จอ + บอ = จบ


จอ + บอ = จบ

วันก่อนรับปากว่าจะเขียนเกี่ยวกับ "จบ"

แต่ขอเริ่มตามชื่อเรื่องที่ว่า จอ + บอ = จบ  ซึ่งเป็นสมการทางคณิตศาสตร์ที่ อ.อ่าง ๒ ตัว หายไป แล้วเกิดคำใหม่ ความหมายใหม่  (แสดงว่า อ.อ่าง ไม่มีความสำคัญเอาเสียเลยนิ ดังนั้น อ.อ่าง ก็เลย "อด" เลย)

"จบ" คำนี้สั้นๆ มี ๒ ตัวอักษรเท่านั้น แต่ผู้เขียนคิดว่ามีความหมายมากสำหรับชีวิตของเรา

ช่วงหลายปีที่ผ่านมาเวลามีพิธีพระราชทานปริญญาบัตร เรามักจะเห็นน้องๆ เพื่อนๆ พี่ ถือป้ายทะเบียนรถยนต์ แล้วเขียนว่า เช่น จบ2538 จบ2552 เป็นต้น

หลายๆ ท่านคงจะมีความรู้ที่ว่า "จบ" การเรียนในระดับชั้นต่างๆ (ไม่ว่าจะเป็น ประถม มัธยม อุดมศึกษา) แล้วมีความรู้สึกว่ามีความสุขเหลือเกินที่ได้ผ่านการศึกษาในระดับต่างๆ น่าจะลองดู คือ จ. = จิต  และ บ. = บริสุทธิ์ หมายความว่า ไม่ว่าจะเรื่องใดๆ ก็ตามแต่เข้ามาในชีวิตของเรา เราจะต้องทำจิตใจให้บริสุทธิ์ แล้วทำอย่างจะ "จบ" อย่างสวยงามและมีความสุข  

อักษร "จ" และ "บ" หากเราลองแยกออกจากกัน แล้วหาคำมาแทนและให้ความหมายเพิ่มเติมดู เพื่อให้ความหมายของ "จบ" มีรสชาติมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ ผู้เขียนจึงขอนำเสนอ ดังนี้

จ. อาจจะเป็นคำว่า "จาก"  โดยจากที่ว่านี้ คือ จากไป จากกัน ไม่เจอกันอีกแล้ว

จ. อาจจะเป็นคำว่า "จุดสุดท้าย"  และหรือ เป็น "จุดเริ่มต้นใหม่" ก็ได้

จ. อาจจะเป็นคำว่า "จิต ใจ" คือ ทำอะไรที่ทำด้วยจิตด้วยใจที่บริสุทธิ์และตั้งใจ

ที่นี้ สำหรับ "บ" นั้น

บ. อาจจะเป็นคำว่า "บริบูรณ์" ที่หมายถึงสมบูรณ์ ถูกต้อง ครบถ้วน

บ. อาจจะเป็นคำว่า "บริสุทธิ์"

บ. อาจจะเป็นคำว่า "บริจาค"

บ. อาจจะเป็นคำว่า "บริการ"

เอาเป็นง่ายๆ ดังนี้ก็แล้วกัน คือ เมื่อไหร่ก็ตาม ที่ จ.จาน กับ บ.ใบไม้ มาเจอกันอยู่ด้วยกันแล้ว จะต้องเกิดการจากกันไป (พบกับจุดสิ้นสุด เพื่อไปจุดเริ่มต้นใหม่) อย่างบริบูรณ์สมบูรณ์ครบถ้วน ด้วยเหตุนี้ หากว่าเราทุกคนเข้าใจคำว่า "จบ" ให้ดีแล้ว ชีวิตของเราจะพบกับความสุขอย่างบริสุทธิ์

ท่านใดที่รับราชการหรือมีญาติพี่น้องที่รับราชการคงจะทราบกันดีว่า เมื่่อไรก็ตามที่เราทำงานมาถึงวันที่ ๓๐ กันยายนของทุกๆ ปี จะต้องมีท่านข้าราชการที่จะต้องเกษียณอายุราชการ ทั้งนี้พอต่อมาวันที่ ๑ ตุลาคม ท่านนั้นจะไม่ต้องไปทำงานอีกแล้ว  หรือ เรียกว่า "จบชีวิตราชการ"  อันหมายถึง จุดสุดท้ายของการบริการแก่ประชาชนราษฎรอย่างบริบูรณ์  อย่างไรก็ดี ก็อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการที่จะทำตัวเองให้บริสุทธิ์เพื่อใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้บริการแก่สังคม บริจาคทาน (ให้หรือใช้ความรู้ที่สะสมมาตลอดชีวิตราชการ) แก่ชุมชนต่างๆ ที่เขาต้องการ  ซึ่งผู้เขียนคิดว่า "จบ" สำหรับผู้ที่เกษียณอายุไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือเอกชน หากท่านเข้าใจคำว่า "จบ" ให้ดีจะเห็นว่าเป็นที่เรื่องที่น่าสนุกเป็นอย่างมาก ที่เราจะได้ถึงจุดสิ้นสุดของสิ่งหนึ่งแล้วได้พบกับจุดเริ่มต้นของอีกสิ่งหนึ่ง  และจุดริ่มต้นใหม่นี้หากเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ที่พร้อมจะให้บริการ บริจาคทาน แล้วละก็จะเป็นการพบความสุขของการ "จบ" อย่างแท้จริง

ผู้เขียนขอนำเรื่องจริงของอาจารย์ท่านหนึ่งที่ท่านเกษียณอายุราชการ ซึ่งเมื่อท่านนี้เกษียณแล้วผู้เขียนมีความรู้สึกท่านกลับทำงานมากกว่าตอนที่ยังไม่เกษียณ โดยเป็นการทำงานที่ใช้ความรู้ประสบการณ์ของท่านช่วยเหลือวงการศึกษาของไทยให้มีความเจริญ อันเป็นตัวอย่างของการ "จบ" ที่เกิดประโยชน์ต่อสังคม  ถ้าหากสังคไทยของเรามีผู้เกษียณอายุราชการแล้วนำความรู้ความสามารถไปช่วยเหลือสังคม (โดยไม่หวังค่าตอบแทนใดๆ) เป็นจำนวนมากๆ แล้ว บ้านเมืองของเราการศึกษาของไทยเราน่าจะดีขึ้นเป็นอย่างมาก

หลายๆ ท่านอาจจะมีความรู้สึกว่า เมื่อไรจะเรียน "จบ" เสียที เมื่อไรชีวิตของเราจะจบสิ้น  ซึ่งโดยข้อเท็จจริงแล้วมนุษย์เราเวียนว่ายตายเกิดไม่มีวันจบสิ้น เว้นแต่พระพุทธองค์ พระอรหันต์ ที่ท่านได้บรรลุพระธรรมแล้ว  ท่านเหล่านั้นขอ "จบ" แบบบริบูรณ์และบริสุทธิ์ ที่ไม่มีจุดเริ่มต้นใหม่อีกแล้ว  สำหรับมนุษย์ธรรมดาหากเราทำกรรมไม่ว่าจะดีหรือชั่ว ถึงแม้ว่าจะจบในชาตินี้ แต่ชาติหน้าก็ยังจะรอให้จบอีก เป็นอย่างนี้ไม่มีวันสิ้นสุด  แล้วที่นี้เราจะทำกันอย่างไร เพื่อให้ จอ +บอ = จบ อย่างมีความสุข

คำสำคัญ (Tags): #จอ + บอ = จบ
หมายเลขบันทึก: 463480เขียนเมื่อ 2 ตุลาคม 2011 14:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 มิถุนายน 2012 11:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท