรากฏการณ์การไร้บ้าน และการไร้ค่า ของคนไข้อย่างช้าๆ ขออนุญาตแสดงตามตารางข้างล่างเพื่อความชัดเจน

ปีที่ป่วย

การมีบ้าน

การดูแลจากญาติ

ความมีคุณค่า

หมายเหตุ

๑-๓ ปีแรก(อายุ๑๕-๒๕ปี)

ยังมีบ้านอยู่กับพ่อแม่หรือญาติ

ยังมี

ยังมีญาติรับได้ว่าป่วยยังพออภัยได้

ญาติยังพามารักษา

๓-๕ ปีถัดมา

อยู่บ้านพ่อแม่ที่แก่ตัวหรือแยกไปอยู่ที่นา

ยังพอมีแต่ห่าง

ญาติเริ่มหงุดหงิดทำไมไม่หาย เป็นซ้ำบ่อยๆ

ญาติพามาเวลาทนไม่ไหว

๕-๗ปีถัดมา

เริ่มเร่ร่อนออกจากบ้านเพราะอาการทางจิต

อาจจะมีถ้าตามเจอ อาจไม่มีถ้าไม่ออกตามหา

ญาติพูดถึงเวลาที่นึกขึ้นได้

ตำรวจหรือหน่วยกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาล

๗-๑๐ปีถัดมา

ไม่รู้ว่าบ้านอยู่ไหนเพราะมาไกลเกินกลับ

พ่อแม่แก่ตาย ไม่มีญาติรุ่นต่อมาออกตามหา

ไม่มีคนพูดถึง

ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นชายไทยหรือหญิงไทยไม่ทราบชื่อในประวัติโรงพยาบาล

เกิน ๑๐ปีขึ้นไป

ไม่มี

ไม่มีญาติ

ไม่มีคนรู้จัก

พบได้ตามกองขยะทั่วไป

เกิน๒๐ปีขึ้นไป

ไม่มี

ไม่มีแม้ตัวตน

ไม่รู้เกิดมาทำไม

อย่ามาใกล้เชียวสกปรก น่าขยะแขยง น่ากลัว

        นี้เป็นปรากฏการณ์คร่าวๆที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการสูญเสียที่อยู่อาศัยและไร้ค่าของผู้ป่วยโรคทางสมองและจิตประสาทที่ผ่านการสังเกตของฉัน จนนำมาซึ่งการตัดสินใจบางอย่าง ที่นำไปสู่การกล่าวถึงอย่างมั่นใจว่า ฉันเป็นหมอโรคจิตตัวจริง

       ๕ปีที่แล้ว ฉันตัดสินใจเดินทางไปบ้านคนไข้ หาวิธีให้พวกเขาได้กลับบ้าน กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง กลยุทธ หนังสั้นที่ถ่ายทอดเรื่องราวของคนไข้ถูกนำมาใช้ในชื่อ เจาะใจใส่จอ...ขอกลับบ้าน เพื่อให้ครอบครัว และผู้ดูแลได้มองเห็นว่า เมื่อได้ยา และการฟื้นฟู ผู้ป่วยจะกลับมาสู่ความปกติเสมอ ด้วยกลยุทธนี้ฉันส่งลูกชายและลูกสาวของกว่า ๒๐ ครอบครัวกลับสู่บ้านได้ แต่นั่นมันไม่ทั้งหมด ยังมีคนไข้ที่ญาติปฏิเสธที่จะรับรู้ความเป็นไปของพวกเขาอย่างสิ้นเชิงอีกจำนวนมากที่ฉันไม่รู้ว่าหนังที่ถ่ายทำมาจะนำไปฉายที่ไหน

        ๓ปีที่แล้วคำสวดอ้อนวอนของฉันทำท่าว่าจะเป็นผล เมื่อตรัยรัตน์ทรงเมตตาแม้นใบ้บ้าก็มลาย

คือชื่อที่ฉันใช้เมื่อขอให้วัดและชุมชนช่วยดูแลผู้ป่วยที่ญาติรังเกียจ จนกระทั่งอาการสงบโดยใช้อาศัยความเมตตาของพระพุทธเจ้า และข้อธรรมที่ทรงบัญญัติไว้เป็นที่พักพิงของผู้ป่วยที่สิ้นหวัง

แต่แล้วก็มีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นอีก

         ๖ เดือนที่ แล้วมา ฉันเฝ้าทบทวนว่าในฐานะแพทย์ ฉันทำอะไรได้มากกว่า การให้ยา และเฝ้ามอง วงจรแห่งปรากฏการณ์ไร้บ้าน ไร้ศักดิ์ศรี และสิ้นหวังที่เกิดขึ้นกับคนไข้ แล้วก็ผ่านเลยไป หรือฉันจะทำอะไรได้มากกว่านั้น

         ฟ้าประทานที่ดินชิ้นงาม ที่มีน้ำ ต้นไม้ และผืนดินอันอุดมมาให้ฉัน เพื่อนคนหนึ่งพูดถึงการสร้างบ้านจากดิน เหมือนแสงสว่างที่เกิดขึ้นท่ามกลางความมืด ฉันค่อยๆมองเห็นหนทางของการคืนบ้าน คืนชีวิตให้กับพวกเขาทีละน้อย ฉันถามคนรู้จักว่าถ้าฉันจะพาคนไข้ไปฝึกสร้างบ้านดินเขาจะสนับสนุนฉันไหม เขาถามถึงความเสี่ยงมากมายที่อาจเกิดขึ้น เขามองเห็นภาพของปีศาจร้ายที่อาจคร่าชีวิตมนุษย์ แต่ฉันมองเห็นทางรอด และทางเลือกใหม่ๆของชีวิต ในที่สุดความแปลกจนค่อนไปทางประหลาดของฉันก็เป็นผล ฉันพาคนไข้และครอบครัว ไปฝึกอบรมสร้างบ้านดิน ท่ามกลางสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยของเพื่อนร่วมรุ่น ฉันยังมั่นใจว่าสิ่งมหัศจรรย์กำลังคืบเข้ามา

        อิฐดินดิบก้อนแรกถูกสร้างขึ้นเมื่อ ๑๐ ธันวาคมที่ผ่านมา ผู้คนที่มาช่วยนับสิบ สิ้นหวัง ขบขัน และบอกฉันให้เปลี่ยนใจ อิฐ๓จาก ๑๕ ก้อนที่ได้ในวันนั้นถูกบรรจุไว้ด้วยพระพุทธรูปจำนวนมาก นั่นคือศิลาฤกษ์ของฉัน แสงสะท้อนขององค์พระในก้อนดินบอกให้ฉันอดทน แล้วรอ....

        ไม่กี่ชั่วโมงจากนั้น ความมหัศจรรย์เดินทางมาถึง เพื่อนที่ไม่คาดฝันจากแดนไกล นำความหวังมาให้ มิเชลมาที่สวนพร้อมวิธีสร้างบ้านจากดินและทุกอย่างที่ฉันมีในสวน ง่ายและเป็นไปได้ ญาติของผู้พิการทางสมองที่ฉันจ้างมาเฝ้าสวน คือผู้เปลี่ยนจากความฝันมาเป็นบ้านที่ทุกคนภูมิใจ ผู้คนจากใกล้ ไกล เดินทางมาดูบ้านที่เสร็จใน ๑๒ วัน ว่าใช่บ้านจริงหรือไม่ หรือเป็นแค่เตาเผาถ่านอย่างที่เขาลือกัน แล้วทุกคนก็เห็นและสัมผัสได้ นี่คือบ้านจริงๆ

        คนทำงานทุกๆคนของฉันสวรรค์ส่งมา คนไข้โรคจิตหวาดระแวง คือมือผสมดินขั้นเทพ ผู้พิการอัมพฤกษ์ครึ่งซีกคือคนผูกลวดชั้นยอด หญิงชราผู้โศกเศร้าผิดหวังคือนักวิชาการและนักการบัญชีชั้นครู ชายชราผู้ไร้แผ่นดินคือผู้สร้างโครงบ้านได้เหมือนอ่านใจฉันได้ แต่ละคนดึงดูดผู้คนให้เข้ามาช่วยฉันสร้างบ้าน ทีละคนสองคน ศัลยแพทย์วางมีดผ่าตัดมาช่วยฉันปั้นลายนูนต่ำรอบตัวบ้าน พยาบาลวางเข็มมาช่วยฉันร่อนทราย เด็กเล็กๆหิ้วกระป๋องคนละอันไปช่วยฉันตามล่าหาดินสีแดง เราสนุกกันมากขึ้นทุกวัน เรากล้าหาญมากขึ้นทุกวัน เรามีความสุขร่วมกันทุกวัน จนกระทั่งวันนี้ วันที่ฉันยืนมองบ้านหลังแรกอย่างภูมิใจ และหันมองบ้านหลังที่สองอย่างลิงโลด ใช่แล้ว!!! อ่านไม่ผิดหรอก บ้านหลังที่สองเริ่มแล้ว กว่าครึ่ง....  ฉันทำได้จริงๆ 

        บ้านที่ฉันอยากมอบให้กับผู้คนที่ไม่รู้ว่า บ้านอยู่ที่ไหน ใครคือญาติ และความหมายของตัวตนคืออะไร ที่นี่พวกเขาจะได้รับการเยียวยา ฉันจะช่วยให้เขาเรียกจิตวิญญาณกลับคืนมา ฉันจะช่วยให้เขาระลึกชื่อตัวเองได้ บอกชื่อพ่อแม่ได้ และจำได้ว่าเขามาจากไหน ฉันจะสอนให้เขากินยา เพื่อรักษาสมองที่เจ็บป่วยให้ฟื้นคืน ฉันจะช่วยเขาตามหาญาติที่เหลืออยู่   ฉันจะช่วยให้เขาได้กลับบ้านที่แท้จริงอีกครั้ง  แต่ถ้ามันหมดหวัง ที่นี่จะเป็นบ้านของเขา 

         

              พระพุทธส่งความหวังและศรัทธามาให้ฉัน

          พระธรรมทำความฝันให้ปั้นได้

          พระสงฆ์ส่งมวลมิตรมามากมาย

          รัตนตรัยฉายฉานให้ฉันเดิน

                

                จากดินดำที่เดิมเคยฝังร่าง

        มาเป็นบ้านของฉันอย่างไม่ขาดเขิน

        เย็นยิ่งหนอหอห้องมองยิ่งเพลิน 

        จิตเจริญใจกระจ่างสร้างเรือนรัง

 

              จากสติเลื่อนลอยไม่รู้บ้าน

        เริ่มเห็นเสาเห็นคานเห็นผนัง

        นี่หน้าต่างนี่เพดานนี่บานบัง

        และตัวฉันที่ยังรอเมตตา

 

              ประกอบตมขึ้นมาอาศัยซุก

         เหมือนมีคนคืนความความสุขที่ตามหา

         เหมือนชีวิตที่หายไปได้คืนมา

         บ้านที่เฝ้าฝันหาได้มาจริง

        

ฉันยังเป็นหมอโรคจิตที่ทุกคนหนีห่าง  
แต่ฉันดีใจที่ฉันมีบ้านเป็นของขวัญให้คนไข้ที่ไม่ที่ไป


โดย แพทย์หญิงปริยสุทธิ์ อินทสุวรรณ <หมอแ้มยุ้ย> 

หมายเลขบันทึก: 463481เขียนเมื่อ 2 ตุลาคม 2011 14:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 เมษายน 2012 13:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ชอบตารางบันทึก และวิธีการเล่า ที่แสดงถึงความเข้าใจ พอๆ กับความคิดสร้างสรรค์คะ

เชื่อว่าในความเป็นมนุษย์ ไม่ว่าอาชีพไหน ต่างมีธาตุที่จะทำดี เพียงแต่รอใครสักคนมาจุดประกาย

ขอบคุณ คุณหมอที่จุดประกายเพื่อผู้ป่วย ได้มีบ้านให้ จิต กลับมาคะ :-)

อบากเห็นจัง........

บ้านดิน หลังแรก  หลังที่สอง  หลังที่สาม และ.......4..5..6..7..8..9......

อยู่ที่ไหนหนอ

ดูภาพบ้านที่เสร็จแล้วได้ที่ www.notesfromthailand.net ค่ะ หัวข้อบ้านดิน

มีทั้งภาพ และหนังให้ดูค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท